เปิดเอกสาร มูลนิธิองค์กรทำดี บุ๋ม ปนัดดา หากมูลนิธิเลิกไป ทรัพย์สินตกเป็นของใคร
.
.
เปิดเอกสาร มูลนิธิองค์กรทำดี ของ บุ๋ม ปนัดดา หากมูลนิธิต้องล้มเลิกไป ทรัพย์สินทั้งหมดตกเป็นกรรมสิทธิ์ใคร
.
นอกจาก ต๊ะ นารากร ติยายน จะโพสต์ชื่นชม หนุ่ม กรรชัย โดยเฉพาะกับล่าสุด ที่ หนุ่ม กรรชัย ออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบต่อ กัน จอมพลัง ด้วยนั้น
.
โดย ต๊ะ นารากร ยังได้ขอบคุณ หนุ่ม กรรชัย แทน บุ๋ม ปนัดดา ที่ หนุ่ม กรรชัย ได้บริจาคช่วย “มูลนิธิองค์กรทำดี” ของ บุ๋ม ปนัดดา จำนวน 1 ล้านด้วย พร้อมเปิดเอกสารถึงความโปร่งใสของ บุ๋ม ปนัดดา หากมูลนิธิฯของบุ๋มยกเลิกทรัพย์สินจะไปอยู่ไหนด้วยว่า
.
“สุดท้ายดิฉันขอขอบคุณแทนคุณบุ๋ม ที่คุณหนุ่มได้บริจาคช่วย “มูลนิธิองค์กรทำดี” ของคุณบุ๋มจำนวนหนึ่งล้านบาท เพราะมูลนิธินี้จัดตั้งอย่างโปร่งใส โดยมีนางสาวปนัดดา วงศ์ผู้ดี ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิฯ ด้วยตัวเอง
.
“และในข้อ 39 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ถ้ามูลนิธิต้องล้มเลิกไปโดยมติของคณะกรรมการหรือโดยเหตุผลใดก็ตาม ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลืออยู่ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่ สภากาชาดไทย
.
“ปล.ข้อความในโพสต์นี้ดิฉันตัดสินใจเขียนขึ้นเอง และภาพประกอบนี้ดิฉันก็นำมาลงเองโดยไม่เกี่ยวข้องกับคุณบุ๋มใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าจะด่ามาด่าดิฉันคนเดียว”
.
“ดิฉันอยากลงภาพเป็นหลักฐานให้ทุกคนที่ร่วมบริจาคแก่มูลนิธิองค์กรทำดีเกิดความสบายใจ และไม่มีความสงสัยใดๆ”
.
.
.
คุณหญิงหน่อย จี้รบ.ใช้โอกาสทอง ผนึกชาติมหาอำนาจ ปราบสแกมเมอร์-ฟอกเงิน ล้างบางทุนเทา
.
คุณหญิงหน่อย จี้ รบ.ใช้โอกาสทอง ผนึก ปท.มหาอำนาจ ปราบสแกมเมอร์-ฟอกเงิน ล้างบางทุนเทา
.
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสทองในการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปล้นคนไทยจำนวนมหาศาล ทำความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศ พร้อมเสนอแนวทางเชิงรุกหลายด้าน ทั้งการร่วมมือกับนานาชาติ ดำเนินคดีอาญา อายัดทรัพย์สิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินที่อาจเชื่อมโยงกับการฟอกเงิน
.
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า รัฐบาลไทยในขณะนี้ได้รับแรงกดดันจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และเกาหลีใต้ ซึ่งต่างได้รับผลกระทบจากเครือข่ายอาชญากรข้ามชาติที่มีฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยนำเงินมาฟอกในประเทศไทย จึงเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลต้องใช้ความกล้าหาญและจริงใจในการจัดการกับขบวนการเหล่านี้ เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของประชาชนและภาพลักษณ์ของประเทศในสายตานานาชาติ
.
ในส่วนของข้อเสนอแนะในการดำเนินการ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เสนอให้รัฐบาลเร่งร่วมกับอเมริกาและประเทศอื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล พร้อมให้หน่วยงานหลักของไทย อย่างธนาคารแห่งประเทศไทย ปปง. DSI ฯลฯ ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงอายัดทรัพย์สินทันที เพื่อป้องกันการโยกย้ายเงินออกนอกประเทศ
.
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ขอเสนอให้ตรวจสอบการลงทุนของบริษัทต่างชาติที่เข้ามาถือหุ้นในบริษัทมหาชนของไทย เช่น บางจาก ซึ่งอาจเป็นช่องทางฟอกเงิน และให้จับตาการส่งออกทองคำไปยังกัมพูชาที่มีปริมาณสูงผิดปกติ เพราะอาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟอกเงินข้ามพรมแดนที่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทและเศรษฐกิจโดยตรง
.
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวด้วยว่า ปัญหาที่แท้จริงของการปราบปรามขบวนการสแกมเมอร์อยู่ที่ข้าราชการและนักการเมืองสีเทาที่รับเงิน หรือบางรายเข้าไปมีส่วนได้เสียในธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์ ก่อนจะนำเงินเหล่านั้นมาใช้ซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปราบปรามอย่างแท้จริง ทั้งนี้ พรรคเตรียมทำหนังสือถึงหน่วยงานของสหรัฐ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องในไทย เพื่อผลักดันให้เกิดการตรวจสอบเชิงลึกในระดับนานาชาติ
.
.
กำลังซื้อฝืด ฉุดยอดกิน ‘บะหมี่’ อืด ผู้ผลิตแข่งอัดโปรแรง ‘มาม่า’ หวัง ‘คนละครึ่งพลัส’ กระตุ้นตลาด
https://www.matichon.co.th/economy/news_5424954
.
กำลังซื้อฝืด ฉุดยอดกิน ‘บะหมี่’อืด ผู้ผลิตแข่งอัดโปรแรง ‘มาม่า’ หวัง ‘คนละครึ่งพลัส’ กระตุ้นตลาด
.
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นาย
พันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2568 ยังทรงตัว ยอดขายไม่โต แต่ไม่ได้ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีการกระตุ้นจากสินค้าใหม่กลุ่มพรีเมียมและการจัดโปรโมชั่น ทำให้ตลาดยังเติบโต แต่ไม่ได้เป็นการเติบโตโดยธรรมชาติเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีความคาดหวังโครงการคนละครึ่งพลัสจะเริ่มใช้วันที่ 29 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2568 จะเป็นแรงหนุนต่อกำลังซื้อกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ให้มีความคึกคักมากขึ้น หลังจากกำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัวค่อนข้างมาก
.
“
ตลาดปีนี้โตโดยการกระตุ้น จัดโปรแรงๆ ซึ่งไม่ใช่การทำสงครามราคา แต่เป็นเพราะคนไม่มีกำลังซื้อ ถ้าไม่มีการทำการตลาดแรงๆ ตลาดปีนี้ไม่โตและซบเซามากกว่านี้ แต่บะหมี่ฯยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผู้บริโภคซื้อในยามลำบาก ทำให้ยอดขายยังไม่ได้ตกมาก แต่ผู้ผลิตก็ต้องออกแรงกระตุ้นเยอะขึ้น ตอนนี้ผู้ผลิตไม่กลัวเรื่องดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้นหลังมีโครงการคนละครึ่งพลัส จนกำลังการผลิตไม่พอ ทุกคนห่วงเรื่องกำลังซื้อมากกว่า ซึ่งต้องยอมรับว่าปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีจริงๆ” นายพันธ์กล่าว
.
นาย
พันธ์กล่าวว่า สำหรับยอดขายมาม่าในปี 2568 นี้ น่าจะได้รับผลกระทบบ้าง ทำให้ยอดขายลดลงประมาณ 1-2% จากยอดขายภายในประเทศที่ทรงตัว และตลาดต่างประเทศที่สองตลาดใหญ่ได้รับผลกระทบพร้อมกัน คือตลาดสหรัฐอเมริการที่ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ และตลาดกัมพูชาที่ยังคงมีปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา ที่กระทบต่อการส่งออก ซึ่งบริษัทก็ต้องพิจารณาปรับพอร์ตใหม่ อย่างไรก็ดี เนื่องจากบริษัทมีรายได้จาก 3 ขา คือการขายในประเทศ ส่งออก และการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ทั้งนี้ คาดว่ารายได้รวมปี 2568 น่าจะเท่ากับปี 2567 ซึ่งมีรายได้รวมประมาณ 30,000 ล้านบาท
.
“
สถานการณ์ปี 2568 รายได้ในประเทศเป็นพระเอก การลงทุนเป็นพระรอง ส่วนการส่งออกเป็นตัวที่ต้องแบก ต่างจาก 3 ปีก่อน ที่การส่งออกเป็นตัวไดร์ฟรายได้เรา จากสถานการณ์ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เราสามารถปรับราคาขายในต่างประเทศได้ สำหรับในปี 2569 ตั้งเป้าจะดันยอดขายต่างประเทศกลับคืนมาให้ได้ ในขณะเดียวกันจะลงทุนสร้างโรงงานใหม่ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อขยายกำลังการผลิตบะหมี่ฯเพิ่มขึ้นอีก 5-10% คาดว่าใช้เงินลงทุนหลัก 1,000 ล้านบาท และใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี” นาย
พันธ์กล่าว
JJNY : เปิดเอกสารมูลนิธิองค์กรทำดี│หญิงหน่อยจี้ปราบสแกมเมอร์-ฟอกเงิน│กำลังซื้อฝืดฉุดยอดกิน‘บะหมี่’อืด│12 จว.เตือนมรสุม
.
กำลังซื้อฝืด ฉุดยอดกิน ‘บะหมี่’ อืด ผู้ผลิตแข่งอัดโปรแรง ‘มาม่า’ หวัง ‘คนละครึ่งพลัส’ กระตุ้นตลาด
https://www.matichon.co.th/economy/news_5424954
.
กำลังซื้อฝืด ฉุดยอดกิน ‘บะหมี่’อืด ผู้ผลิตแข่งอัดโปรแรง ‘มาม่า’ หวัง ‘คนละครึ่งพลัส’ กระตุ้นตลาด
.
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFMAMA ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา “มาม่า” เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในปี 2568 ยังทรงตัว ยอดขายไม่โต แต่ไม่ได้ปรับตัวลดลง เนื่องจากมีการกระตุ้นจากสินค้าใหม่กลุ่มพรีเมียมและการจัดโปรโมชั่น ทำให้ตลาดยังเติบโต แต่ไม่ได้เป็นการเติบโตโดยธรรมชาติเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีความคาดหวังโครงการคนละครึ่งพลัสจะเริ่มใช้วันที่ 29 ตุลาคม-31 ธันวาคม 2568 จะเป็นแรงหนุนต่อกำลังซื้อกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ให้มีความคึกคักมากขึ้น หลังจากกำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัวค่อนข้างมาก
.
“ตลาดปีนี้โตโดยการกระตุ้น จัดโปรแรงๆ ซึ่งไม่ใช่การทำสงครามราคา แต่เป็นเพราะคนไม่มีกำลังซื้อ ถ้าไม่มีการทำการตลาดแรงๆ ตลาดปีนี้ไม่โตและซบเซามากกว่านี้ แต่บะหมี่ฯยังคงเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผู้บริโภคซื้อในยามลำบาก ทำให้ยอดขายยังไม่ได้ตกมาก แต่ผู้ผลิตก็ต้องออกแรงกระตุ้นเยอะขึ้น ตอนนี้ผู้ผลิตไม่กลัวเรื่องดีมานด์ที่จะเพิ่มขึ้นหลังมีโครงการคนละครึ่งพลัส จนกำลังการผลิตไม่พอ ทุกคนห่วงเรื่องกำลังซื้อมากกว่า ซึ่งต้องยอมรับว่าปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีจริงๆ” นายพันธ์กล่าว
.
นายพันธ์กล่าวว่า สำหรับยอดขายมาม่าในปี 2568 นี้ น่าจะได้รับผลกระทบบ้าง ทำให้ยอดขายลดลงประมาณ 1-2% จากยอดขายภายในประเทศที่ทรงตัว และตลาดต่างประเทศที่สองตลาดใหญ่ได้รับผลกระทบพร้อมกัน คือตลาดสหรัฐอเมริการที่ได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ และตลาดกัมพูชาที่ยังคงมีปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา ที่กระทบต่อการส่งออก ซึ่งบริษัทก็ต้องพิจารณาปรับพอร์ตใหม่ อย่างไรก็ดี เนื่องจากบริษัทมีรายได้จาก 3 ขา คือการขายในประเทศ ส่งออก และการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ทั้งนี้ คาดว่ารายได้รวมปี 2568 น่าจะเท่ากับปี 2567 ซึ่งมีรายได้รวมประมาณ 30,000 ล้านบาท
.
“สถานการณ์ปี 2568 รายได้ในประเทศเป็นพระเอก การลงทุนเป็นพระรอง ส่วนการส่งออกเป็นตัวที่ต้องแบก ต่างจาก 3 ปีก่อน ที่การส่งออกเป็นตัวไดร์ฟรายได้เรา จากสถานการณ์ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เราสามารถปรับราคาขายในต่างประเทศได้ สำหรับในปี 2569 ตั้งเป้าจะดันยอดขายต่างประเทศกลับคืนมาให้ได้ ในขณะเดียวกันจะลงทุนสร้างโรงงานใหม่ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อขยายกำลังการผลิตบะหมี่ฯเพิ่มขึ้นอีก 5-10% คาดว่าใช้เงินลงทุนหลัก 1,000 ล้านบาท และใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ 1-2 ปี” นายพันธ์กล่าว