ศาสนาอิสลามสอนมนุษย์ว่า
"การดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของเราเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่น"
จากคำสอนนี้ เราเรียนรู้ว่ามนุษย์จะอยู่ตามลำพังโดยไม่อาศัยผู้อื่นเลย ย่อมเป็นไปไม่ได้ทีเดียว ก่อนอื่นทีเดียวเราต้องมีคู่ครอง เพื่อสืบพันธุ์ ไม่ว่าเราจะมีกฏระเบียบบีบบังคับเราให้รักษาพรหมจรรย์อย่างเข้มงวดอย่างไรก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ของมนุษย์ไม่อาจจะรักษากฏข้อบังคับนั้นได้เพราะ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะระบบสรีระของมนุษย์ไม่อาจจะอยู่ภายใต้แรงกดดันของความต้องการทางธรรมชาติได้ นอกจากว่า เราจะต้องมีกฏหรืออำนาจบางอย่างที่ยอมให้มนุษย์มีความผ่อนคลาย ระบายความรู้สึกตอบสนอง กฏธรรมชาติตามที่ถูกกำหนด
ข้อบัญญัติตามหลักการของศาสนาอิสลามเหล่านี้ เน้นย้ำถึงความสำคัญของชุมชน ความเห็นอกเห็นใจ และการสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซูเราะฮฺ อัล-หุญุร็อต (49:10) - "แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นเพียงพี่น้องกัน ดังนั้นจงตกลงกันระหว่างพี่น้องของพวกเจ้า"
ซูเราะฮฺ อัล-มาอิดะฮฺ (5:32) - "ผู้ใดช่วยชีวิตหนึ่งชีวิต เสมือนว่าเขาได้ช่วยชีวิตมนุษย์ไว้ทั้งหมด"
ซูเราะฮฺ อัล-อันฟาล (8:61) - "และหากพวกเขาโน้มเอียงสู่สันติภาพ ก็จงโน้มเอียงสู่สันติภาพนั้น"
ซูเราะฮฺ อัล-อิสรออฺ (17:70) - "และโดยแน่นอน เราได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัม"
ซูเราะฮฺ อัล-บะเกาะเราะฮฺ (2:177) - "ความชอบธรรมนั้นอยู่ในศรัทธาและการกระทำที่ดี รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้อื่น"
ซูเราะฮฺ อัล-อิมรอน (3:103) - "และจงยึดมั่นในสายเชือกของอัลลอฮฺโดยพร้อมเพรียง และจงอย่าแตกแยกกัน"
........มนุษย์เป็นสัตว์สังคมโดยกำเนิด ประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของเราเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการใช้ชีวิตร่วมกัน ความร่วมมือ และการพึ่งพาอาศัยกัน ตั้งแต่สังคมนักล่าสัตว์และเก็บของป่าในยุคแรกเริ่ม ไปจนถึงชีวิตในเมืองสมัยใหม่ การอยู่รอดและความเป็นอยู่ที่ดีของเรามักขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์กับผู้อื่น แม้จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการทำงานทางไกลและการสื่อสารเสมือนจริง แต่การแยกตัวทางสังคมกลับกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย การยอมรับความต้องการพื้นฐานในการเชื่อมต่อ การประเมินการมีส่วนร่วมทางสังคม และการนำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้เพื่อบ่มเพาะความสัมพันธ์ที่มีความหมาย สามารถนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น......
ข้อความข้างบนนี้เป็นข้อคิดทางจิตวิทยา ซึ่งเราไม่อาจจะโต้เถียงได้ เพราะมันเป็นความจริงตามธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้นเราจะเห็นได้วาการที่เราจะ โฟกัสที่ตัวเอง แบบโยคีนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะว่า "
ตนเองไม่อาจจะเป็นที่พึ่งของตนเองได้" ในทุกๆกรณี ซึ่งมีผลทางสุขภาพตามธรรมชาติและสุขภาพทางจิต/สมองของมนุษย์
อันตรายของการจดจ่ออยู่กับตัวเอง อาจจะนำไปสู่ความวิตกกังวลและความเครียดที่เพิ่มขึ้น โดยการขยายปัญหาส่วนตัว เป็นต้นเหตุให้ขัดขวางความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งทำให้ยากต่อการเชื่อมโยงกับผู้อื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาพลักษณ์ของตนเองที่บิดเบี้ยว นำไปสู่ความคาดหวังที่ไม่สมจริง การไตร่ตรองถึงตัวเองมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดภาวะอัมพาตจากการวิเคราะห์ ขัดขวางการลงมือทำ อาจทำให้เกิดความโดดเดี่ยว เนื่องจากบุคคลอาจถอนตัวออกจากปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การจดจ่ออยู่กับตัวเองมากเกินไปอาจลดความพึงพอใจและความสุขในชีวิตโดยรวมลง
ตามเหตุผลดังกล่าวคือ การโฟกัสที่ตัวเอง "ในชีวิตของคุณ ในเส้นทางอาชีพของคุณ ในความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับตัวคุณเอง" จึงเป็นการขัดกับธรรมชาติมนุษย์" โดยเฉพาะ "ในเส้นทางอาชีพของคุณ" ตามความเป็นจริงแล้วทำไม่ได้ ไม่ว่าจะคิดในรูปแบบใดก็ตาม
"การดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของเราเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่น"
จากคำสอนนี้ เราเรียนรู้ว่ามนุษย์จะอยู่ตามลำพังโดยไม่อาศัยผู้อื่นเลย ย่อมเป็นไปไม่ได้ทีเดียว ก่อนอื่นทีเดียวเราต้องมีคู่ครอง เพื่อสืบพันธุ์ ไม่ว่าเราจะมีกฏระเบียบบีบบังคับเราให้รักษาพรหมจรรย์อย่างเข้มงวดอย่างไรก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ของมนุษย์ไม่อาจจะรักษากฏข้อบังคับนั้นได้เพราะ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะระบบสรีระของมนุษย์ไม่อาจจะอยู่ภายใต้แรงกดดันของความต้องการทางธรรมชาติได้ นอกจากว่า เราจะต้องมีกฏหรืออำนาจบางอย่างที่ยอมให้มนุษย์มีความผ่อนคลาย ระบายความรู้สึกตอบสนอง กฏธรรมชาติตามที่ถูกกำหนด
ข้อบัญญัติตามหลักการของศาสนาอิสลามเหล่านี้ เน้นย้ำถึงความสำคัญของชุมชน ความเห็นอกเห็นใจ และการสนับสนุนซึ่งกันและกันเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
........มนุษย์เป็นสัตว์สังคมโดยกำเนิด ประวัติศาสตร์วิวัฒนาการของเราเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการใช้ชีวิตร่วมกัน ความร่วมมือ และการพึ่งพาอาศัยกัน ตั้งแต่สังคมนักล่าสัตว์และเก็บของป่าในยุคแรกเริ่ม ไปจนถึงชีวิตในเมืองสมัยใหม่ การอยู่รอดและความเป็นอยู่ที่ดีของเรามักขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์กับผู้อื่น แม้จะมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เอื้อต่อการทำงานทางไกลและการสื่อสารเสมือนจริง แต่การแยกตัวทางสังคมกลับกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่งผลกระทบทางลบต่อทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพกาย การยอมรับความต้องการพื้นฐานในการเชื่อมต่อ การประเมินการมีส่วนร่วมทางสังคม และการนำกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้เพื่อบ่มเพาะความสัมพันธ์ที่มีความหมาย สามารถนำไปสู่ชีวิตที่มีสุขภาพดีและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น......
ข้อความข้างบนนี้เป็นข้อคิดทางจิตวิทยา ซึ่งเราไม่อาจจะโต้เถียงได้ เพราะมันเป็นความจริงตามธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้นเราจะเห็นได้วาการที่เราจะ โฟกัสที่ตัวเอง แบบโยคีนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะว่า "ตนเองไม่อาจจะเป็นที่พึ่งของตนเองได้" ในทุกๆกรณี ซึ่งมีผลทางสุขภาพตามธรรมชาติและสุขภาพทางจิต/สมองของมนุษย์
อันตรายของการจดจ่ออยู่กับตัวเอง อาจจะนำไปสู่ความวิตกกังวลและความเครียดที่เพิ่มขึ้น โดยการขยายปัญหาส่วนตัว เป็นต้นเหตุให้ขัดขวางความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งทำให้ยากต่อการเชื่อมโยงกับผู้อื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาพลักษณ์ของตนเองที่บิดเบี้ยว นำไปสู่ความคาดหวังที่ไม่สมจริง การไตร่ตรองถึงตัวเองมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดภาวะอัมพาตจากการวิเคราะห์ ขัดขวางการลงมือทำ อาจทำให้เกิดความโดดเดี่ยว เนื่องจากบุคคลอาจถอนตัวออกจากปฏิสัมพันธ์ทางสังคม การจดจ่ออยู่กับตัวเองมากเกินไปอาจลดความพึงพอใจและความสุขในชีวิตโดยรวมลง
ตามเหตุผลดังกล่าวคือ การโฟกัสที่ตัวเอง "ในชีวิตของคุณ ในเส้นทางอาชีพของคุณ ในความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับตัวคุณเอง" จึงเป็นการขัดกับธรรมชาติมนุษย์" โดยเฉพาะ "ในเส้นทางอาชีพของคุณ" ตามความเป็นจริงแล้วทำไม่ได้ ไม่ว่าจะคิดในรูปแบบใดก็ตาม