อันนี้จะเล่าใน'มุมมองของเรา' เริ่มเเรกเราเป็นคนไม่ค่อยพูดกับคนที่ไม่สนิทถ้าสนิทยอมเปิดใจด้วยเเล้วก็จะพูดเยอะมากๆค่ะ เพื่อนที่อยู่ด้วยกันมา 3-4ปี (นับกับปัจจุบัน) เขาบอกว่าเขาเคยหมั่นไส้เราตอนพึ่งเข้ามาใหม่ทุกคนในห้องหมั่นไส้เพียงเพราะ 'ตอบคำถามครู' ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมันเป็นเพียงเเค่ความคิดในอดีตเเต่ถ้าให้พูดตามหมายความว่าตอนเเรกเขาก็ไม่ชอบเราเเต่เขาก็ยังเป็นเพื่อนกับเราอยู่ ตัว A ตั้งเเต่อดีตที่พอเริ่มเปิดใจกันเขาก็ชอบพูดว่าเรา 'เราตั้งใจเรียนนะเเต่คะเเนนออกมาน้อน' หรือจะพูดว่าน้อยกว่าเขา เขาพูดเเบบนี้มาตลอดพูดให้เพื่อนทั้งกลุ่มรู้ ทุกคนก็คล้อยตามไม่ได้มีอะไรขัด ซี่งเราเสียใจมากเราไม่ชอบใครมาวิจารณ์เรื่องเรียนเพราะเราจริงจังมากเคยร้องไหตอนม.1เทมอเเรกที่ออกเกรดมาน้อยประมาณ3.5กว่าๆ เราคิดว่าเขาคงพูดออกมาโดยไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรหรือตัวเขาจะใช่เลือกคำพูดไม่ถูกเขาพูดตลอดจนครบ4ปีเหมือนจะเป็นเรื่องที่หยิบมาคุย เเล้วบทสนทนาก็จะคล้ายเดิมไปตลอด ตัวเราที่รู้สึกไม่ดีทำได้เเค่ไม่ตอบหรือบางทีโทรคุยกันก็กดออกสายกลุ่มไปหวังว่าสักวันเขาคงจะรู้ว่านี่ไม่โอเค เเต่เขาก็ไม่เคยรู้ สาเหตุที่ว่าทำไมไม่พูดไม่บอก เราเคยบอกๆนัยว่าเออเนี่ยนะไม่ชอบให้ใครมาพูดถึง'เรื่องเรียนเลย' เเต่เหมือนเขาจะไม่ใส่ใจหรือไม่จำไม่รู้เราก็เหนื่อยที่จะอธิบายเลยเลือกที่จะไม่ฟังดีกว่า ตั้งเเต่ที่ตัว A พูดเเบบนั่นราเลยไม่เปิดใจหรือเเชร์เรื่องต่างๆให้ฟังเลยกับทุกคนในกลุ่มเเต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงพูดเเต่กับเรา บางทีเพื่อนในกลุ่มก็ดูหนังในคาบ เล่นโทรศัพท์เเละลอกงานตัว A สำหรับเรา เราไม่เคยไปลอกงารใครเลย ทำด้วยตัวเองตลอด
*ส่วนตัวเราคิดว่าเขาคงไม่ได้มีเจตนาไม่ดีคิดว่าเขาคิดน้อยคิดไม่ถึง เป็นเพียงเเค่ในมุมมองของเรา*
พอตัดมาปัจจุบัน เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มคือ y เขาโทรมาบอกว่าเราเปลี่ยนไปนะ ไม่รู้ว่าเราติดเพื่อนใหม่หรือเพื่อนใหม่มาติด ในมุมมองของเรา เราอยากที่จะกล้ามีเพื่อนเยอะขึ้นเข้าหาสังคม เเล้วเพื่อนในห้องก็ดูมีกลุ่มกันเเล้วเราเลยเข้าหาเพื่อนที่ไม่มีกลุ่มพอหลังๆเห็นเขาเข้ากับเพื่อนกลุ่มอื่นได้ดีเเล้วเราก็เลยทำเพียงเเค่เจอหน้ายิ้มให้ตอนจะเเยกย้ายก็โบกมือลาทำเเค่นั่น เราถามว่าทำไมคิดอย่างงั้น y ก็บอกไม่รู้ก็เเค่รู้สึกเเบบนั่น พูดตามตรงเราก็เเบบอะไรอ่ะ งงๆ หน่อยก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงบอกว่าเอ้ออาจจะคิดไปเองนะนี่ยังเหมือนเดิมไม่ได้คิดอะไรประมาณนั้นเเต่เหมือนyก็ยังพูดอยู่เเบบนั่นจนเรารำคาญ จนเผลอพูดเสียงดังกลบๆเสียงเขาไป จู่ๆเขาก็ตัดสาย จากนั่นเราก็เลยรู้ละเออสิ่งนี้นะมันไม่ดี เราพูดไม่ถูก เราทำผิด เลยทักไปเป็นข้อความยามมาก อธิบายเรื่องที่เปลี่ยนไปเเล้วก็เรื่องที่พูดเสียงดังใส่ประมาณนั่นเขาตอบกลับเพียงเเค่ว่า ช่างมันเถอะถือว่าไม่พูดอะไรละกัน TT
ช่วงนั้นเราเครียดมากเรื่องเรียนเพราะมันเกี่ยวกับที่ขึ้นมหาลัยค่าใช้จ่ายมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะมากประจวบกับเจอเรื่องเเย่ๆมาทำให้ช่วงนั่นทำอะไรก็หงุดหงิดไปหมดตอนนั่นเราเป็นความเครียดสะสมเราก็เลยพยยามไม่ยุ่งกับใครมากเพราะตัวเราเเสดงสีหน้าออกชัดเจนมากๆเเบบอยู่กับตัวเองเเล้วขมวดคิ้วมองกระดาษอะไรงี้ มีเพื่อนคนหนึ่ง B บางทีเขาก็ชอบมาดึงตัวบอกว่าเดี๋ยวชนซึ่งเราเข้าใจว่าเขาหวังดีเเต่เรามองเห็นทางอ่ะ..ด้วยความที่เราหงุดหงิดอยู่เราก็เลยอาจจะทำสีหน้าไม่ดีอยู่ตอนนั่น เราอาจจะผิดที่ไม่เก็บสีหน้าตัวเอง เเต่เราทำเเค่นั่นเลยเรื่องสีหน้า
จนมาถึงตอนเกิดเหตุ
ตอนได้พรีเซ็นงาน ไปพรีเซ็นงานกลุ่มตอนเเรกก็ดีพถึงเราพูดเสร็จเรายื่นใมค์ให้เพื่อนที่อยู่ข้างๆเราเพื่อที่จะสลับกันพูด ตัว J ได้พูดขึ้นมาว่าให้พูดทีเดียวให้จบเลยเราก็เลยพูดออกไปพอมาถึงช่วงหลังๆเราลิ้นพันแล้วก็พูดคำผิดไปบ้างเราก็เลยยื่นใมค์ให้เพื่อนครั้งนี้เพื่อนคนข้างๆรับ เเล้วสลับกันพูดอยู่สองคน เพราะตัวJบอกให้พูดให้จบ จนกระทั่งจบลง ตัว A พูดขึ้นมาว่า'ถ้าจะพูดกันอยู่สองคนวันหลังพรีกันเองเลย' คำพูดนั้นทำเราเอ๊ะไม่พอใจเราก็พูดไปนิดหน่อยเเต่ก็ขี้เกียดเถียงเลยหยุดพูดเขาบอกว่าเขาพูดได้ทุกคำไม่มีผิด
ตอนนั้นเรารู้ว่าเราโมโหมากเราก็เลยเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลยจนไปถึงคาบชุมนุมพอจบคาบชุมนุมแล้วก็จะเดินออกจากห้องที่เนี้ยห้องมันแคบมากมันต้องเดินเบียดกัน ตัว y พูดขึ้นมา เเกะกะให้หลบ ซึ่งตอนนั้นเราอารมณ์ไม่ดีประจวบว่าคำพูดนี้เพื่อนๆพูดใส่เราบ่อยมากกับคำนี้เราเลยคิดว่าเขาพูดใส่เรา จนเดินมาเจอตัว A เราจำไม่ได้ว่าพูดอะไร ตัว A บอกว่าเราพูดกับเขาว่า'หลบดิ' เขาก็เลยพูดขึ้นมาหยายๆว่า 'เป็นเหอะไร'เเบบน้ำเสียงจริงจัง ตอนนั้นเราเก็บกดเราก็เลยพูดออกไปเเบบหยาบๆว่าเออ'มุงเป้นเหอะไรละ' เขาก็พูดว่าเออเนี่ย หลายรอบเเล้ว งง TT
*เราสังเกตว่าพักหลังก่อนหน้าที่จะทะเลาะกันเเบบนี้ เขามักจะไปไม่รอเรา ตอนเปลี่ยนคาบเราไม่ใส่ใจเราก็รอเพื่อนใหม่ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ตอนซื้อของออกมามีเราคนเดียวคนอื่นเดินไปไกลเเล้ว เราไม่เคยงอนเรื่องนี้เลยที่ไปซื้อของเดียวกันเเล้วไม่มีใครรอ*
จากนั่นก็ตึงกันเราเลยค่ะ เราพยายามไม่รื้อฟื้นไปกินข้าวด้วยกันปกติ จนกระทั่งเขาพูดถึงเรื่องงานวันเกิดตัว A ที่ชวนกันไปเที่ยวเราพอเดาได้เเล้วว่าเขาพูดกันในโต๊ะมีเราอยู่ เขาไม่ได้ชวนเราค่ะ ฮ่า เพื่อนคนอื่นๆก็ดูไม่ได้คุยอะไรเราเเล้วเหมือนตัว J จะตึงๆใส่เราด้วยไม่รู้ทำไม55555 ตอนนั้นเราทำกระเป๋าหาย ช่วงนั้นเรารีบซื้อของเร็วเเล้วออกรอข้างนอกคนเเรกเพราะคิดว่าเพื่อนคงไม่รอเรา เราหากระเป๋าตังไม่เจอ เราพูดว่าอันนี้กระเป๋า J นะ เหมือนJจะออกมาเราก็นึกว่าเขาจะรู้เเล้ว เราก็เลยไปประชาสัมพันธ์เเบบไม่บอกใคร ปกติก็ทำเเบบนั้นทำอะไรด้วยตัวเองตลอดมีเพื่นอใหม่มาด้วยก็เลยรู้สึกเเปลกดี พอกลับมาเห็นกระเป๋า J อยู่ที่เดิมเลยจะเอาไปให้ก็นึกว่าสลับกันก็ขำๆตลกดี ไปถึงเราก็จำบทพูดตัวเองไม่ได้ ตัว J พูดมาว่าประมาณว่าตัวเขาพูดอะไร เราก็เลยงงก็บอกว่าไม่ได้ว่าเด็กว่าผิดอะไรก็นึกว่ารู้อยู่ว่ากระเป๋าตัว ก็เลยไปหยิบกระเป๋าที่ด้านหลังก็นึกว่าของตัวเองอีก ทีนี้ตัว A ก็พูดเสียงดังว่า กระเป๋าเขา จนรุ่นพี่ที่สนิทกับกับเขาพูดขึ้นมาว่าฟให้ใจเย็นๆกัน เราเสียใจมากคิดว่าเจาคงจะเอาไปพูดอะไรกัน จากนั่นเราก็เลยเเยกตัวไปกินข้าวคนเดียวก่ะจะทำเเบบนั้นเเต่เพื่อนใหม่มาด้วยเราก็ดีใจที่มีคนอยู่ข้างเรา เเล้วก็เรื่องเวรมีอาทิตย์หนึ่งที่เราปิดหน้าต่างต่างยกโต๊ะกวาดห้อง 'คนเดียว' เพื่อนคนอื่นไปคุยกันเราทำเสร็จเราเลยไม่รอก็ไปเลยให้พวกเขาทิ้งขยะกันเอง ปกติเรารับหน้าที่ทิ้งขยะที่เเบบไม่มีใครอยากทำเท่าไหร่ จนมาอาทิตย์หนึ่งเราลืมทำ เขาบอกครูว่ามีคนไม่มาทำเวรก็พูดกับครู หัวเราะกัน ที่เจ็บใจคือเราทำตลอดเเต่คนไม่เคยทำเวรดันเป็นคนพูด เเล้วเขาก็มาขอสลับเวร เราก็เลยเออดีละ เราตัดสินใจกดออกกลุ่มทุกกลุ่มเหลือไว้เพียงกลุ่มเดียวที่มีกันครบทุกคน
*เรารู้อยู่เเล้วเพื่อสร้างกลุ่มที่ไม่มีเราเขาเคยพูดตอนคุยอยู่ในสายนานเเล้ว เขาหัวเราะกัน เเล้วก็เคยสร้างกลุ่มที่ไม่มีเพื่อนใหม่คนหนึ่งเหตุผลเพราะอะไรก็ไม่รู้น่าจะเเค่ไม่ชอบเฉยๆ เเล้วก็สร้างกลุ่มที่ไม่มีเราอีกเเต่กลุ่มนี้มีเพื่อนใหม่ทุกคน*
เขาไม่พอใจที่เรากดออกกลุ่ม ตัว y บอกรักเรามากเเต่เราไม่คิดว่าสิ่งที่เขาทำดูเหมือนรักเราเลย เพราะก่อนหน้าเขาไม่พยายามที่จะดึงหรืออะไรเขาเเค่มีมาพูดคุยเล็กๆน้อยๆ เคยมีครั้งหนึ่งตัว y ที่ทำงานกลุ่มเขาไม่เอาเราเข้า เราคิดว่าเขาคงจะเอาเข้าเเค่คิดนะสุดท้ายเขาก็เอาคนใหม่เขา เราก็เลยอยู่กับเพื่อนใหม่ ตอนนั้นเราไม่เอาอะไรเเล้วกับกลุ่มเพื่อนเก่าเลยไม่อยากกลับไปสนิทเหมือนก่อน
พอเรากดออกกลุ่มมันก็เป็นประเด็นทักไปว่าเพื่อนใหม่นู่นนี่โดยที่ไม่ทักกหาเรามีเเต่ y ที่ทักมาถามว่าทำไมกดออกกลุ่ม เราก็เลยทักกลุ่มใหญ่คุยกันให้จบๆ ตอนเเรกเราถามเขาว่าเคืองอะไรไม่พอใจอะไรพูดได้ไม่ไหมเขาไม่ยอมบอก ตัว A บอกเลิกคบเป็นเพื่อนเลยดีไหม ตัว Y ก็บอกสิ่งที่เราทำกำลังตัดความสัมพันธ์ เราก็งงว่าตัดยังไงเราพูดดีด้วยตลอดไม่มีคำหยายในรูปประโยคที่เราพิมพ์ ,กูไม่มีอยู่ในข้อความเลย เราพูดดีด้วยใจเย็นก็เเล้วสุดท้ายจบที่เราพูดก่อน เราก็ไม่จะพูดอะไรก็เลยอธิบายเล่ามุมมองของตัวเราตั่งเเต่ต้นว่าเออรู้สึกยังไง เเบบไหน อันนี้ที่เราเข้าใจผิดก็ขอโทษ ตัว A ก็ขอโทษเราที่เขาพูดไม่ดี เเละเราก็ถามว่ายังมีอะไรคาใจอีกไหม ตัว y ก็ถามอีกรอบว่าทำไมออกกลุ่ม เราก็เลยอึดอัดไม่ชบเเล้วก็สร้างกลุ่มเยอะเยอะไปทำไมก็ไม่รู้มีคนนู้นทีไม่มีคนนู้นที พอพิมพ์จบเขาอ่านเสร็จ y เขากดออกจากกลุ่มเลย
ณ จุดนี้ ตั้งเเต่เกิดเรื่องเราไม่เคยโกรธเลยสักครั้งเเต่เราจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม
จากนั่นเขาก็หาเรื่องเเซะตลอด เขาบอกกับเพื่อนเราว่ายังเคืองเรา ตัว y พูด ชอบมองเเรงใส่ตอนเดินผ่านเราไม่เคยเห็นมีเเต่เพื่อนที่มาบอกเรา ใช่ค่ะ คนที่บอกโครตจะรักเราเเซะเราค่ะ บอกว่าเดินช้าอ้อยอิ่งบ้างบอกว่าถ้าครูไม่อยู่จะดักแถวสาย เราไม่เคยโต้เขาเลยนะเพราะไม่เคยพูดตรงๆกับเราพูดลอยๆให้ได้ยิน เราไม่โกรธอ่ะเราสียใจมากกว่า เรื่องเรียนก็ท้อเเล้วยังจะท้อเรื่องสังคมอีก เราก็เลยคิดว่าเราไม่เคยทุ่มเทกับเขาตรงไหน เราทั้งซื้อของขวัญวันเกิดให้ ตอนที่ทะเลาะกับ A เรายังคิดว่าวันเกิดเขาจะเอาอะไรให้ดีสุดท้ายก็ไม่กล้าให้ เราสั่งซื้อตุ๊กตาสั่งทำให้เป็นคู่ใส่กัน เขาไม่เอามาห้อยเราก็ไม่โกรธ ปีนี้เราดีใจที่เพื่อนซื้อของขวัญให้ถึงจะไม่เท่าราคาที่เราซื้อให้เขาเราก็ดีใจอ่ะ มันดีใจอ่ะ มันซื้อกันทักคนเเล้วยังเก็บไว้ทะเลาะกันก็ไม่เคยทิ้ง วันจบการศึกษาใบกระดาษที่ตัว A ให้เขียนความรู้สึกของเขา ปีที่เเล้วเราก็เก็บมันไว้ดีอยู่เลย
ก็คิดว่าคงจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมเเล้วพอเรื่องเหมือนจะไม่จบเราก็เลยคิดว่าคงจะไม่อยากคุยด้วยเเล้ว ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากเรียนด้วยเหนื่อย เราอยากเป็นหมอพยยามมากๆ เราไม่ชอบการใช้ชีวิตกับสังคมเลยอ่ะเราอยากอยู่เเต่กับที่บ้านครูบางคนก็ไม่ได้ดีด้วยซ้ำ ต้องทำเเค่ไหนถึงจะเป็นคนเก่ง ต่อให้พยายามก็ไม่ได้เห็นผลอะไรเลย
เราใช้เวลาปิดเทอมสองเดือน เเต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เรายังคิด เเล้วก็เสียใจใกล้จะเปิดเทอมเข้าทุกที สื่งที่ยื้อชีวิตเราคือการเป็นหมอให้สำเร็จให้ที่บ้านภูมิใจให้มีเงิน ให้มารักษายางปู่ย่าดูเเลเขา
พอวิธีจัดการความรู้สึกไม่คะ ไม่อยากเครียดเรื่องเรียน TT
มีปัญหากับเพื่อนค่ะ
*ส่วนตัวเราคิดว่าเขาคงไม่ได้มีเจตนาไม่ดีคิดว่าเขาคิดน้อยคิดไม่ถึง เป็นเพียงเเค่ในมุมมองของเรา*
พอตัดมาปัจจุบัน เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มคือ y เขาโทรมาบอกว่าเราเปลี่ยนไปนะ ไม่รู้ว่าเราติดเพื่อนใหม่หรือเพื่อนใหม่มาติด ในมุมมองของเรา เราอยากที่จะกล้ามีเพื่อนเยอะขึ้นเข้าหาสังคม เเล้วเพื่อนในห้องก็ดูมีกลุ่มกันเเล้วเราเลยเข้าหาเพื่อนที่ไม่มีกลุ่มพอหลังๆเห็นเขาเข้ากับเพื่อนกลุ่มอื่นได้ดีเเล้วเราก็เลยทำเพียงเเค่เจอหน้ายิ้มให้ตอนจะเเยกย้ายก็โบกมือลาทำเเค่นั่น เราถามว่าทำไมคิดอย่างงั้น y ก็บอกไม่รู้ก็เเค่รู้สึกเเบบนั่น พูดตามตรงเราก็เเบบอะไรอ่ะ งงๆ หน่อยก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงบอกว่าเอ้ออาจจะคิดไปเองนะนี่ยังเหมือนเดิมไม่ได้คิดอะไรประมาณนั้นเเต่เหมือนyก็ยังพูดอยู่เเบบนั่นจนเรารำคาญ จนเผลอพูดเสียงดังกลบๆเสียงเขาไป จู่ๆเขาก็ตัดสาย จากนั่นเราก็เลยรู้ละเออสิ่งนี้นะมันไม่ดี เราพูดไม่ถูก เราทำผิด เลยทักไปเป็นข้อความยามมาก อธิบายเรื่องที่เปลี่ยนไปเเล้วก็เรื่องที่พูดเสียงดังใส่ประมาณนั่นเขาตอบกลับเพียงเเค่ว่า ช่างมันเถอะถือว่าไม่พูดอะไรละกัน TT
ช่วงนั้นเราเครียดมากเรื่องเรียนเพราะมันเกี่ยวกับที่ขึ้นมหาลัยค่าใช้จ่ายมีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะมากประจวบกับเจอเรื่องเเย่ๆมาทำให้ช่วงนั่นทำอะไรก็หงุดหงิดไปหมดตอนนั่นเราเป็นความเครียดสะสมเราก็เลยพยยามไม่ยุ่งกับใครมากเพราะตัวเราเเสดงสีหน้าออกชัดเจนมากๆเเบบอยู่กับตัวเองเเล้วขมวดคิ้วมองกระดาษอะไรงี้ มีเพื่อนคนหนึ่ง B บางทีเขาก็ชอบมาดึงตัวบอกว่าเดี๋ยวชนซึ่งเราเข้าใจว่าเขาหวังดีเเต่เรามองเห็นทางอ่ะ..ด้วยความที่เราหงุดหงิดอยู่เราก็เลยอาจจะทำสีหน้าไม่ดีอยู่ตอนนั่น เราอาจจะผิดที่ไม่เก็บสีหน้าตัวเอง เเต่เราทำเเค่นั่นเลยเรื่องสีหน้า
จนมาถึงตอนเกิดเหตุ
ตอนได้พรีเซ็นงาน ไปพรีเซ็นงานกลุ่มตอนเเรกก็ดีพถึงเราพูดเสร็จเรายื่นใมค์ให้เพื่อนที่อยู่ข้างๆเราเพื่อที่จะสลับกันพูด ตัว J ได้พูดขึ้นมาว่าให้พูดทีเดียวให้จบเลยเราก็เลยพูดออกไปพอมาถึงช่วงหลังๆเราลิ้นพันแล้วก็พูดคำผิดไปบ้างเราก็เลยยื่นใมค์ให้เพื่อนครั้งนี้เพื่อนคนข้างๆรับ เเล้วสลับกันพูดอยู่สองคน เพราะตัวJบอกให้พูดให้จบ จนกระทั่งจบลง ตัว A พูดขึ้นมาว่า'ถ้าจะพูดกันอยู่สองคนวันหลังพรีกันเองเลย' คำพูดนั้นทำเราเอ๊ะไม่พอใจเราก็พูดไปนิดหน่อยเเต่ก็ขี้เกียดเถียงเลยหยุดพูดเขาบอกว่าเขาพูดได้ทุกคำไม่มีผิด
ตอนนั้นเรารู้ว่าเราโมโหมากเราก็เลยเลือกที่จะไม่พูดอะไรเลยจนไปถึงคาบชุมนุมพอจบคาบชุมนุมแล้วก็จะเดินออกจากห้องที่เนี้ยห้องมันแคบมากมันต้องเดินเบียดกัน ตัว y พูดขึ้นมา เเกะกะให้หลบ ซึ่งตอนนั้นเราอารมณ์ไม่ดีประจวบว่าคำพูดนี้เพื่อนๆพูดใส่เราบ่อยมากกับคำนี้เราเลยคิดว่าเขาพูดใส่เรา จนเดินมาเจอตัว A เราจำไม่ได้ว่าพูดอะไร ตัว A บอกว่าเราพูดกับเขาว่า'หลบดิ' เขาก็เลยพูดขึ้นมาหยายๆว่า 'เป็นเหอะไร'เเบบน้ำเสียงจริงจัง ตอนนั้นเราเก็บกดเราก็เลยพูดออกไปเเบบหยาบๆว่าเออ'มุงเป้นเหอะไรละ' เขาก็พูดว่าเออเนี่ย หลายรอบเเล้ว งง TT
*เราสังเกตว่าพักหลังก่อนหน้าที่จะทะเลาะกันเเบบนี้ เขามักจะไปไม่รอเรา ตอนเปลี่ยนคาบเราไม่ใส่ใจเราก็รอเพื่อนใหม่ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน ตอนซื้อของออกมามีเราคนเดียวคนอื่นเดินไปไกลเเล้ว เราไม่เคยงอนเรื่องนี้เลยที่ไปซื้อของเดียวกันเเล้วไม่มีใครรอ*
จากนั่นก็ตึงกันเราเลยค่ะ เราพยายามไม่รื้อฟื้นไปกินข้าวด้วยกันปกติ จนกระทั่งเขาพูดถึงเรื่องงานวันเกิดตัว A ที่ชวนกันไปเที่ยวเราพอเดาได้เเล้วว่าเขาพูดกันในโต๊ะมีเราอยู่ เขาไม่ได้ชวนเราค่ะ ฮ่า เพื่อนคนอื่นๆก็ดูไม่ได้คุยอะไรเราเเล้วเหมือนตัว J จะตึงๆใส่เราด้วยไม่รู้ทำไม55555 ตอนนั้นเราทำกระเป๋าหาย ช่วงนั้นเรารีบซื้อของเร็วเเล้วออกรอข้างนอกคนเเรกเพราะคิดว่าเพื่อนคงไม่รอเรา เราหากระเป๋าตังไม่เจอ เราพูดว่าอันนี้กระเป๋า J นะ เหมือนJจะออกมาเราก็นึกว่าเขาจะรู้เเล้ว เราก็เลยไปประชาสัมพันธ์เเบบไม่บอกใคร ปกติก็ทำเเบบนั้นทำอะไรด้วยตัวเองตลอดมีเพื่นอใหม่มาด้วยก็เลยรู้สึกเเปลกดี พอกลับมาเห็นกระเป๋า J อยู่ที่เดิมเลยจะเอาไปให้ก็นึกว่าสลับกันก็ขำๆตลกดี ไปถึงเราก็จำบทพูดตัวเองไม่ได้ ตัว J พูดมาว่าประมาณว่าตัวเขาพูดอะไร เราก็เลยงงก็บอกว่าไม่ได้ว่าเด็กว่าผิดอะไรก็นึกว่ารู้อยู่ว่ากระเป๋าตัว ก็เลยไปหยิบกระเป๋าที่ด้านหลังก็นึกว่าของตัวเองอีก ทีนี้ตัว A ก็พูดเสียงดังว่า กระเป๋าเขา จนรุ่นพี่ที่สนิทกับกับเขาพูดขึ้นมาว่าฟให้ใจเย็นๆกัน เราเสียใจมากคิดว่าเจาคงจะเอาไปพูดอะไรกัน จากนั่นเราก็เลยเเยกตัวไปกินข้าวคนเดียวก่ะจะทำเเบบนั้นเเต่เพื่อนใหม่มาด้วยเราก็ดีใจที่มีคนอยู่ข้างเรา เเล้วก็เรื่องเวรมีอาทิตย์หนึ่งที่เราปิดหน้าต่างต่างยกโต๊ะกวาดห้อง 'คนเดียว' เพื่อนคนอื่นไปคุยกันเราทำเสร็จเราเลยไม่รอก็ไปเลยให้พวกเขาทิ้งขยะกันเอง ปกติเรารับหน้าที่ทิ้งขยะที่เเบบไม่มีใครอยากทำเท่าไหร่ จนมาอาทิตย์หนึ่งเราลืมทำ เขาบอกครูว่ามีคนไม่มาทำเวรก็พูดกับครู หัวเราะกัน ที่เจ็บใจคือเราทำตลอดเเต่คนไม่เคยทำเวรดันเป็นคนพูด เเล้วเขาก็มาขอสลับเวร เราก็เลยเออดีละ เราตัดสินใจกดออกกลุ่มทุกกลุ่มเหลือไว้เพียงกลุ่มเดียวที่มีกันครบทุกคน
*เรารู้อยู่เเล้วเพื่อสร้างกลุ่มที่ไม่มีเราเขาเคยพูดตอนคุยอยู่ในสายนานเเล้ว เขาหัวเราะกัน เเล้วก็เคยสร้างกลุ่มที่ไม่มีเพื่อนใหม่คนหนึ่งเหตุผลเพราะอะไรก็ไม่รู้น่าจะเเค่ไม่ชอบเฉยๆ เเล้วก็สร้างกลุ่มที่ไม่มีเราอีกเเต่กลุ่มนี้มีเพื่อนใหม่ทุกคน*
เขาไม่พอใจที่เรากดออกกลุ่ม ตัว y บอกรักเรามากเเต่เราไม่คิดว่าสิ่งที่เขาทำดูเหมือนรักเราเลย เพราะก่อนหน้าเขาไม่พยายามที่จะดึงหรืออะไรเขาเเค่มีมาพูดคุยเล็กๆน้อยๆ เคยมีครั้งหนึ่งตัว y ที่ทำงานกลุ่มเขาไม่เอาเราเข้า เราคิดว่าเขาคงจะเอาเข้าเเค่คิดนะสุดท้ายเขาก็เอาคนใหม่เขา เราก็เลยอยู่กับเพื่อนใหม่ ตอนนั้นเราไม่เอาอะไรเเล้วกับกลุ่มเพื่อนเก่าเลยไม่อยากกลับไปสนิทเหมือนก่อน
พอเรากดออกกลุ่มมันก็เป็นประเด็นทักไปว่าเพื่อนใหม่นู่นนี่โดยที่ไม่ทักกหาเรามีเเต่ y ที่ทักมาถามว่าทำไมกดออกกลุ่ม เราก็เลยทักกลุ่มใหญ่คุยกันให้จบๆ ตอนเเรกเราถามเขาว่าเคืองอะไรไม่พอใจอะไรพูดได้ไม่ไหมเขาไม่ยอมบอก ตัว A บอกเลิกคบเป็นเพื่อนเลยดีไหม ตัว Y ก็บอกสิ่งที่เราทำกำลังตัดความสัมพันธ์ เราก็งงว่าตัดยังไงเราพูดดีด้วยตลอดไม่มีคำหยายในรูปประโยคที่เราพิมพ์ ,กูไม่มีอยู่ในข้อความเลย เราพูดดีด้วยใจเย็นก็เเล้วสุดท้ายจบที่เราพูดก่อน เราก็ไม่จะพูดอะไรก็เลยอธิบายเล่ามุมมองของตัวเราตั่งเเต่ต้นว่าเออรู้สึกยังไง เเบบไหน อันนี้ที่เราเข้าใจผิดก็ขอโทษ ตัว A ก็ขอโทษเราที่เขาพูดไม่ดี เเละเราก็ถามว่ายังมีอะไรคาใจอีกไหม ตัว y ก็ถามอีกรอบว่าทำไมออกกลุ่ม เราก็เลยอึดอัดไม่ชบเเล้วก็สร้างกลุ่มเยอะเยอะไปทำไมก็ไม่รู้มีคนนู้นทีไม่มีคนนู้นที พอพิมพ์จบเขาอ่านเสร็จ y เขากดออกจากกลุ่มเลย
ณ จุดนี้ ตั้งเเต่เกิดเรื่องเราไม่เคยโกรธเลยสักครั้งเเต่เราจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม
จากนั่นเขาก็หาเรื่องเเซะตลอด เขาบอกกับเพื่อนเราว่ายังเคืองเรา ตัว y พูด ชอบมองเเรงใส่ตอนเดินผ่านเราไม่เคยเห็นมีเเต่เพื่อนที่มาบอกเรา ใช่ค่ะ คนที่บอกโครตจะรักเราเเซะเราค่ะ บอกว่าเดินช้าอ้อยอิ่งบ้างบอกว่าถ้าครูไม่อยู่จะดักแถวสาย เราไม่เคยโต้เขาเลยนะเพราะไม่เคยพูดตรงๆกับเราพูดลอยๆให้ได้ยิน เราไม่โกรธอ่ะเราสียใจมากกว่า เรื่องเรียนก็ท้อเเล้วยังจะท้อเรื่องสังคมอีก เราก็เลยคิดว่าเราไม่เคยทุ่มเทกับเขาตรงไหน เราทั้งซื้อของขวัญวันเกิดให้ ตอนที่ทะเลาะกับ A เรายังคิดว่าวันเกิดเขาจะเอาอะไรให้ดีสุดท้ายก็ไม่กล้าให้ เราสั่งซื้อตุ๊กตาสั่งทำให้เป็นคู่ใส่กัน เขาไม่เอามาห้อยเราก็ไม่โกรธ ปีนี้เราดีใจที่เพื่อนซื้อของขวัญให้ถึงจะไม่เท่าราคาที่เราซื้อให้เขาเราก็ดีใจอ่ะ มันดีใจอ่ะ มันซื้อกันทักคนเเล้วยังเก็บไว้ทะเลาะกันก็ไม่เคยทิ้ง วันจบการศึกษาใบกระดาษที่ตัว A ให้เขียนความรู้สึกของเขา ปีที่เเล้วเราก็เก็บมันไว้ดีอยู่เลย
ก็คิดว่าคงจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมเเล้วพอเรื่องเหมือนจะไม่จบเราก็เลยคิดว่าคงจะไม่อยากคุยด้วยเเล้ว ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากเรียนด้วยเหนื่อย เราอยากเป็นหมอพยยามมากๆ เราไม่ชอบการใช้ชีวิตกับสังคมเลยอ่ะเราอยากอยู่เเต่กับที่บ้านครูบางคนก็ไม่ได้ดีด้วยซ้ำ ต้องทำเเค่ไหนถึงจะเป็นคนเก่ง ต่อให้พยายามก็ไม่ได้เห็นผลอะไรเลย
เราใช้เวลาปิดเทอมสองเดือน เเต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เรายังคิด เเล้วก็เสียใจใกล้จะเปิดเทอมเข้าทุกที สื่งที่ยื้อชีวิตเราคือการเป็นหมอให้สำเร็จให้ที่บ้านภูมิใจให้มีเงิน ให้มารักษายางปู่ย่าดูเเลเขา
พอวิธีจัดการความรู้สึกไม่คะ ไม่อยากเครียดเรื่องเรียน TT