🎸🎶 กีต้าร์โปร่ง PRS SE A20E Black Top ความลงตัวของเสียงอบอุ่นและดีไซน์เหนือระดับ ✨🖤


     การเลือกกีต้าร์อะคูสติกสำหรับการซ้อม การอัดเสียง และการเล่นสด ควรพิจารณาทั้งชนิดของไม้ โครงสร้างภายใน และระบบไฟฟ้าที่ถ่ายทอดเสียงไม้ได้ตรงตามจริง กีต้าร์โปร่ง PRS SE A20E Black Top เป็นตัวเลือกเด่นของสายอะคูสติกยุคนี้ เพราะรวมมาตรฐานการผลิตของ PRS เข้ากับความถนัดมือเวลาเล่น และโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ เหมาะตั้งแต่มือใหม่ที่จริงจัง นักแต่งเพลง ไปจนถึงมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพสม่ำเสมอ

กีต้าร์โปร่ง PRS SE A20E Black Top: โครงสร้างไม้และเสียงที่เป็นเอกลักษณ์
     หัวใจของโทนเสียงรุ่นนี้คือโครงสร้างไม้มะฮอกกานีทั้งตัว (All‑Mahogany) ตั้งแต่หน้าท็อป ด้านข้าง ไปจนถึงด้านหลัง ให้ย่านกลางอิ่ม อบอุ่น และเก็บรายละเอียดโน้ตได้ดีโดยไม่บาดหู เมื่อทำงานร่วมกับโครงค้ำหน้าไม้ของ PRS ที่ผสมระหว่าง “X‑bracing” และ “fan bracing” หน้าท็อปจะสั่นได้อย่างอิสระ เสียงจึงโปร่ง เปิด และพุ่งได้ดี เหมาะทั้งห้องซ้อมและการเล่นบนเวที


     ทรงบอดี้ Angelus พร้อมคัตอะเวย์ ออกแบบให้วางแขนสบาย เข้าถึงเฟรตสูงได้ง่าย เหมาะกับการเล่นทำนอง อาร์เปจิโอ และสไตล์ fingerstyle ที่ต้องการไดนามิกชัดเจนและควบคุมน้ำหนักมือได้ง่าย


รายละเอียดงานประกอบและวัสดุของ กีต้าร์โปร่ง PRS SE A20E Black Top
     เฟรตบอร์ดและบริดจ์ใช้อีโบนี (Ebony) ซึ่งมีความหนาแน่นสูง ถ่ายทอดแรงสั่นจากสายสู่หน้าท็อปได้ดี จึงให้การตอบสนองคมชัด แต่ยังคงความอบอุ่นตามคาแรคเตอร์ของมะฮอกกานี นัทและอานม้าเป็นกระดูก (Bone) ช่วยให้เสียงยาว (sustain) และเพิ่มเนื้อเสียงที่เป็นธรรมชาติ อินเลย์ลายนกและหัวกีต้าร์แบบ PRS เป็นเอกลักษณ์สวยสะดุดตา และช่วยมองตำแหน่งเฟรตได้ชัด


     คอทรง Wide Fat ให้หน้าสัมผัสเต็มมือ จับคอร์ดนิ่ง เล่นนานไม่ล้า ระยะสเกล 25.3" พร้อม 20 เฟรต ให้สมดุลย่านกลาง‑แหลมกำลังดี ใช้ได้ทั้งการจูนมาตรฐานและดรอปครึ่งเสียง โดยยังคงความตึงของสาย ระยะห่างสายที่บริดจ์ 2‑7/32 นิ้ว ทำให้การเล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ฟังความแตกต่างของเสียงแต่ละสายได้ชัดเจน และสายไม่ชนกันง่าย


ระบบปิ๊กอัพ Fishman Sonitone: เก็บโทนไม้ให้ใกล้เคียงการอัดไมค์


     เสียงไฟฟ้าของรุ่นนี้มาจาก Fishman Sonitone ที่ปรับจูนร่วมกับทีม PRS ติดตั้งปิ๊กอัพใต้แซดเดิลและพรีแอมป์บริเวณซาวด์ โฮล (Soundhole) พร้อมปุ่ม Volume / Tone ที่ใช้งานได้สะดวก จุดเด่นคือคงบุคลิกอะคูสติกไว้ครบ ไม่เร่งหรือกดย่านใดจนผิดธรรมชาติ เหมาะทั้งงานเล่นสดและบันทึกเสียง

“ลองฟังเสียงจริง แล้วดูโปรด้านล่าง”
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เครดิต : DEN FINGER


ทิปเริ่มต้น: ตั้ง Tone กลางก่อน (ตำแหน่ง 12 นาฬิกา) แล้วค่อยปรับตามระบบเสียงของสถานที่ หากระบบมีโทนสว่าง ให้ลด Tone ลงเล็กน้อยเพื่อรักษาย่านกลางอุ่นของมะฮอกกานี

ความสบายในการเล่นและการตั้งค่าให้ตอบโจทย์สไตล์
     คอทรง Wide Fat ช่วยให้โน้ตนิ่งทั้งตอนดันสายและสไลด์ ส่วนเฟรต 20 ช่องพร้อมคัตอะเวย์ ช่วยให้เอื้อมถึงช่วงปลายคอได้สะดวกขึ้น การตั้งแอคชั่น (Action) จากโรงงานมาอย่างเรียบเนียน หากเน้น fingerstyle แนะนำให้ลดแอคชั่น (Action) ลงเล็กน้อยและใช้สายเบอร์ .012–.053 ตามสเปกจากโรงงาน จะได้แรงต้านมือพอดีและย่านเบสแน่นขึ้น

     การเลือกสาย: สาย phosphor bronze ให้ปลายเสียงใสและรายละเอียดดี เหมาะกับการสลับ strumming (ตีคอร์ด) กับ fingerstyle ส่วนสาย 80/20 bronze ให้โทนเปิด โปร่ง เหมาะกับงาน strumming หนัก หากต้องการลดเสียงนิ้วเสียดสตริงและยืดอายุการใช้งาน เลือกสายเคลือบจะช่วยได้มาก

กีต้าร์โปร่ง PRS SE A20E Black Top สำหรับงานจริง: จากห้องซ้อมถึงเวที
- การอัดเดโม: วางไมค์คอนเดนเซอร์ห่างซาวด์ โฮล (Soundhole) ประมาณ 20–25 ซม. แล้วเอียงออกจากกึ่งกลางเล็กน้อยเพื่อลดลม จับเสียงแถวเฟรตที่ 12 อีกตัวหนึ่ง จากนั้นผสมกับสัญญาณจาก Fishman Sonitone จะได้รายละเอียดนิ้วครบและเวทีเสียงกว้าง โดยยังคงความชัดในมิกซ์
- การเล่นสด: ต่อเข้ามิกเซอร์ผ่าน DI ที่มีตัวกรองความถี่ต่ำ (high-pass filter) ตั้งไว้ 80–100 Hz ช่วยตัดแรงกระแทกจากการตีคอร์ดและลดเสียงบวม ถ้าหากเวทีก้องมาก ให้ใช้ปลั๊กอุดซาวด์ โฮล (Soundhole) และจัดมอนิเตอร์ไม่ให้หันเข้าซาวด์ โฮล (Soundhole) โดยตรง


- การดูแลรักษา: ไม้มะฮอกกานีและอีโบนีควรอยู่ในความชื้นสัมพัทธ์ราว 45–55% เก็บในกิกแบ็กที่ให้มาพร้อมอุปกรณ์ปรับความชื้นตามสภาพ หลีกเลี่ยงแดดตรงหรือทิ้งไว้ในรถที่ร้อนจัด เช็ดสายทุกครั้งหลังเล่นเพื่อคงความใส และทาน้ำมันดูแลอีโบนีปีละ 1–2 ครั้ง

เปรียบเทียบแนวเสียงของ กีต้าร์โปร่ง PRS SE A20E Black Top กับรุ่นใกล้เคียงในตระกูล PRS SE
- A20E Black Top (All-Mahogany): ให้โทนกลางอบอุ่น เนื้อเสียงหนา เก็บรายละเอียดเสียงจากปลายนิ้วได้ชัดเจน เหมาะกับแนวโฟล์ก, singer-songwriter และงานโซโล่ที่ต้องการทำนองเด่นชัด
- A40E (Top Spruce / Back & Side Ovangkol): โทนเปิด โปร่ง ตอบสนองไว เหมาะกับการ strumming หนัก ๆ และการเล่นร่วมวงเต็มรูปแบบ
- A50E (Top Spruce / Back & Side Figured Maple): ปลายเสียงใสสะอาด รายละเอียดสูง โทนคมชัด เหมาะกับ acoustic pop หรือ jazz ร่วมสมัย

     หากต้องการความอุ่นและไดนามิกกว้าง พร้อมเสียงโดยรวมที่ฟังเพลิน รุ่น A20E เป็นตัวเลือกที่ครอบคลุมการใช้งานได้มากที่สุดเมื่อเทียบกับราคา

เช็คลิสต์การตั้งค่าเบื้องต้นก่อนขึ้นงาน
1. ตรวจคอและแอคชั่น (Action) ให้เหมาะกับสไตล์ที่เล่น
2. เปลี่ยนสายใหม่ 24–48 ชั่วโมงก่อนงานจริงและยืดสายให้เข้าที่
3. ตั้งอินโทเนชันและเช็คน็อตฮาร์ดแวร์ทุกจุดให้แน่น
4. เตรียมแบตเตอรี่สำหรับพรีแอมป์ และมี DI สำรองไว้เสมอ

การควบคุมฟีดแบ็กและเสียงรบกวนในงานสด
- ใช้ notch filter ค่อย ๆ กวาดหาความถี่ที่เกิดเสียงหอน (มักอยู่ประมาณ 100-300 Hz หรือ 1-2 kHz) แล้วลดเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงการตัดความถี่ออกเป็นช่วงกว้างเกินจำเป็นเพื่อคงโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติ
- เปิด high-pass filter (HPF) ที่ 80–120 Hz บน DI / มิกเซอร์ เพื่อลดแรงกระแทกจากการตีคอร์ดและลดฮัมบนเวที
- หากเวทีมีเสียงสะท้อนมาก ให้ใช้ฝาปิด ซาวด์ โฮล (Soundhole cover) เพื่อลดปัญหา feedback ในย่านความถี่ต่ำ และจัดวางมอนิเตอร์ไม่ให้หันเข้าซาวด์ โฮล (Soundhole) โดยตรง
- ควบคุมโวลูมของทั้งวงให้สมดุล หากเครื่องดนตรีอื่นดังเกินไป ผู้เล่นมักเพิ่มเสียงกีต้าร์ ซึ่งทำให้เกิด feedback ได้ง่าย

แนวทาง EQ เริ่มต้นบนแอมป์/มิกเซอร์สำหรับอะคูสติก
- เริ่มจากตั้งค่าทุกย่านไว้ที่กึ่งกลาง ก่อนค่อย ๆ ปรับตามนี้
- ลด ย่านกลาง (350–500 Hz) เล็กน้อยเพื่อลดความขุ่น แต่ไม่ควรตัดลึกจนโทนบาง
- เพิ่ม ย่านสูง (5–8 kHz) เพียงเล็กน้อยเพื่อเปิดรายละเอียดจากปลายนิ้ว หากปลายเสียงแหลมจัด ให้ลดกลับทันที
- เสริม ย่านต่ำ (80–120 Hz) เท่าที่จำเป็นเพื่อเพิ่มความหนา ระวังอย่าดันมากจนเกิดอาการบวมในระบบ PA ของสถานที่
- ใช้ compressor แบบอ่อน (อัตราส่วน 2:1–3:1 และตั้งค่า attack ช้าหน่อย) เพื่อเก็บ transient (ช่วงต้นของเสียงที่ดังพุ่งขึ้นฉับพลัน) จากการตีคอร์ด โดยไม่ทำให้ไดนามิกแบน

การดูแลรักษาเชิงป้องกันตามฤดูกาล
- รักษาความชื้นสัมพัทธ์ 45–55% ด้วย อุปกรณ์ปรับความชื้นในกิกแบ็ก และตรวจด้วยไฮโกรมิเตอร์ หากความชื้นต่ำเกินไป ไม้อาจหด แอคชั่น (Action) เปลี่ยน หรือเกิดรอยร้าว
- เปลี่ยนสายทุก 1–3 เดือนตามการใช้งาน และเช็ดสายหลังเล่นทุกครั้ง ลดคราบเหงื่อที่ทำให้เฟรตบอร์ดสึกและโทนหม่น
- ตรวจแบตเตอรี่ของ พรีแอมป์ อย่างสม่ำเสมอ (ส่วนใหญ่ใช้ 9V) เพื่อป้องกันสัญญาณตกหรือเกิดเสียงรบกวนกลางงาน
- เก็บกีต้าร์ให้พ้นแดดและความร้อนจัด เช่น ในรถ เพื่อป้องกันกาวอ่อนตัวและคอคด


เหมาะกับใคร และเหตุผลที่ควรเลือก
     รุ่นนี้เหมาะกับนักแต่งเพลงที่ต้องการโทนกลางที่อบอุ่น ช่วยประคองเสียงร้องให้เด่นชัด มือกีต้าร์ที่เล่น fingerstyle ซึ่งต้องการรายละเอียดปลายโน้ตคมชัด รวมถึงผู้เล่นงานสดที่ต้องการสัญญาณไฟฟ้าที่ถ่ายทอดโทนของไม้ได้ใกล้เคียงเสียงจริง และตั้งค่าใช้งานบนเวทีได้ง่าย จุดเด่นด้านวัสดุ งานประกอบ และระบบปิ๊กอัพ ทำให้ครอบคลุมการใช้งานตั้งแต่คาเฟ่ บาร์ สตูดิโอ ไปจนถึงงานอีเวนต์ที่ต้องการความน่าเชื่อถือ

     หากคุณต้องการกีต้าร์อะคูสติกที่เติมทั้งแรงบันดาลใจและความมั่นใจในการเล่น รุ่นนี้คือคู่หูที่พร้อมใช้งานจริงได้แทบทุกสถานการณ์

สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่

🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee

สินค้าอื่นๆ ของ WolverineX

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่