ผมมองว่าในปัจจุบันนี้ Airport Rail Link มีจำนวนขบวนรถที่น้อยเกินไปโดยแบ่งเป็นดังนี้
-City Line 5 ขบวน (ขบวนละ 3 ตู้)
-Express Line 4 ขบวน (ขบวนละ 4 ตู้)
รวมทั้งหมด 9 ขบวน
แต่ถ้าเป็นความคิดผมในตอนสั่งซื้อขบวนรถตั้งแต่แรกผมมองว่าควรจะมีขบวนรถดังนี้
City Line 10 ขบวน (ขบวนละ 4 ตู้)
Express Line 6 ขบวน (ขบวนละ 5 ตู้)
ซึ่งจะทำให้จัดการเดินรถที่ยืดหยุ่นกว่าและขนผู้โดยสารได้มากกว่าเดิม
ส่วนเรื่องของการจัดการเดินรถด่วน Express Line ผมมองว่ามันไม่ควรยกเลิกแบบในปัจจุบัน
แต่สิ่งที่จะต้องทำตั้งแต่แรกคือ
1.ออกแบบให้ทุกสถานีมี 4 ราง (เหมือนสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง) เพื่อหลีกทางให้รถด่วน

2.ถ้ามีรถ City Line อยู่ระหว่างทางและมีรถ Express จี้ท้ายตามมาควรจะให้ City Line จอดสถานีใกล้เคียงก่อน แล้วให้ Express แซงให้เสร็จก่อน จึงค่อยปล่อย City Line ตามหลังมา
3.การจัดตู้โดยสารของรถ Express Line
ลักษณะตู้โดยสารควรเป็นแบบนี้ คือ
ตู้โดยสาร 4 ตู้ + ตู้ขนสัมภาระ 1 ตู้ (หัวขบวนฝั่งไปสุวรรณภูมิ)
4.ควรใช้พื้นที่จุดเช็คอินที่สถานีมักกะสันให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้
เพราะสถานีมักกะสันมีขนาดให้มากควรใช้จุดเช็คอินให้เป็นประโยชน์ เช่น ให้สายการบินมาเปิดเคาน์เตอร์จุดเช็คอินเพื่อโหลดสัมภาระเข้ารถด่วนแล้วไม่ต้องไปเช็ดที่สนามบินอีกรอบ
เมื่อรถไฟถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว กระเป๋าของผู้โดยสารจะลำเลียงขึ้นเครื่องทันทีและจะได้ลดภาระเจ้าหน้าที่สนามบินที่ทำการเช็คอินอีกด้วย
5.ไม่ควรสิ้นสุดแค่สถานีพญาไท
ควรต่อไปอีก 2 สถานีตั้งแต่แรก คือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีดอนเมือง เหตุผล คือ จะได้เชื่อมต่อ 2 สนามบินให้เดินทางสะดวกสำหรับคนที่ต่อเครื่องและคนที่จะไปต่างประเทศ
6.รถ City Line ไม่ควรเข้าสนามบินตรงๆ
รถ City Line ควรตัดระยะแค่สถานีลาดกระบังหรือต่อไปเล็กน้อยถึงฉะเชิงเทราเพื่อรับผู้โดยสารจากจังหวัดรอบข้างเข้ากรุงเทพฯ
เพราะหากให้รถ City Line เข้าตรงๆจะทำให้ผู้โดยสารหันไปใช้ City Line มากเกินไป และลดความสำคัญ Express Line นั้นเอง
ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ผมอยากให้เป็นสำหรับ Airport Rail Link ครับ
ว่าด้วยเรื่องการบริหารจัดการรถไฟฟ้า Airport Rail Link (ฉบับผมคิดเอง)
-City Line 5 ขบวน (ขบวนละ 3 ตู้)
-Express Line 4 ขบวน (ขบวนละ 4 ตู้)
รวมทั้งหมด 9 ขบวน
แต่ถ้าเป็นความคิดผมในตอนสั่งซื้อขบวนรถตั้งแต่แรกผมมองว่าควรจะมีขบวนรถดังนี้
City Line 10 ขบวน (ขบวนละ 4 ตู้)
Express Line 6 ขบวน (ขบวนละ 5 ตู้)
ซึ่งจะทำให้จัดการเดินรถที่ยืดหยุ่นกว่าและขนผู้โดยสารได้มากกว่าเดิม
ส่วนเรื่องของการจัดการเดินรถด่วน Express Line ผมมองว่ามันไม่ควรยกเลิกแบบในปัจจุบัน
แต่สิ่งที่จะต้องทำตั้งแต่แรกคือ
1.ออกแบบให้ทุกสถานีมี 4 ราง (เหมือนสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง) เพื่อหลีกทางให้รถด่วน
2.ถ้ามีรถ City Line อยู่ระหว่างทางและมีรถ Express จี้ท้ายตามมาควรจะให้ City Line จอดสถานีใกล้เคียงก่อน แล้วให้ Express แซงให้เสร็จก่อน จึงค่อยปล่อย City Line ตามหลังมา
3.การจัดตู้โดยสารของรถ Express Line
ลักษณะตู้โดยสารควรเป็นแบบนี้ คือ
ตู้โดยสาร 4 ตู้ + ตู้ขนสัมภาระ 1 ตู้ (หัวขบวนฝั่งไปสุวรรณภูมิ)
4.ควรใช้พื้นที่จุดเช็คอินที่สถานีมักกะสันให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้
เพราะสถานีมักกะสันมีขนาดให้มากควรใช้จุดเช็คอินให้เป็นประโยชน์ เช่น ให้สายการบินมาเปิดเคาน์เตอร์จุดเช็คอินเพื่อโหลดสัมภาระเข้ารถด่วนแล้วไม่ต้องไปเช็ดที่สนามบินอีกรอบ
เมื่อรถไฟถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว กระเป๋าของผู้โดยสารจะลำเลียงขึ้นเครื่องทันทีและจะได้ลดภาระเจ้าหน้าที่สนามบินที่ทำการเช็คอินอีกด้วย
5.ไม่ควรสิ้นสุดแค่สถานีพญาไท
ควรต่อไปอีก 2 สถานีตั้งแต่แรก คือ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีดอนเมือง เหตุผล คือ จะได้เชื่อมต่อ 2 สนามบินให้เดินทางสะดวกสำหรับคนที่ต่อเครื่องและคนที่จะไปต่างประเทศ
6.รถ City Line ไม่ควรเข้าสนามบินตรงๆ
รถ City Line ควรตัดระยะแค่สถานีลาดกระบังหรือต่อไปเล็กน้อยถึงฉะเชิงเทราเพื่อรับผู้โดยสารจากจังหวัดรอบข้างเข้ากรุงเทพฯ
เพราะหากให้รถ City Line เข้าตรงๆจะทำให้ผู้โดยสารหันไปใช้ City Line มากเกินไป และลดความสำคัญ Express Line นั้นเอง
ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่ผมอยากให้เป็นสำหรับ Airport Rail Link ครับ