สวัสดีค่ะ นุ่นเองนะคะ ตอนนั้นตอนอายุ 27 ยังเป็นแอร์กราวน์อยู่ ตอนนี้ 30 แล้วทำธุรกิจส่วนตัวค่ะ
ช่วงก่อนทำจมูกคือถ่ายรูปทีไรหน้าดูแบนมาก เหมือนกล้องไม่ค่อยจับมิติเลย ทำให้ไม่มั่นใจเวลาขึ้นกล้อง ทั้งที่แต่งหน้าแล้วนะก็ยังรู้สึกไม่สุด

เลยเริ่มหาข้อมูลเรื่องเสริมจมูกเยอะมาก ทั้งใน Pantip, Facebook Group แล้วสุดท้ายเลือกทำกับ ED Clinic เพราะเห็นรีวิวหลายคนบอกว่าทรงธรรมชาติ และคุณหมอไม่ยัดคอร์ส
ตอนปรึกษาคุณหมอก็ดูโครงหน้าก่อน ว่าควรเพิ่มมุมไหนเพื่อบาลานซ์กับคางและหน้าผาก ซึ่งนุ่นว่าตรงนี้สำคัญมาก ใครที่ยังไม่เคยทำอยากให้ให้เวลาเลือกหมอและดูเคสเยอะ ๆ ก่อนจริง ๆ
📌 ช่วงหลังทำ (อาทิตย์แรกนี่คือต้องอดทนสุด)
ตอนนั้นบวมจริงค่ะ แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ ไม่ต้องลางาน แค่ต้องระวังตอนนอน ไม่ให้เผลอตะแคง ตอนล้างหน้าก็ต้องใจเย็นมาก ๆ ใช้ผ้าซับเบา ๆ แทนการถู
สิ่งที่ช่วยได้เยอะคือ “ประคบเย็น + งดของแสลง” พวกหมูกระทะ นุ่นงดหมดเลย 😂
ผ่านไปเดือนหนึ่ง ทรงเริ่มเข้าที่ ตอนนั้นเริ่มรู้เลยว่าหน้ามีมิติขึ้นเยอะมาก จากคนที่ต้องแต่งหน้าหนัก ๆ เพื่อให้ดูมีดั้ง ตอนนี้แต่งเบา ๆ ก็เอาอยู่

📆 ตอนครบปีแรก
เริ่มเข้าใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงพูดว่า “ศัลยกรรมที่ดีคือศัลยกรรมที่ดูไม่ออก” เพราะพอเข้าที่จริง ๆ คือมันละมุนกับหน้าเรามาก ไม่โด่งเกิน ไม่เวอร์เกิน คนรอบข้างแค่ทักว่า “หน้าเปลี่ยนนะ แต่ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา” 😂

📆 ตอนครบ 3 ปี
ตอนนี้จมูกยังอยู่ทรงเดิมเลยค่ะ ไม่มีเบี้ยว ไม่มีเอียง เหมือนตอนปีแรกเป๊ะ แถมยังช่วยเปลี่ยนบุคลิกด้วย จากคนที่ชอบถ่ายรูปแค่ครึ่งหน้า ตอนนี้กล้าขึ้นกล้องทุกมุม แถมเวลาเปิดกล้องวิดีโอคอลยังมั่นใจขึ้นเยอะมาก

สิ่งที่ได้จากการทำจมูกครั้งนี้มันมากกว่าเรื่อง “ความสวย” นะคะ
คือมันเปลี่ยนความมั่นใจในชีวิตประจำวันไปเลย 💬
เราไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะหันข้างไหนดีเวลาคุยงานกับลูกค้า
หรือเวลาต้องถ่ายรูปโปรโมตแบรนด์ของตัวเอง ก็รู้สึกอยากทำเต็มที่
ถ้าใครกำลังคิดจะทำ นุ่นอยากให้ลองถามตัวเองก่อนว่า “เราทำเพราะอยากดูดีขึ้น หรือเพราะอยากเหมือนคนอื่น”
เพราะถ้าเราทำในแบบที่ยังเป็นเรา แค่เวอร์ชันที่มั่นใจขึ้น มันจะอยู่กับเราได้นานจริง ๆ 💖
[CR] แชร์ประสบการณ์เสริมจมูกครบ 3 ปี จากแอร์กราวน์สู่นักธุรกิจ ที่กล้าเปิดหน้าสดมากขึ้น
ช่วงก่อนทำจมูกคือถ่ายรูปทีไรหน้าดูแบนมาก เหมือนกล้องไม่ค่อยจับมิติเลย ทำให้ไม่มั่นใจเวลาขึ้นกล้อง ทั้งที่แต่งหน้าแล้วนะก็ยังรู้สึกไม่สุด
เลยเริ่มหาข้อมูลเรื่องเสริมจมูกเยอะมาก ทั้งใน Pantip, Facebook Group แล้วสุดท้ายเลือกทำกับ ED Clinic เพราะเห็นรีวิวหลายคนบอกว่าทรงธรรมชาติ และคุณหมอไม่ยัดคอร์ส
ตอนปรึกษาคุณหมอก็ดูโครงหน้าก่อน ว่าควรเพิ่มมุมไหนเพื่อบาลานซ์กับคางและหน้าผาก ซึ่งนุ่นว่าตรงนี้สำคัญมาก ใครที่ยังไม่เคยทำอยากให้ให้เวลาเลือกหมอและดูเคสเยอะ ๆ ก่อนจริง ๆ
📌 ช่วงหลังทำ (อาทิตย์แรกนี่คือต้องอดทนสุด)
ตอนนั้นบวมจริงค่ะ แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้ ไม่ต้องลางาน แค่ต้องระวังตอนนอน ไม่ให้เผลอตะแคง ตอนล้างหน้าก็ต้องใจเย็นมาก ๆ ใช้ผ้าซับเบา ๆ แทนการถู
สิ่งที่ช่วยได้เยอะคือ “ประคบเย็น + งดของแสลง” พวกหมูกระทะ นุ่นงดหมดเลย 😂
ผ่านไปเดือนหนึ่ง ทรงเริ่มเข้าที่ ตอนนั้นเริ่มรู้เลยว่าหน้ามีมิติขึ้นเยอะมาก จากคนที่ต้องแต่งหน้าหนัก ๆ เพื่อให้ดูมีดั้ง ตอนนี้แต่งเบา ๆ ก็เอาอยู่
📆 ตอนครบปีแรก
เริ่มเข้าใจเลยว่าทำไมหลายคนถึงพูดว่า “ศัลยกรรมที่ดีคือศัลยกรรมที่ดูไม่ออก” เพราะพอเข้าที่จริง ๆ คือมันละมุนกับหน้าเรามาก ไม่โด่งเกิน ไม่เวอร์เกิน คนรอบข้างแค่ทักว่า “หน้าเปลี่ยนนะ แต่ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา” 😂
📆 ตอนครบ 3 ปี
ตอนนี้จมูกยังอยู่ทรงเดิมเลยค่ะ ไม่มีเบี้ยว ไม่มีเอียง เหมือนตอนปีแรกเป๊ะ แถมยังช่วยเปลี่ยนบุคลิกด้วย จากคนที่ชอบถ่ายรูปแค่ครึ่งหน้า ตอนนี้กล้าขึ้นกล้องทุกมุม แถมเวลาเปิดกล้องวิดีโอคอลยังมั่นใจขึ้นเยอะมาก
คือมันเปลี่ยนความมั่นใจในชีวิตประจำวันไปเลย 💬
เราไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะหันข้างไหนดีเวลาคุยงานกับลูกค้า
หรือเวลาต้องถ่ายรูปโปรโมตแบรนด์ของตัวเอง ก็รู้สึกอยากทำเต็มที่
ถ้าใครกำลังคิดจะทำ นุ่นอยากให้ลองถามตัวเองก่อนว่า “เราทำเพราะอยากดูดีขึ้น หรือเพราะอยากเหมือนคนอื่น”
เพราะถ้าเราทำในแบบที่ยังเป็นเรา แค่เวอร์ชันที่มั่นใจขึ้น มันจะอยู่กับเราได้นานจริง ๆ 💖
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้