แคชชิวนัทเรซิ่นคุกกี้ ขนมไทยๆที่กินเจ ไม่กินเจ ก็กินได้ทุกคน

แม่เปปชวนทำขนมไทยกันอีกแล้วค่ะ  ความว่างจัด+คุณพี่สาวกินเจ แม่เปปก็เลยต้องสรรหาเมนูอาหารเจที่ไม่จำเจ คือทั้งคนกินก็อร่อย คนทำก็ไม่เบื่อทำ ถ้ามาให้ผัดผัก ต้มผัก ทำเมนูเต้าหู้ อะไรพวกนั้น แม่เปปคงไม่อยากทำ และคุณพี่สาวเธอก็สามารถไปหาซื้อตามร้านขายอาหารเจได้

อะไรๆที่เป็นครั้งแรกมันจะตื่นเต้นสุดๆ สำหรับแม่เปป คือทำไปก็ลุ้นไปว่าเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว ผลตอบรับจะออกมาเป็นเช่นไร ทั้งรูปลักษณ์ รสชาติ รสสัมผัส กลิ่นสีสัน ความเชิญชวนลิ้มลอง และสุดท้ายคนทำอยากทำครั้งต่อๆไปอีกหรือไม่

แม่เปปและพี่สาว เคยซื้อขนมนี้มากิน  2-3 ครั้ง จากร้าน ขนมบ้านอัยการ กระปุกเล็กนิดเดียวเองค่ะ ราคาก็เกือบร้อย ถ้ากระปุกใหญ่ก็ร้อยกว่าๆ

สูตรที่แม่เปปทำก็ขอให้ เครดิต สูตรต้นตำรับของ ขนมบ้านอัยการไว้ ณ ที่นี้ด้วย  แต่ก็เห็นหลายๆคน นำไปเพิ่ม/ดัดแปลง โดยการใส่ผงธัญพืช นมผงเบเกอรี่ และต่อยอดใส่ส่วนผสมอื่นๆเพิ่มแตกกันออกไป

แคชชิวนัทเรซิ่นคุกกี้ สูตรต้นตำรับ ขนมบ้านอัยการ

ส่วนผสม

1. แป้งเค้ก 120 กรัม

2. แป้งสาลีอเนกประสงค์  100 กรัม

3. น้ำตาลไอซิ่งร่อน 100 กรัม

4. เนยขาวละลาย 40 กรัม ทำมาจากพืชนะคะ ชั่งก่อนละลายนะ

5. น้ำมัน 50 กรัม (แม่เปปใช้น้ำมันดอกทานตะวัน)

6. เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุกหั่นหยาบ 50 กรัม

7. ลูกเกด,แครนเบอรี่ สับหยาบ 50 กรัม

วิธีทำ

1. ผสมแป้งทั้ง 2 ชนิดลงภาชนะที่มีฝาปิด เพื่อทำการอบควันเทียน 3 ชม. (แม่เปปแอบโกง นำไปอบควันเทียนเมื่อสำเร็จเป็นรูปร่างแล้วค่ะ)

2. หลังอบควันเทียนแป้งครบเวลา ก็นำแป้ง กับน้ำตาลไอซิ่ง ร่อนรวมกัน ใส่ในชามผสมใบใหญ่ๆ

3. ใส่เนยขาวละลายที่เย็นตัวแล้ว และน้ำมัน ลงไปในชามแป้งค่อยๆเทนะ  ขนมนี้แป้งเขาจะมีความโปร่ง เบา ไม่ใช้วิธีการนวดแป้งนะคะ ถ้านวดจะทำให้แป้งแข็งแน่นเกิน ก็ใช้พายยางหรือส้อมก็ได้ค่ะ ผสมรวมกันให้เป็นเหมือนเม็ดทราย (วิธีการนี้คล้ายๆกับการทำแป้งพายร่วนที่แม่เปปคุ้นเคยดี เลยไม่ยากค่ะ)

4. ใส่เม็ดมะม่วง ลูกเกด แครนเบอรี่ ที่เราสับหยาบลงไปเลยค่ะ คลุกเคล้าด้วยส้อมให้เข้ากันค่ะ (การใช้ส้อมนี้ สูตรขนมบ้านอัยการ ไม่ได้แจ้งไว้นะคะ แต่แม่เปปคิดเองว่าสะดวกและถนัดมือมากๆ แต่ถ้าใครจะใช้วิธีการผสมด้วยเครื่องมืออื่นๆก็ตามชอบเลยค่ะ )

5. อัดแป้งลงพิมพ์ค่ะ เรียงใส่ถาดที่รองด้วยกระดาษรองอบ นำเข้าเตาอบ 180 องศา ไฟบน-ล่าง 20 นาที (ถ้าอบนานเขาจะแข็งและสีเข้มไม่สวยค่ะ)

6. อบเสร็จก็นำออกมาพักให้คลายร้อนทั้งถาดนะคะ อย่าเพิ่งไปยกขนมออกทันที จะแตกเพราะเขายังร้อนอยู่ พอขนมเย็นสนิทก็เก็บใส่กล่องที่มีฝาปิด

7.***  ข้อนี้ คือแม่เปป นำขนมที่อบเสร็จทั้งหมด ไปเรียงใส่ชามก้นลึกใบใหญ่ๆ เพื่ออบควันเทียนหอมๆค่ะ

พิมพ์ขนมแม่เปปใช้จากพิมพ์ที่มี ไม่ได้ซื้อใหม่ ประยุกต์ใช้เอาเองค่ะ พิมพ์ขนมนี้ใช้ ขนาด 2.5 - 3 ซม กำลังดีค่ะ ไม่เล็กไปใหญ่ไป  แต่เห็นเขามีพิมพ์ขายสะดวกตรงที่มีแป้นอัดแป้งด้วย คือพอใส่แป้งลงในพิมพ์ ก็ใช้แป้นเล็กๆที่ให้มาในชุด อัดแป้งลงไปให้แน่นๆ ได้เลย ส่วนแม่เปปใช้วิธีปลายนิ้วกดอัดแป้งลงเองค่ะ แต่ไม่ว่าจะใช้พิมพ์แบบไหน ก็จะต้องดันแป้งที่อัดเป็นรูปทรงแล้วออกมาวางเรียงใส่ถาดเช่นกัน

ทำเสร็จใหม่ๆ แป้งหอมๆ นุ่มๆ เค็มมันนิดๆ ละลายในปากได้เลยจริงๆ ใครอยากลองทำก็จัดเลยค่ะ แต่ถ้ายังไม่มีเวลา ลองไปหาซื้อมาลิ้มลองได้ เขาจะไม่เหมือนขนมกลีบลำดวน หรือ คุกกี้สิงคโปร์ นะคะ กลีบลำดวนเขาจะร่วนกว่า ฝืดคอกว่า ส่วนคุกกี้สิงคโปร์ก็เนื้อแน่นกรอบกว่า ขนมนี้กินเพลินจริงๆ

เนื่องจากขนมนี้มีส่วนผสมของน้ำมัน แม้จะเก็บในภาชนะมีฝาปิดสนิทก็ไม่ควรเก็บไว้นานนะคะ จะทำให้ความหอมของเขาลดลง มีกลิ่นหืนจากน้ำมันเพิ่ม อาจเก็บสัก 5-7วันคงจะดี (แม่เปปคิดเองนะ) แต่บ้านนี้ทำเสร็จแล้ว ดูทรงว่า 2-3 วัน คงจะต้องทำใหม่ คนกินทั้งเจ และไม่เจ หยิบใส่ปากกันเพลินไปเลย