❤️สรุปภาพรวมระยะเวลาในการทำงาน
เข้ารับตำแหน่ง: ธันวาคม 2023
ถูกปลดออกจากตำแหน่ง: ตุลาคม 2025
ระยะเวลาทำงาน: ราว 22 เดือน
⚽️ 1. สิ่งที่มาซาทาดะ อิชิอิทำให้กับทีมชาติไทย
🏗️ ด้านโครงสร้างและระบบทีม
นำวินัยแบบญี่ปุ่นมาใช้ในทีมชาติไทย
กำหนดเวลาเข้าซ้อม – ประชุมทีม – รับประทานอาหารอย่างเคร่งครัด
มีการติดตามสมรรถภาพร่างกาย (ฟิตเนส, recovery, nutrition) ของนักเตะเป็นระบบ
นักเตะหลายคน เช่น ธีรศิลป์, ธีราทร, ศุภชัย ให้สัมภาษณ์ว่า “อิชิอิเป็นโค้ชที่ละเอียดและมีระบบมากที่สุดเท่าที่เคยร่วมงานมา”
วางระบบการเล่นที่เน้น “ระเบียบและวินัยแท็คติก”
ใช้แผน 4-2-3-1 หรือ 3-4-2-1 แล้วแต่คู่แข่ง
เน้นบอลสั้นจากแนวหลัง ควบคุมพื้นที่ ไม่เปิดหน้าแลกแบบยุคก่อน
พยายามลดการพึ่งพา “บอลสวยงามแบบไทยสไตล์” แล้วเน้น “ความมีระบบเหมือนญี่ปุ่น”
เปิดโอกาสให้นักเตะใหม่
ดึงดาวรุ่งจากไทยลีก เช่น สุภกิณห์, ชนภัช, ยศวรรธน์ เข้ามาโรเตชัน
ใช้ผู้เล่นไทยในประเทศเป็นหลัก แต่เสริมด้วยตัวต่างแดนที่มีผลงานดีใน J-League เช่น ธีราทร, ธีรศิลป์, ชนาธิป (ช่วงหายเจ็บ)
🧠 2. แนวทางการทำงานและปรัชญา
อิชิอิเน้นว่า “ทีมต้องมาก่อนชื่อเสียงของนักเตะ”
มีการวิเคราะห์วิดีโอคู่แข่งละเอียดมาก (เหมือนตอนคุมคาชิมะ แอนท์เลอร์ส และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
ให้ความสำคัญกับ “transitions” — การเปลี่ยนจากรับเป็นรุก และรุกเป็นรับอย่างรวดเร็ว
มีการใช้ผู้ช่วยชาวไทยเพื่อสร้างการถ่ายทอดความรู้ในระยะยาว
📊 3. ผลงานที่จับต้องได้
ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก (โซนเอเชีย รอบ 2)
เข้ารอบ 3 (Top 18)ถือว่าทำได้ตามเป้า สมาคมเคยตั้งไว้ขั้นต่ำ เสมอเกาหลีใต้ในบ้านเกาหลีได้
ฟุตบอลเอเชียนคัพ 2024 (กาตาร์)
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
แพ้เกาหลีใต้ แต่เล่นได้ดี มีวินัย
ฟุตบอลอาเซียนคัพ (AFF Cup 2024)
แพ้เวียดนามในรอบรองฯ
ถูกวิจารณ์เรื่องเกมรุกขาดความเฉียบคม
อุ่นเครื่อง FIFA Day
ชนะญี่ปุ่นชุดโอลิมปิก / เสมออุซเบฯ
เกมรับมีพัฒนาชัดเจน
💬 4. มุมมองจากสื่อ นักเตะ และแฟนบอล
🇹🇭 สื่อไทย
ช่วงต้น: ยกย่องว่าเป็นโค้ชที่ “มืออาชีพและเข้าใจฟุตบอลไทยมากที่สุด” เพราะเคยคุมบุรีรัมย์ฯ ได้แชมป์
ช่วงกลาง: เริ่มมีเสียงวิจารณ์ว่า “ทีมเล่นขาดความสร้างสรรค์” โดยเฉพาะเมื่อเจอทีมที่ตั้งรับ
ช่วงท้าย: สื่อบางเจ้า (เช่น Main Stand, Siamsport) ชี้ว่าการที่สมาคมไม่สนับสนุนเต็มที่ (เช่น โปรแกรมลีก, การรวมตัวทีมชาติช้า) เป็นปัจจัยที่ทำให้ผลงานไม่ต่อเนื่อง
จากมุมมองของนักฟุตบอลไทย
⚽ 1. ธีรศิลป์ แดงดา
“อิชิอิเป็นโค้ชที่มีระบบชัดเจน เขาต้องการให้ทุกคนทำตามแท็กติกเป๊ะ ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นดาวดังหรือเด็กใหม่ เขามองทุกคนเท่ากัน”
(สัมภาษณ์หลังเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2024, สยามสปอร์ต)
– ธีรศิลป์ย้ำว่าอิชิอิ “ละเอียดมาก” โดยเฉพาะในเกมรับและการเคลื่อนที่แบบญี่ปุ่น
– เขายอมรับว่า “ต้องปรับตัว” เพราะอิชิอิไม่ใช่โค้ชที่พูดปลุกใจ แต่ให้ทุกอย่างผ่านการซ้อม
⚽ 2. ธีราทร บุญมาทัน
“เขาเป็นคนที่จริงจังและมีวินัยสูงมาก ทุกการซ้อมจะมีเหตุผลเสมอ”
“บางทีอาจจะรู้สึกเหนื่อยเพราะเขาคุมเข้ม แต่ก็ทำให้ทีมพัฒนาได้จริง”
(TrueID Sport, เมษายน 2024)
– ธีราทรมองว่าอิชิอิ “ยกมาตรฐานการฝึกซ้อมให้สูงขึ้นมาก” และช่วยให้ทีมมี “ความเข้าใจเกมแบบญี่ปุ่น”
– แต่ก็ยอมรับว่าระบบนี้ต้องใช้เวลานานในการให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
⚽ 3. ชนาธิป สรงกระสินธ์
“โค้ชอิชิอิเป็นคนที่เข้าใจนักเตะ เขาไม่ค่อยพูดแต่สื่อสารผ่านแท็กติกได้ดี”
“เขาให้เกียรตินักเตะไทยทุกคน ไม่ว่าจะเล่นในไทยลีกหรือเจลีกมาก่อน”
(ให้สัมภาษณ์กับ Main Stand, พฤษภาคม 2024)
– ชนาธิปเคยร่วมงานกับอิชิอิในเจลีกมาก่อน จึงเข้าใจแนวทางดี
– เขายกย่องอิชิอิว่า “เป็นโค้ชที่ไม่มีอีโก้เลย” และ “มุ่งมั่นเพื่อทีมชาติไทยจริง ๆ”
⚽ 4. ศศลักษณ์ ไหประโคน
“ตั้งแต่เขาเข้ามา เราได้เรียนรู้ระบบญี่ปุ่นมากขึ้น ทั้งในเรื่องการเคลื่อนที่และการตัดสินใจเร็ว”
“เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม”
(Siamsport, มิถุนายน 2024)
– ศศลักษณ์พูดถึงการซ้อมที่ “เข้มข้นกว่าทุกยุคที่ผ่านมา”
– แต่บอกด้วยว่าความเข้มงวดของอิชิอิ “บางครั้งทำให้บรรยากาศเครียด”
⚽ 5.ชญาวัฒน์ ศรีนาวงษ์
“โค้ชอิชิอิเป็นคนที่ละเอียดและใส่ใจทุกอย่างจริง ๆ ครับ”
“ผมเคยเห็นกับตาว่าเขาเดินอยู่ในสนามซ้อมก่อนเริ่มซ้อม แล้วก้มลงไปเด็ดหญ้าเอง เพราะเห็นว่ามันยาวไปนิดหนึ่ง”
“ตอนแรกผมก็แปลกใจนะครับ ว่าทำไมโค้ชใหญ่ถึงทำแบบนั้นเอง ไม่เรียกเจ้าหน้าที่สนาม”
“แต่พอได้ทำงานกับเขาเรื่อย ๆ ถึงเข้าใจว่า เขาเป็นคนที่ไม่ปล่อยผ่านอะไรเลย”
“เขาอยากให้ทุกอย่างสมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่เพื่อภาพลักษณ์ แต่เพื่อให้ทีมซ้อมได้ดีที่สุด”
“เขามองว่าถ้าสนามไม่ดี แค่หญ้ามันสะดุดนิดเดียว นักเตะเจ็บได้เลย”
“ผมเห็นแล้วก็รู้สึกเลยว่า โค้ชคนนี้รักในงานของเขาจริง ๆ และให้เกียรติในทุกขั้นตอนของฟุตบอล”
⚽ 6. กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
“โค้ชอิชิอิมีความเป็นมืออาชีพมาก ทุกอย่างตรงเวลาและชัดเจน”
“สิ่งที่เขาปลูกฝังคือความมีวินัย ซึ่งผมคิดว่าทีมชาติไทยต้องการสิ่งนี้มานานแล้ว”
(สัมภาษณ์หลังเกมอุ่นเครื่อง, Channel 3 Sport)
– เขาชื่นชมเรื่อง “การเตรียมทีม” และ “ความตรงต่อเวลา”
– บอกว่าอิชิอิ “เหมือนโค้ชยุโรปในร่างญี่ปุ่น”
🇯🇵 สื่อญี่ปุ่น
ชื่นชมว่าอิชิอิ “ทำให้ทีมไทยมีโครงสร้างคล้ายทีมญี่ปุ่น”
สื่ออย่าง Nikkan Sports และ Soccer Digest Japan ระบุว่าเขา “ยกระดับทีมไทยในแง่วินัยและระบบการซ้อม แม้ผลลัพธ์ยังไม่ถึงระดับ top 10 ของเอเชีย”
มีการเปรียบเทียบว่า “อิชิอิใช้แนวทางที่เหมือนมอริยาสุ (โค้ชทีมชาติญี่ปุ่น)” คือ มุ่งระยะยาวมากกว่าผลเฉพาะหน้า
👥 ความคิดเห็นแฟนบอลไทย
กลุ่มสนับสนุน: เห็นว่าเขาทำทีมมีระเบียบกว่าเดิม นักเตะมีความรับผิดชอบมากขึ้น
กลุ่มวิจารณ์: มองว่าทีมเล่นน่าเบื่อ ไม่กล้าเสี่ยง ขาดสีสัน “บอลไทยสไตล์”
จุดหักเห: หลังพ่ายเวียดนามและมีข่าวภายในสมาคมไม่พอใจเรื่อง “ไม่ยอมใช้ผู้เล่นบางคนที่มีอิทธิพล” ทำให้กระแสเริ่มพลิก
📱 เสียงจาก Influencer / นักวิเคราะห์ฟุตบอลไทย
บิ๊กเจลีก, โค้ชโจ้, พี่จุ้ย Main Stand
→ มองว่า “อิชิอิพยายามสร้างรากฐานแท็คติกให้ไทยในระดับเอเชีย”
→ “แต่แฟนบอลไทยยังคาดหวังสไตล์เดิมคือบุกมันส์ ยิงเยอะ”
บางคนเช่น บอลไทยชัดเจน / Tero Vlog
→ วิจารณ์ว่า “เล่นเน้นระเบียบเกินไป ขาดความกล้าเสี่ยงในจังหวะเข้าทำ”
🔥 5. เหตุผลและบรรยากาศก่อนถูกปลด
สมาคมต้องการ “ผลงานเป็นรูปธรรม” เช่น การผ่านรอบ 3 ฟุตบอลโลกให้ลึก หรือเข้าชิง AFF Cup
ความสัมพันธ์ระหว่างอิชิอิกับผู้บริหารบางคนเริ่มตึง เพราะเขายืนยันจะเลือกนักเตะจากผลงาน ไม่ตามแรงกดดัน
สุดท้ายสมาคมฯ ประกาศ “แยกทางด้วยเหตุผลเรื่องแนวทางไม่สอดคล้องกับทิศทางอนาคต”
→ แต่สื่อไทย-ญี่ปุ่นต่างรายงานว่า “จริง ๆ คือถูกปลดเพราะไม่ยอมประนีประนอมกับระบบเดิม”
💡 6. มรดกที่เขาทิ้งไว้ให้ทีมชาติไทย
วินัยและโครงสร้างการทำงานแบบมืออาชีพ
ระบบการซ้อมและวิเคราะห์เกมเชิงลึก
นักเตะรุ่นใหม่ที่กล้าเล่นตามแท็คติก ไม่ตามอารมณ์เกม
ปรับภาพลักษณ์ทีมชาติไทยให้ “ดูมีความเป็นทีม” มากกว่า “ทีมรวมซูเปอร์สตาร์”
🌸🌸🌸🌸🌸ส่วนตัวให้มาซะทาดะอิชิอิ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่คนหนึ่งที่แฟนฟุตบอลไทยจำนวนมากรักและเห็นความทุ่มเทของเขา จะเห็นได้จากว่าหลังจากมีกระแสข่าวสมาคมฟุตบอลปลดออกจากการทำหน้าที่แฟนฟุตบอลไทยต่างรู้สึกเสียดายเขาเป็นจำนวนมากคิดว่าเป็นแฟนฟุตบอลไทยส่วนใหญ่ด้วยซ้ำซึ่งไม่ค่อยเห็นปรากฏการณ์แบบนี้ ในเพจส่วนตัวของเดอะตุ๊กรถทัวร์ไปจอดเต็มลานจอดรถ และตามเพจเกี่ยวกับฟุตบอลไทยต่างๆที่ลงข่าวนี้ความคิดเห็นแฟนบอลไทยเป็นเอกฉันท์ว่าแฟนฟุตบอลไทยรักมาซาทาดะอิชิอิ❤️❤️❤️❤️❤️❤️
🙏🙏🙏🙏ขอขอบคุณในผลงานที่ผ่านมาในความเสียสละความทุ่มเทให้กับฟุตบอลไทย
🌺🌸💮🌸💮💮สรุปภาพรวมการทำงาน 22 เดือนในตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ของมาซาทาดะ อิชิอิ💮🌸💮🌸
(สัมภาษณ์หลังเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2024, สยามสปอร์ต)
– เขายอมรับว่า “ต้องปรับตัว” เพราะอิชิอิไม่ใช่โค้ชที่พูดปลุกใจ แต่ให้ทุกอย่างผ่านการซ้อม
“บางทีอาจจะรู้สึกเหนื่อยเพราะเขาคุมเข้ม แต่ก็ทำให้ทีมพัฒนาได้จริง”
(TrueID Sport, เมษายน 2024)
– แต่ก็ยอมรับว่าระบบนี้ต้องใช้เวลานานในการให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
“เขาให้เกียรตินักเตะไทยทุกคน ไม่ว่าจะเล่นในไทยลีกหรือเจลีกมาก่อน”
(ให้สัมภาษณ์กับ Main Stand, พฤษภาคม 2024)
– เขายกย่องอิชิอิว่า “เป็นโค้ชที่ไม่มีอีโก้เลย” และ “มุ่งมั่นเพื่อทีมชาติไทยจริง ๆ”
“เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม”
(Siamsport, มิถุนายน 2024)
– แต่บอกด้วยว่าความเข้มงวดของอิชิอิ “บางครั้งทำให้บรรยากาศเครียด”
“ผมเคยเห็นกับตาว่าเขาเดินอยู่ในสนามซ้อมก่อนเริ่มซ้อม แล้วก้มลงไปเด็ดหญ้าเอง เพราะเห็นว่ามันยาวไปนิดหนึ่ง”
“ตอนแรกผมก็แปลกใจนะครับ ว่าทำไมโค้ชใหญ่ถึงทำแบบนั้นเอง ไม่เรียกเจ้าหน้าที่สนาม”
“แต่พอได้ทำงานกับเขาเรื่อย ๆ ถึงเข้าใจว่า เขาเป็นคนที่ไม่ปล่อยผ่านอะไรเลย”
“เขาอยากให้ทุกอย่างสมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่เพื่อภาพลักษณ์ แต่เพื่อให้ทีมซ้อมได้ดีที่สุด”
“เขามองว่าถ้าสนามไม่ดี แค่หญ้ามันสะดุดนิดเดียว นักเตะเจ็บได้เลย”
“ผมเห็นแล้วก็รู้สึกเลยว่า โค้ชคนนี้รักในงานของเขาจริง ๆ และให้เกียรติในทุกขั้นตอนของฟุตบอล”
“สิ่งที่เขาปลูกฝังคือความมีวินัย ซึ่งผมคิดว่าทีมชาติไทยต้องการสิ่งนี้มานานแล้ว”
(สัมภาษณ์หลังเกมอุ่นเครื่อง, Channel 3 Sport)
– บอกว่าอิชิอิ “เหมือนโค้ชยุโรปในร่างญี่ปุ่น”
→ มองว่า “อิชิอิพยายามสร้างรากฐานแท็คติกให้ไทยในระดับเอเชีย”
→ “แต่แฟนบอลไทยยังคาดหวังสไตล์เดิมคือบุกมันส์ ยิงเยอะ”
→ วิจารณ์ว่า “เล่นเน้นระเบียบเกินไป ขาดความกล้าเสี่ยงในจังหวะเข้าทำ”
→ แต่สื่อไทย-ญี่ปุ่นต่างรายงานว่า “จริง ๆ คือถูกปลดเพราะไม่ยอมประนีประนอมกับระบบเดิม”