🔹 ปัญหาวงเวียนพระราม 5
วงเวียนพระราม 5 เป็นจุดตัดสำคัญเชื่อมระหว่างถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ และถนนบางกรวย–ไทรน้อย ซึ่งมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ปัญหาหลักอยู่ที่ การออกแบบและการตีเส้นจราจรที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่จริง และ ขาดความชัดเจนของช่องทางการจราจรในขณะเข้า–ออกวงเวียน
🔹 รายละเอียดของปัญหา
เส้นจราจรไม่ต่อเนื่องและไม่สอดคล้องกับทางเข้า–ออกจริง
ช่องทางเข้าวงเวียนแต่ละทิศมีจำนวนเลนไม่เท่ากัน ทำให้เมื่อรถเข้าสู่วงเวียน บางเลนบังคับให้ตัดหน้ารถคันอื่นเพื่อออกช่องที่ต้องการ
เส้นแบ่งเลนภายในวงเวียนบางส่วนไม่ชัดเจน หรือมีการตีเส้นที่บังคับให้รถวิ่งไขว้กันไปมา
การบังคับทิศทางไม่สอดคล้องกับสัญชาตญาณคนขับ
คนขับจำนวนมากต้อง “ตีวงกว้าง” หรือ “ตัดเลน” เพื่อจะออกไปยังทิศที่ต้องการ
รถที่อยู่ในเลนในสุดมักต้องเบรกกะทันหันให้รถที่ออกเลนขวา ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อการชนท้ายและเฉี่ยวชน
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง
รถต้องเปลี่ยนเลนภายในวงเวียนบ่อย
เกิดการเฉี่ยวชนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น
รถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงมากที่สุดจากการถูกเบียดหรือถูกตัดหน้า
🔹 ผลกระทบ
การจราจรติดขัดมากในช่วงเร่งด่วน
อุบัติเหตุเฉี่ยวชนเกิดขึ้นเป็นประจำ
ผู้ขับขี่เกิดความสับสนและขับขี่ด้วยความเครียด
ประสิทธิภาพของวงเวียนซึ่งควรช่วยระบายการจราจร กลับกลายเป็นจุดอันตราย
🔹 ข้อเสนอแนะเบื้องต้น
ปรับปรุงการตีเส้นจราจรให้ต่อเนื่องและสอดคล้องกับช่องทางเข้า–ออกจริง
ศึกษาพฤติกรรมการขับขี่จริงและออกแบบให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่
ปัญหาวงเวียนพระราม 5
วงเวียนพระราม 5 เป็นจุดตัดสำคัญเชื่อมระหว่างถนนนครอินทร์ ถนนราชพฤกษ์ และถนนบางกรวย–ไทรน้อย ซึ่งมีปริมาณรถหนาแน่นตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ปัญหาหลักอยู่ที่ การออกแบบและการตีเส้นจราจรที่ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมการขับขี่จริง และ ขาดความชัดเจนของช่องทางการจราจรในขณะเข้า–ออกวงเวียน
🔹 รายละเอียดของปัญหา
เส้นจราจรไม่ต่อเนื่องและไม่สอดคล้องกับทางเข้า–ออกจริง
ช่องทางเข้าวงเวียนแต่ละทิศมีจำนวนเลนไม่เท่ากัน ทำให้เมื่อรถเข้าสู่วงเวียน บางเลนบังคับให้ตัดหน้ารถคันอื่นเพื่อออกช่องที่ต้องการ
เส้นแบ่งเลนภายในวงเวียนบางส่วนไม่ชัดเจน หรือมีการตีเส้นที่บังคับให้รถวิ่งไขว้กันไปมา
การบังคับทิศทางไม่สอดคล้องกับสัญชาตญาณคนขับ
คนขับจำนวนมากต้อง “ตีวงกว้าง” หรือ “ตัดเลน” เพื่อจะออกไปยังทิศที่ต้องการ
รถที่อยู่ในเลนในสุดมักต้องเบรกกะทันหันให้รถที่ออกเลนขวา ซึ่งสร้างความเสี่ยงต่อการชนท้ายและเฉี่ยวชน
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง
รถต้องเปลี่ยนเลนภายในวงเวียนบ่อย
เกิดการเฉี่ยวชนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็น
รถจักรยานยนต์มีความเสี่ยงมากที่สุดจากการถูกเบียดหรือถูกตัดหน้า
🔹 ผลกระทบ
การจราจรติดขัดมากในช่วงเร่งด่วน
อุบัติเหตุเฉี่ยวชนเกิดขึ้นเป็นประจำ
ผู้ขับขี่เกิดความสับสนและขับขี่ด้วยความเครียด
ประสิทธิภาพของวงเวียนซึ่งควรช่วยระบายการจราจร กลับกลายเป็นจุดอันตราย
🔹 ข้อเสนอแนะเบื้องต้น
ปรับปรุงการตีเส้นจราจรให้ต่อเนื่องและสอดคล้องกับช่องทางเข้า–ออกจริง
ศึกษาพฤติกรรมการขับขี่จริงและออกแบบให้สอดคล้องกับความเป็นจริงในพื้นที่