สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิว การไปเที่ยวฟูก๊วกซึ่งเป็นเกาะหนึ่งของประเทศเวียดนาม ซึ่งจากการหาข้อมูลมาที่ทำให้อยากไปเพราะ
1.น่าจะไม่แพงมั้ง 555
2.มีสวนสนุก มีกระเช้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
ep.2
https://pantip.com/topic/43805265?sc=bcq4Cbs
*** หมายเหตุ ในการรีวิวนี้ ขออนุญาตใช้หน่วยเป็นเงินบาทและค่าเงินโดยประมาณเท่าที่จำได้ค่ะ
แพลนในตอนแรก
เริ่มแรกเลยเราเริ่มจอง ที่พัก + ตั๋วเครื่องบิน จำนวน 5 วัน 4 คืน รวดเดียวเลยที่โรงแรมโนโวเทล สำหรับ 4 ชีวิต (เรา,สามี,ลูกชายคนโต 8 ขวบ,ลูกชายคนเล็ก 5 ขวบ) โดยเริ่มจอง ตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจริง ตุลาคม สนนราคา 26,710 บาท
ตั๋วกิจกรรม ซื้อกับ klook แนะนำว่า ซื้อก่อนไปนะคะไม่ต้องล่วงหน้านาน ดูสภาพอากาศก่อน เราซื้อไป 2 กิจกรรมค่ะ
1. ขึ้นกระเช้าไปกลับฮอนทอม + สวนน้ำอวาโทเปีย จะได้รับเครื่องดื่มฟรี 4 แก้ว
2,862 บาท / 4 คน
2. บัตรเข้าสวนสนุกวินวันเดอร์
3,433 บาท/4 คน
การเดินทางเราเลือกที่ดอนเมือง แต่บ้านอยู่ใกล้สุวรรณภูมินะคะ แต่ดูแล้วตั๋วถูกกว่าคุ้มกว่าแล้วจองที่จอดรถกับทางแอพมีบริการรับส่งถึงสนามบิน ราคา 800 กว่าบาท สำหรับ 5 วัน
....และก็ไปถึงฟูก๊วก....
กว่าจะต่อแถวผ่าน ตม. เกือบชั่วโมง เพราะเราลงคนท้ายๆ และเคาเตอร์เปิดแค่ 3 ช่อง จนท.บอกว่าเครื่องบินเราผู้โดยสารบินเต็มลำด้วยค่ะ
อ้อเล่าให้ฟังก่อน ที่จะเดินทางมาเรามีการประสานงานกับทางโรงแรมว่า ทางโรงแรมมีรถมารับฟรีที่สนามบินไปยังโรงแรม ก็ได้มีการประสานงานกันไปต่างๆนานาแต่ด้วยความที่ว่าเครื่องบินก็ดีเลย์ด้วย ต่อแถวที่ตม.ก็นานด้วย พนักงานก็น่าจะไม่รอแล้วหรือเปล่า เลยเรียกแกร็บไปที่โรงแรมราคาก็ประมาณ 100 กว่าบาท ในตอนนั้นเด็กๆก็เริ่มหิวแล้ว เลยซื้อขนมปังให้ทานคนละชิ้นซึ่งเรียกว่าบั๋นหมี่ ราคาไม่แพงค่ะ ตกชิ้นละ 60 บาท
ระหว่างทางไปโรงแรมบอกเลยค่ะว่าเราค่อนข้างแปลกใจเพราะเข้าใจว่าที่นี่คือบรรยากาศน่าจะประมาณพัทยา หรือสมุยอะไรประมาณนี้ เพราะน่าจะเป็นเกาะท่องเที่ยว แต่พอไปถึงข้างทางก็คือยังเป็นบ้านธรรมดาเป็นเหมือนหมู่บ้าน ชนบทของประเทศไทยเลย ไม่ได้มีสีสันครื้นเครงไปซะทั้งหมดเป็นจุดๆซะมากกว่า
และก็มาถึงโรงแรมค่ะก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของโนโวเทล พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วบริการก็ดีค่ะ ห้องพักตรงปก
ที่นี่ไม่มีเซเว่นอีเลฟเว่นหรือร้านสะดวกซื้อเยอะนะคะ จะเป็นร้านค้าเล็กๆ ของราคาไม่แพงค่ะ
วันแรกก็เดินเล่นแถวๆโรงแรมค่ะ แล้วก็เรียกแกร็บกะว่าจะไปเดินตลาดกลางคืน ฟูก๊วก ไนท์มาเก็ต ที่โรงแรมก็ฝนตกปอยๆแล้วแต่ว่าใจสู้กะว่าไปถึงที่ตลาดเขาน่าจะเป็นตลาดในร่มหรือเปล่า หรือไม่ก็อาจจะมีทางป้องกันทำให้เราเดินได้ แต่ผิดคาดปรากฏว่าฝนตกหนักมาก จนต้องซื้อเสื้อกันฝนใส่ ตัวละประมาณ 40 บาท แล้วก็นั่ง Grab มาเดินตลาดนัดแถวๆโรงแรม ค่าแกร็บ ไปกลับประมาณ 300 กว่าบาท แอพแกร็บ สามารถใช้ตัวที่ใช้ในประเทศไทยได้เลยค่ะไม่ต้องลงใหม่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แต่เราเอามาผูกใหม่กับบัตร youtrip แทน
บัตรนี้ดีมากเลยนะคะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนหลัง
ตลาดนัดตรงที่อยู่ใกล้ๆโรงแรมโนโวเทลนี้สามารถเดินมาได้เลยค่ะ โอเคเลยนะคะข้าวของเยอะอยู่มี 2 ฝั่ง ลูกๆติดใจ เป็นเหมือนรถไฟฟ้าคันเล็กๆแต่ขับซิ่งได้ เล่นทุกคืนเลยค่ะ 20 นาทีประมาณ 70 บาทไทย
แล้วก็มาถึงอาหารจริงๆจังๆมื้อแรก
ชื่อร้านตามรูปเลยค่ะ BONG BBQ ราคาตีเป็นเงินไทยประมาณ 943 บาท คนเกาหลีเยอะมากที่นี่คนเกาหลีจะเยอะมากๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหน ตามป้ายร้านค้าก็จะมีแต่ภาษาเกาหลี อาหารถือว่าอร่อยค่ะโดยเฉพาะผักสดมาก มื้อนี้ไม่ได้กินอาหารทะเลนะคะเพราะดูแล้วราคาน่าจะแรง แล้วก็รีวิวไม่ค่อยดีค่ะ ทุกอย่างอร่อยหมดค่ะลูกชายเบิ้ลซี่โครงหมูไป 2 จาน ข้าวผัดค่อนข้างแข็งนิดนึงแต่พอทานได้
จากนั้นพวกเราก็เดินกลับโรงแรมกันค่ะระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่ อ๋อที่ตลาดในเวียดนามนี่รองเท้า Crocs ปลอมเยอะมาก ราคาไม่แพงด้วยค่ะคู่ละประมาณ 300 กว่าบาทของเด็กๆ ของผู้ใหญ่ก็จะซักประมาณ 400-500 บาท
ที่โรงแรมเราจองแบบมีอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ทุกวันซึ่งก็ไม่ผิดหวัง อาหารเช้า เยอะมากและอร่อยมากคุ้มมากค่ะ จากการสังเกตจะดูว่าโรงแรมจะจัดอาหารตามเชื้อชาติของผู้เข้าพักวันไหนถ้ามีชาวเกาหลีรวมรับประทานด้วยเยอะๆ อาหารก็จะเป็นแนวเกาหลีค่ะซึ่งอันนี้เราปลื้มมากจะเป็นพวกปีกไก่ทอดแล้วก็ไก่หมักซอสบาร์บีคิว 3 ชั้นอะไรแบบนี้ ส่วนวันไหนถ้าได้ร่วม กับชาวอินเดียเยอะๆอาหารก็จะเป็นพวกข้าวเหลืองๆ อะไรพวกนี้ค่ะ แล้วก็แกงอินเดีย แต่อาหารเขาก็มีอยู่ให้เลือกหลายชนชาติค่ะ โดยรวมก็ทานได้ค่ะ อร่อยด้วยโดยเฉพาะเบเกอรี่
ในวันที่ 2
ตาม plan เราจะต้องไป Grand World แต่ฝนตกหนักมากตั้งแต่เช้า เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนกันเพราะมาดูใน Voucher ที่ซื้อแล้ว เป็นแบบ เลือกวันได้ จนกว่าจะถึง 21 พฤศจิกายนก็เลยตัดสินใจว่าเลื่อนออกไปก่อน วันนี้จะไปฟาร์มผึ้งค่ะแล้วตอนบ่ายจะไปซื้อของฝากแทนเดินห้างจะได้ไม่เปียกฝน
bee farm หรือฟาร์มผึ้ง เรายังไม่เจอรีวิวของคนไทยเลยนะคะ หรือเปิดดูหาไม่ดีไม่รู้ แต่ตอนหาข้อมูลไปเจอเว็บบอร์ดของชาวญี่ปุ่นก็ใช้ Google Translate แปลภาษาเอา เห็นว่าน่าไปแล้วเหมาะกับเด็กๆก็เลยตัดสินใจไปค่ะเพราะไม่รู้จะไปที่ไหนด้วย ค่าแกร็บหมดไปประมาณ 300 กว่าบาทสำหรับขาเดียว ถามว่าดีไหมคุ้มค่าไหมเราว่าโอเคนะคะเป็นฟาร์มผึ้งเล็กๆ เรียบง่าย มีการเพาะพันธุ์เพิ่งโชว์ก็มีให้เด็กๆจับผึ้งด้วยค่ะแต่ลูกเราไม่กล้าจับ มีผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง เครื่องดื่มก็ราคาไม่แพงค่ะ
อย่างในรูปที่เป็นเซตน้ำส้มแล้วก็มีน้ำผึ้งมาให้ด้วยราคา 100 ต้นๆหรือไม่ถึง 100 นี่ล่ะค่ะ เบ็ดเสร็จซื้อน้ำผึ้งแล้วก็พวกของฝากต่างๆหมดไปประมาณ 1,000 กว่าบาทได้ของเยอะเลยค่ะ คุยกับแกร็บ ก็ใช้ app แปลภาษากันค่ะประมาณว่าเขาจะให้เราเหมารถเขาเพราะว่าน่าจะเรียก Grab ยากจากที่นี่ ซึ่งเราดูสภาพการแล้วก็น่าจะจริงค่ะแล้วก็ได้ถามจากเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ก็เห็นด้วยว่าควรจะเหมารถกลับไปเลย เพราะว่ามี Grab เข้ามาน้อยมาก ตอนที่เราไปก็เป็นคณะเดียวที่มาที่นี่ตั้งแต่ไปจนกลับไม่มีใครมาเลย น้องที่เป็นคนนำทัวร์แนะนำที่นี่พูดภาษาอังกฤษคล่องมากค่ะ
ตอนแรกเราว่าจะไปซื้อของที่คิงคองมาร์ท แต่เปลี่ยนใจคิดว่าจะลองไปลองบีชเซ็นเตอร์ก่อนเพราะอยู่ระยะทางไม่ไกลกันสามารถเดินไปหากันได้
พี่ลองบีชเซ็นเตอร์ซื้อของไปประมาณพันกว่าบาททั้งของที่อยากจะลองกินเอง และของฝากเลยน้อยๆ หมดไปประมาณพันกว่าบาท พนักงานจะให้ถ่ายใบเสร็จมาสามารถไปแลกกาแฟดื่มได้ 2 แก้ว ห้างที่นี่ฝากของปีได้นะคะซื้อแล้วก็เลยจะเดินไปที่คิงคองมาร์ทต่อ ระหว่างนี้ฝนก็มีโปรยปรายนิดหน่อยพอเดินได้ค่ะ
ระหว่างนั้นเลยแวะหาอาหารกลางวันทาน
ร้านนี้ตั้งอยู่ข้างๆ คิงคอง
อาหารรสชาติใช้ได้เลยค่ะ หมดไปประมาณ 700 กว่าบาท
คิงคองมาร์ทเห็นแบบนี้ข้างในคือกว้างใหญ่มากมีครบทุกอย่าง โดยเฉพาะชาราคาถูกมากๆมีแบบตักเอง ราคาแค่ 10 กว่าบาทเอง ต่อขีด ซื้อของฝากที่คิงคองหมดไปอีกพันหน่อยๆค่ะ ตรงนี้สามารถใช้บัตร youtrip รูดได้เลยนะคะ
พอออกมาจากคิงคองเราก็เลยคุยกับสามีว่า เช่ามอเตอร์ไซค์ขับดีกว่าไหม จากคล่องตัวมากกว่าและไม่ต้องมาเสียค่า Grab ด้วย เลยตัดสินใจไปเช่ามอเตอร์ไซค์ร้านข้างๆกับ Long Beach Center ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ราคาประมาณวันละ 180 บาท เขาจะยึดพาสปอร์ตเราไว้ 1 เล่มค่ะพร้อมกับทำสัญญา แต่พอสตาร์ทเท่านั้นแหละปรากฏว่ารถแทบจะไม่มีน้ำมันเลยเลยต้องซื้อน้ำมันทางร้านอีก 2 ลิตรประมาณลิตรละ 50 บาท
แล้วก็ขับกลับโรงแรมค่ะ ให้เด็กๆได้เล่นสระเล่นทะเลกันแล้วรอเวลากลางคืนขับไป ฟูก๊วกไนท์มาร์เก็ต
ที่ ฟูก๊วกไนท์เก็ตอาหารก็ต้องเลือกดูให้ดีค่ะ
ยกตัวอย่างลูกเราชอบกินไส้กรอกของที่นี่มาก ร้านแรกๆ พอเข้าตลาดมาไม้ละ 40 บาทเราจัดให้ลูก 2 ไม้พอเดินเข้าไปข้างใน บางร้านไม้ละ 15 บาทก็มีค่ะ
ในรูปที่เรากินราคาประมาณ 200 บาทหน่อยๆเองค่ะปลาหมึกคือสดสะใจมากตัวละประมาณ 10 บาท ดูรีวิวดีๆนะคะ
จากนั้นเราก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับโงแรมค่ะค่ะ
วันที่ 3
วันนี้ตามแพลนได้เลยค่ะและถ้าไม่ตามแพลนก็ไม่ได้ เพราะ Voucher กิจกรรมที่ซื้อมา กำหนดให้เฉพาะวันนี้ก็คือการขึ้นกระเช้าฮอนทอม แต่วันนี้ไปได้สบายค่ะเพราะฝนไม่ตกขับมอเตอร์ไซค์ไปกันเลยชิวๆ
ไปถึงยังไม่ถึงเวลาขึ้นกระเช้าและภายนอกไม่มีคนเลยค่ะ ซึ่งเราไปก่อนประมาณ 1 ชั่วโมงได้ก็เดินเล่นเตะๆกันรอเวลา ขึ้นกระเช้าเมื่อถึงเวลา เขาจะแยกแถวออกเป็นสองแถวค่ะแถวที่จะได้ไปก่อนก็คือแถวพนักงานที่ต้องไปทำงานบนเกาะฝั่งโน้น ส่วนเราได้ขึ้นเป็นคนที่ 2 ค่ะกระเช้านี้จะขึ้นได้ประมาณ 8 คน ซึ่งก็ต้องนั่งรวมกับคนอื่นไป บนกระเช้าไม่มีแอร์แต่ลมเย็นพัดสบายตลอดค่ะวิวสวยงามนั่งประมาณ 20 นาที ก็ถึงฝั่งของสวนน้ำอควาโทเปีย ซึ่งบัตรที่ซื้อมาจะรวมค่าเข้าสวนน้ำสวนสนุกและเครื่องดื่ม 1 แก้วค่ะวันนั้นได้เป็นน้ำแตงโม
บอกตรงๆเราค่อนข้างจะผิดหวังกับที่นี่นิดนึงค่ะโซนสวนสนุกแทบจะไม่มีอะไรเลยยังสร้างไม่เสร็จจะเป็นส่วนใหญ่และอันที่เล่นได้ส่วนสูงลูกก็ไม่ถึง คนโต 121 คนเล็ก 105 cm แต่สวนน้ำก็มีให้เลือกเล่นหลากหลายค่ะซึ่งเขาจะเน้นเป็นสวนน้ำมากกว่าที่นี่สไลเดอร์มีให้เลือกหลายแบบ
ภาพในสวนสนุกเก็บมาได้เท่านี้ค่ะเพราะว่าโซนสวนน้ำไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงไปแล้ว ไปถึงก็จะต้องไปเช่าlocker แล้วพวกผ้าเช็ดตัวอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนใครจะซื้อ Voucher แบบรวมอาหารบุฟเฟ่ต์กลางวันก็ได้นะคะ แต่เราดูรีวิวมาแล้วเหมือนไม่ค่อยโอเค ก็เลย ส่วนครอบครัวเราเล่นสวนน้ำเสร็จก็จัดการข้ามฝั่งมาค่ะ ขากลับนี้ไม่ต้องนั่งร่วมกระเช้ากับใครแล้วค่ะกระเช้าค่อนข้างว่างเขาจัดให้ครอบครัวละ 1 กระเช้าสังเกตว่าบางกระเช้าก็ไม่มีคนด้วย
ข้ามฝั่งมา ก็ขับมอเตอร์ไซค์มาต่อที่ แถวตลาด vui fest ซึ่งอยู่แถวๆ kiss bridge หรือสะพานจูบนั่นเอง Voucher ที่เราซื้อมาก็รวมค่าเข้าสะพานด้วย แต่ไม่รวมการแสดงโชว์นะคะ ต้องเพิ่มอีกคนละ 700 กว่าบาท ต่อ ep.2
https://pantip.com/topic/43805265?sc=bcq4Cbs
EP.1 ฟูก๊วก ฟูใจ สไตล์ครอบครัว คุ้มไหมน่าไปไหม มาดูกัน
1.น่าจะไม่แพงมั้ง 555
2.มีสวนสนุก มีกระเช้าข้ามทะเลที่ยาวที่สุดในโลก
ep.2
https://pantip.com/topic/43805265?sc=bcq4Cbs
*** หมายเหตุ ในการรีวิวนี้ ขออนุญาตใช้หน่วยเป็นเงินบาทและค่าเงินโดยประมาณเท่าที่จำได้ค่ะ
แพลนในตอนแรก
เริ่มแรกเลยเราเริ่มจอง ที่พัก + ตั๋วเครื่องบิน จำนวน 5 วัน 4 คืน รวดเดียวเลยที่โรงแรมโนโวเทล สำหรับ 4 ชีวิต (เรา,สามี,ลูกชายคนโต 8 ขวบ,ลูกชายคนเล็ก 5 ขวบ) โดยเริ่มจอง ตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจริง ตุลาคม สนนราคา 26,710 บาท
ตั๋วกิจกรรม ซื้อกับ klook แนะนำว่า ซื้อก่อนไปนะคะไม่ต้องล่วงหน้านาน ดูสภาพอากาศก่อน เราซื้อไป 2 กิจกรรมค่ะ
1. ขึ้นกระเช้าไปกลับฮอนทอม + สวนน้ำอวาโทเปีย จะได้รับเครื่องดื่มฟรี 4 แก้ว
2,862 บาท / 4 คน
2. บัตรเข้าสวนสนุกวินวันเดอร์
3,433 บาท/4 คน
การเดินทางเราเลือกที่ดอนเมือง แต่บ้านอยู่ใกล้สุวรรณภูมินะคะ แต่ดูแล้วตั๋วถูกกว่าคุ้มกว่าแล้วจองที่จอดรถกับทางแอพมีบริการรับส่งถึงสนามบิน ราคา 800 กว่าบาท สำหรับ 5 วัน
....และก็ไปถึงฟูก๊วก....
กว่าจะต่อแถวผ่าน ตม. เกือบชั่วโมง เพราะเราลงคนท้ายๆ และเคาเตอร์เปิดแค่ 3 ช่อง จนท.บอกว่าเครื่องบินเราผู้โดยสารบินเต็มลำด้วยค่ะ
อ้อเล่าให้ฟังก่อน ที่จะเดินทางมาเรามีการประสานงานกับทางโรงแรมว่า ทางโรงแรมมีรถมารับฟรีที่สนามบินไปยังโรงแรม ก็ได้มีการประสานงานกันไปต่างๆนานาแต่ด้วยความที่ว่าเครื่องบินก็ดีเลย์ด้วย ต่อแถวที่ตม.ก็นานด้วย พนักงานก็น่าจะไม่รอแล้วหรือเปล่า เลยเรียกแกร็บไปที่โรงแรมราคาก็ประมาณ 100 กว่าบาท ในตอนนั้นเด็กๆก็เริ่มหิวแล้ว เลยซื้อขนมปังให้ทานคนละชิ้นซึ่งเรียกว่าบั๋นหมี่ ราคาไม่แพงค่ะ ตกชิ้นละ 60 บาท
ระหว่างทางไปโรงแรมบอกเลยค่ะว่าเราค่อนข้างแปลกใจเพราะเข้าใจว่าที่นี่คือบรรยากาศน่าจะประมาณพัทยา หรือสมุยอะไรประมาณนี้ เพราะน่าจะเป็นเกาะท่องเที่ยว แต่พอไปถึงข้างทางก็คือยังเป็นบ้านธรรมดาเป็นเหมือนหมู่บ้าน ชนบทของประเทศไทยเลย ไม่ได้มีสีสันครื้นเครงไปซะทั้งหมดเป็นจุดๆซะมากกว่า
และก็มาถึงโรงแรมค่ะก็ถือว่าเป็นมาตรฐานของโนโวเทล พนักงานสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วบริการก็ดีค่ะ ห้องพักตรงปก
ที่นี่ไม่มีเซเว่นอีเลฟเว่นหรือร้านสะดวกซื้อเยอะนะคะ จะเป็นร้านค้าเล็กๆ ของราคาไม่แพงค่ะ
วันแรกก็เดินเล่นแถวๆโรงแรมค่ะ แล้วก็เรียกแกร็บกะว่าจะไปเดินตลาดกลางคืน ฟูก๊วก ไนท์มาเก็ต ที่โรงแรมก็ฝนตกปอยๆแล้วแต่ว่าใจสู้กะว่าไปถึงที่ตลาดเขาน่าจะเป็นตลาดในร่มหรือเปล่า หรือไม่ก็อาจจะมีทางป้องกันทำให้เราเดินได้ แต่ผิดคาดปรากฏว่าฝนตกหนักมาก จนต้องซื้อเสื้อกันฝนใส่ ตัวละประมาณ 40 บาท แล้วก็นั่ง Grab มาเดินตลาดนัดแถวๆโรงแรม ค่าแกร็บ ไปกลับประมาณ 300 กว่าบาท แอพแกร็บ สามารถใช้ตัวที่ใช้ในประเทศไทยได้เลยค่ะไม่ต้องลงใหม่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น แต่เราเอามาผูกใหม่กับบัตร youtrip แทน
บัตรนี้ดีมากเลยนะคะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนหลัง
ตลาดนัดตรงที่อยู่ใกล้ๆโรงแรมโนโวเทลนี้สามารถเดินมาได้เลยค่ะ โอเคเลยนะคะข้าวของเยอะอยู่มี 2 ฝั่ง ลูกๆติดใจ เป็นเหมือนรถไฟฟ้าคันเล็กๆแต่ขับซิ่งได้ เล่นทุกคืนเลยค่ะ 20 นาทีประมาณ 70 บาทไทย
แล้วก็มาถึงอาหารจริงๆจังๆมื้อแรก
ชื่อร้านตามรูปเลยค่ะ BONG BBQ ราคาตีเป็นเงินไทยประมาณ 943 บาท คนเกาหลีเยอะมากที่นี่คนเกาหลีจะเยอะมากๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหน ตามป้ายร้านค้าก็จะมีแต่ภาษาเกาหลี อาหารถือว่าอร่อยค่ะโดยเฉพาะผักสดมาก มื้อนี้ไม่ได้กินอาหารทะเลนะคะเพราะดูแล้วราคาน่าจะแรง แล้วก็รีวิวไม่ค่อยดีค่ะ ทุกอย่างอร่อยหมดค่ะลูกชายเบิ้ลซี่โครงหมูไป 2 จาน ข้าวผัดค่อนข้างแข็งนิดนึงแต่พอทานได้
จากนั้นพวกเราก็เดินกลับโรงแรมกันค่ะระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่ อ๋อที่ตลาดในเวียดนามนี่รองเท้า Crocs ปลอมเยอะมาก ราคาไม่แพงด้วยค่ะคู่ละประมาณ 300 กว่าบาทของเด็กๆ ของผู้ใหญ่ก็จะซักประมาณ 400-500 บาท
ที่โรงแรมเราจองแบบมีอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ทุกวันซึ่งก็ไม่ผิดหวัง อาหารเช้า เยอะมากและอร่อยมากคุ้มมากค่ะ จากการสังเกตจะดูว่าโรงแรมจะจัดอาหารตามเชื้อชาติของผู้เข้าพักวันไหนถ้ามีชาวเกาหลีรวมรับประทานด้วยเยอะๆ อาหารก็จะเป็นแนวเกาหลีค่ะซึ่งอันนี้เราปลื้มมากจะเป็นพวกปีกไก่ทอดแล้วก็ไก่หมักซอสบาร์บีคิว 3 ชั้นอะไรแบบนี้ ส่วนวันไหนถ้าได้ร่วม กับชาวอินเดียเยอะๆอาหารก็จะเป็นพวกข้าวเหลืองๆ อะไรพวกนี้ค่ะ แล้วก็แกงอินเดีย แต่อาหารเขาก็มีอยู่ให้เลือกหลายชนชาติค่ะ โดยรวมก็ทานได้ค่ะ อร่อยด้วยโดยเฉพาะเบเกอรี่
ในวันที่ 2
ตาม plan เราจะต้องไป Grand World แต่ฝนตกหนักมากตั้งแต่เช้า เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนกันเพราะมาดูใน Voucher ที่ซื้อแล้ว เป็นแบบ เลือกวันได้ จนกว่าจะถึง 21 พฤศจิกายนก็เลยตัดสินใจว่าเลื่อนออกไปก่อน วันนี้จะไปฟาร์มผึ้งค่ะแล้วตอนบ่ายจะไปซื้อของฝากแทนเดินห้างจะได้ไม่เปียกฝน
bee farm หรือฟาร์มผึ้ง เรายังไม่เจอรีวิวของคนไทยเลยนะคะ หรือเปิดดูหาไม่ดีไม่รู้ แต่ตอนหาข้อมูลไปเจอเว็บบอร์ดของชาวญี่ปุ่นก็ใช้ Google Translate แปลภาษาเอา เห็นว่าน่าไปแล้วเหมาะกับเด็กๆก็เลยตัดสินใจไปค่ะเพราะไม่รู้จะไปที่ไหนด้วย ค่าแกร็บหมดไปประมาณ 300 กว่าบาทสำหรับขาเดียว ถามว่าดีไหมคุ้มค่าไหมเราว่าโอเคนะคะเป็นฟาร์มผึ้งเล็กๆ เรียบง่าย มีการเพาะพันธุ์เพิ่งโชว์ก็มีให้เด็กๆจับผึ้งด้วยค่ะแต่ลูกเราไม่กล้าจับ มีผลิตภัณฑ์จากน้ำผึ้ง เครื่องดื่มก็ราคาไม่แพงค่ะ
อย่างในรูปที่เป็นเซตน้ำส้มแล้วก็มีน้ำผึ้งมาให้ด้วยราคา 100 ต้นๆหรือไม่ถึง 100 นี่ล่ะค่ะ เบ็ดเสร็จซื้อน้ำผึ้งแล้วก็พวกของฝากต่างๆหมดไปประมาณ 1,000 กว่าบาทได้ของเยอะเลยค่ะ คุยกับแกร็บ ก็ใช้ app แปลภาษากันค่ะประมาณว่าเขาจะให้เราเหมารถเขาเพราะว่าน่าจะเรียก Grab ยากจากที่นี่ ซึ่งเราดูสภาพการแล้วก็น่าจะจริงค่ะแล้วก็ได้ถามจากเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ก็เห็นด้วยว่าควรจะเหมารถกลับไปเลย เพราะว่ามี Grab เข้ามาน้อยมาก ตอนที่เราไปก็เป็นคณะเดียวที่มาที่นี่ตั้งแต่ไปจนกลับไม่มีใครมาเลย น้องที่เป็นคนนำทัวร์แนะนำที่นี่พูดภาษาอังกฤษคล่องมากค่ะ
ตอนแรกเราว่าจะไปซื้อของที่คิงคองมาร์ท แต่เปลี่ยนใจคิดว่าจะลองไปลองบีชเซ็นเตอร์ก่อนเพราะอยู่ระยะทางไม่ไกลกันสามารถเดินไปหากันได้
พี่ลองบีชเซ็นเตอร์ซื้อของไปประมาณพันกว่าบาททั้งของที่อยากจะลองกินเอง และของฝากเลยน้อยๆ หมดไปประมาณพันกว่าบาท พนักงานจะให้ถ่ายใบเสร็จมาสามารถไปแลกกาแฟดื่มได้ 2 แก้ว ห้างที่นี่ฝากของปีได้นะคะซื้อแล้วก็เลยจะเดินไปที่คิงคองมาร์ทต่อ ระหว่างนี้ฝนก็มีโปรยปรายนิดหน่อยพอเดินได้ค่ะ
ระหว่างนั้นเลยแวะหาอาหารกลางวันทาน
ร้านนี้ตั้งอยู่ข้างๆ คิงคอง
อาหารรสชาติใช้ได้เลยค่ะ หมดไปประมาณ 700 กว่าบาท
คิงคองมาร์ทเห็นแบบนี้ข้างในคือกว้างใหญ่มากมีครบทุกอย่าง โดยเฉพาะชาราคาถูกมากๆมีแบบตักเอง ราคาแค่ 10 กว่าบาทเอง ต่อขีด ซื้อของฝากที่คิงคองหมดไปอีกพันหน่อยๆค่ะ ตรงนี้สามารถใช้บัตร youtrip รูดได้เลยนะคะ
พอออกมาจากคิงคองเราก็เลยคุยกับสามีว่า เช่ามอเตอร์ไซค์ขับดีกว่าไหม จากคล่องตัวมากกว่าและไม่ต้องมาเสียค่า Grab ด้วย เลยตัดสินใจไปเช่ามอเตอร์ไซค์ร้านข้างๆกับ Long Beach Center ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ราคาประมาณวันละ 180 บาท เขาจะยึดพาสปอร์ตเราไว้ 1 เล่มค่ะพร้อมกับทำสัญญา แต่พอสตาร์ทเท่านั้นแหละปรากฏว่ารถแทบจะไม่มีน้ำมันเลยเลยต้องซื้อน้ำมันทางร้านอีก 2 ลิตรประมาณลิตรละ 50 บาท
แล้วก็ขับกลับโรงแรมค่ะ ให้เด็กๆได้เล่นสระเล่นทะเลกันแล้วรอเวลากลางคืนขับไป ฟูก๊วกไนท์มาร์เก็ต
ที่ ฟูก๊วกไนท์เก็ตอาหารก็ต้องเลือกดูให้ดีค่ะ
ยกตัวอย่างลูกเราชอบกินไส้กรอกของที่นี่มาก ร้านแรกๆ พอเข้าตลาดมาไม้ละ 40 บาทเราจัดให้ลูก 2 ไม้พอเดินเข้าไปข้างใน บางร้านไม้ละ 15 บาทก็มีค่ะ
ในรูปที่เรากินราคาประมาณ 200 บาทหน่อยๆเองค่ะปลาหมึกคือสดสะใจมากตัวละประมาณ 10 บาท ดูรีวิวดีๆนะคะ
จากนั้นเราก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับโงแรมค่ะค่ะ
วันที่ 3
วันนี้ตามแพลนได้เลยค่ะและถ้าไม่ตามแพลนก็ไม่ได้ เพราะ Voucher กิจกรรมที่ซื้อมา กำหนดให้เฉพาะวันนี้ก็คือการขึ้นกระเช้าฮอนทอม แต่วันนี้ไปได้สบายค่ะเพราะฝนไม่ตกขับมอเตอร์ไซค์ไปกันเลยชิวๆ
ไปถึงยังไม่ถึงเวลาขึ้นกระเช้าและภายนอกไม่มีคนเลยค่ะ ซึ่งเราไปก่อนประมาณ 1 ชั่วโมงได้ก็เดินเล่นเตะๆกันรอเวลา ขึ้นกระเช้าเมื่อถึงเวลา เขาจะแยกแถวออกเป็นสองแถวค่ะแถวที่จะได้ไปก่อนก็คือแถวพนักงานที่ต้องไปทำงานบนเกาะฝั่งโน้น ส่วนเราได้ขึ้นเป็นคนที่ 2 ค่ะกระเช้านี้จะขึ้นได้ประมาณ 8 คน ซึ่งก็ต้องนั่งรวมกับคนอื่นไป บนกระเช้าไม่มีแอร์แต่ลมเย็นพัดสบายตลอดค่ะวิวสวยงามนั่งประมาณ 20 นาที ก็ถึงฝั่งของสวนน้ำอควาโทเปีย ซึ่งบัตรที่ซื้อมาจะรวมค่าเข้าสวนน้ำสวนสนุกและเครื่องดื่ม 1 แก้วค่ะวันนั้นได้เป็นน้ำแตงโม
บอกตรงๆเราค่อนข้างจะผิดหวังกับที่นี่นิดนึงค่ะโซนสวนสนุกแทบจะไม่มีอะไรเลยยังสร้างไม่เสร็จจะเป็นส่วนใหญ่และอันที่เล่นได้ส่วนสูงลูกก็ไม่ถึง คนโต 121 คนเล็ก 105 cm แต่สวนน้ำก็มีให้เลือกเล่นหลากหลายค่ะซึ่งเขาจะเน้นเป็นสวนน้ำมากกว่าที่นี่สไลเดอร์มีให้เลือกหลายแบบ
ภาพในสวนสนุกเก็บมาได้เท่านี้ค่ะเพราะว่าโซนสวนน้ำไม่ได้เอาโทรศัพท์ลงไปแล้ว ไปถึงก็จะต้องไปเช่าlocker แล้วพวกผ้าเช็ดตัวอะไรแบบนี้ค่ะ ส่วนใครจะซื้อ Voucher แบบรวมอาหารบุฟเฟ่ต์กลางวันก็ได้นะคะ แต่เราดูรีวิวมาแล้วเหมือนไม่ค่อยโอเค ก็เลย ส่วนครอบครัวเราเล่นสวนน้ำเสร็จก็จัดการข้ามฝั่งมาค่ะ ขากลับนี้ไม่ต้องนั่งร่วมกระเช้ากับใครแล้วค่ะกระเช้าค่อนข้างว่างเขาจัดให้ครอบครัวละ 1 กระเช้าสังเกตว่าบางกระเช้าก็ไม่มีคนด้วย
ข้ามฝั่งมา ก็ขับมอเตอร์ไซค์มาต่อที่ แถวตลาด vui fest ซึ่งอยู่แถวๆ kiss bridge หรือสะพานจูบนั่นเอง Voucher ที่เราซื้อมาก็รวมค่าเข้าสะพานด้วย แต่ไม่รวมการแสดงโชว์นะคะ ต้องเพิ่มอีกคนละ 700 กว่าบาท ต่อ ep.2 https://pantip.com/topic/43805265?sc=bcq4Cbs