ชุดทัวร์คอนเสิร์ตของลิซ่า อยู่บนนิตยสาร Vogue US ถือเป็นหน้าเป็นตาของยุคแฟชั่นยุคใหม่ ในฐานะบุคคลเอเชียที่มีอิทธิพลมากที่สุดตลอดกาลในวงการ
.
.
สไตลิสต์ของ Lisa อย่าง Brett Alan Nelson และ Nan Nist พูดถึงสิ่งที่ทำให้ลุคทัวร์สมบูรณ์แบบ
BP ออกทัวร์อีกครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่าเราจะได้เห็น Pop star ขวัญใจของเราอย่างลิซ่า กลับมาขึ้นสเตจอีกครั้ง ช่วงแรกเริ่มที่อเมริกาเหนือและยุโรป หลังจากพักสั้น ๆ พอให้สมาชิกได้ไปร่วมงาน FW ก็เดินทางต่อมายังเอเชีย ทั้งในไต้หวัน ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง
ลิซ่าขึ้นชื่อเรื่องลุคบนสเตจสุดปังและคาแรกเตอร์ แต่สำหรับทัวร์ครั้งนี้ สไตลิสต์ของเธอ Brett Alan Nelson และ Nan Nist ได้ทุ่มเทเป็นพิเศษ โดยคัดสรรไม่เพียงแค่ชุดแบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อดังเท่านั้น แต่ยังมีชิ้นที่สั่งตัดขึ้นมาโดยเฉพาะอีกด้วย
ด้านล่างคือบทสัมภาษณ์พิเศษจาก Vogue กับสองสไตลิสต์คนสำคัญ ถึงเบื้องหลังการครีเอตลุคให้ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก Global superstar
Vogue: พาเราชมลุคของ #Lisa หน่อยสิ เรารู้ว่าเธอสวมชุดจากดีไซเนอร์ต่างกันในแต่ละเมืองของอเมริกาและยุโรป
Brett Alan Nelson: ฉันได้ทำงานกับลิซ่าที่ Coachella และโปรเจกต์อื่น ๆ อีกไม่กี่งาน หลังจากนั้นทีมของเธอก็ติดต่อให้ดูแลลุคสำหรับทัวร์ในยุโรปและอเมริกา ซึ่งฉันตื่นเต้นมาก เพราะเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลายแบรนด์อยู่แล้ว ฉันเลยติดต่อไปทั่วเพื่อเปิดโอกาสให้มีไอเดียและสเก็ตช์ที่หลากหลาย อยากให้ทุกลุคของเธอดู rockstar จริง ๆ และให้แต่ละแบรนด์ได้มีช่วงเวลา rockstar moment เป็นของตัวเอง
ที่ LA ฉันอยากให้เธอใส่ลุค Louis Vuitton ลายโมโนแกรมเต็มตัว ส่วนที่ชิคาโก เราทำลุคคริสตัลจาก Giuseppe di Morabito ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นชุดที่เธอจะใส่ที่ Coachella มาก่อน
ฉันชอบ IB Kamara และทีม Off-White มาก พวกเขาทำชุดคัสตอมที่ดูแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขามักทำ และต่างจากลุคที่ลิซ่ามักใส่ แต่ถ้าดูดี ๆ ที่รายละเอียดของแจ็กเก็ตจะเห็นโลโก้ Off-White และดีเทลเล็ก ๆ ที่ดูเท่มาก
ลิซ่าเป็นแฟน Ferrari ตัวยง และเธออยากให้ติดต่อไปขอให้พวกเขาทำอะไรสักอย่างให้ ไอเดียคือเปลี่ยนเธอให้เป็น 'Ferrari ตัวจิ๋วสีแดงแรงฤทธิ์' และพวกเขาก็ทำเข็มขัดคัสตอมจากไวนิลมันวาวพร้อมโลโก้ให้เธอโดยเฉพาะ
Vogue: แล้วลุค Labubu ที่ไวรัลมาก ๆ ของลิซ่าล่ะ?
Brett Alan Nelson: นั่นแหละ หนึ่งในกระแสที่คนคลั่งสุด ๆ และ #Lisa ก็คือ Queen of Labubu ตัวจริง เธอเป็นหนึ่งในคนแรก ๆ ที่โพสต์เกี่ยวกับมันจนแฟน ๆ ทั่วโลกหลงรัก ตอนเราลองชุดกันรอบแรก ฉันแซวเล่นว่าประมาณว่า 'ทำชุด Labubu ให้ใส่คืนสุดท้ายดีไหม?' แล้วตาเธอเป็นประกายทันที วันนั้นฉันก็เลยเริ่มร่างสเก็ตช์และออกแบบหลายเวอร์ชั่นของ Lisa as Labubu
ฉันร่วมงานกับร้านชื่อ Muto Little ที่ LA ซึ่งเชี่ยวชาญการทำชุดให้หนังและซีรี่ส์ตั้งแต่ยุค 80s เป็นทีมผู้หญิงที่เหมือนพ่อแม่มดด้านคอสตูม พวกเธอช่วยสร้างชุดส่วนบนและกระโปรงออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนตุ๊กตา Labubu ที่เข้าชุดกันนั้น Marco Monroe เป็นคนทำ (เขาเคยทำให้ Lady Gaga ด้วย) ฉันให้เขาใช้ผ้าสีชมพูชนิดเดียวกับชุดของลิซ่าเพื่อให้ดูเข้าชุดกัน และยังให้ Chris Ban สแกนใบหน้า Labubu แบบ 3D เพื่อทำแว่นกันแดดคัสตอมพอดีกับใบหน้าของลิซ่าอีกด้วย มันสุดยอดมากจริง ๆ
Vogue: แล้วกระบวนการออกแบบลุคสำหรับสเตจโซโล่ของ #Lisa ในทัวร์ล่ะ?
Nan Nist: ตอนนี้ฉันกำลังทำลุคเวทีของลิซ่าที่ได้แรงบันดาลใจจากอัลบั้ม Alter Ego ของเธอ แต่ละชุดสะท้อนด้านต่าง ๆ ของตัวตนเธอ ฉันทดลองใช้วัสดุใหม่ ๆ และร่วมงานกับดีไซเนอร์ที่มีความคิดสร้างสรรค์หลายคน ลิซ่าเองก็มีส่วนร่วมมาก เธอชอบเสนอไอเดียและเพิ่มรายละเอียดที่เป็นตัวเอง ทำให้กระบวนการออกแบบมีชีวิตชีวามากขึ้น
Vogue: แล้วมีลุคไหนที่ชอบเป็นพิเศษจากทัวร์รอบนี้ไหม?
Nan Nist: จริง ๆ ฉันชอบทุกลุคเลย เพราะแต่ละชุดมีเรื่องราวของมันเอง ฉันตั้งใจทำงานใกล้ชิดกับดีไซเนอร์ทุกคน เพื่อให้แต่ละลุคมีความหมาย ไม่ใช่แค่สำหรับลิซ่า แต่สำหรับแฟน ๆ ที่รอดูเธอในแต่ละเมืองด้วย
โดยเฉพาะโชว์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีความหมายมากสำหรับลิซ่าเพราะเป็นบ้านเกิด ฉันเลยอยากสร้างบางอย่างที่น่าจดจำจริง ๆ ดีไซน์ในแต่ละวันของทั้งสามโชว์จะเชื่อมโยงกัน เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องและพัฒนาไปเรื่อย ๆ จากวันแรกจนวันสุดท้าย
Vogue: แล้วในคืนแรกที่ไต้หวัน ลิซ่าอยากได้ลุคแบบไหน?
Nan Nist: เราอยากเปิดทัวร์เอเชียด้วยอะไรที่สนุก สดใส และเต็มไปด้วยพลัง ได้แรงบันดาลใจจากคาแรกเตอร์ speedy ของลิซ่าเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ขี้เล่นและกระฉับกระเฉงสำหรับทัวร์ทั้งหมด คืนนั้นเราใช้ลุคสั่งทำพิเศษจากแบรนด์ Fanci Club ที่ดีไซน์ออกมาในโทนสปอร์ต มีลูกเล่นสีสดและตกแต่งด้วยคริสตัลระยิบระยับให้เหมาะกับเวที จบลุคด้วยบูทจาก Empty Behavior ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรองเท้าชกมวย ผสมเทคโนโลยีการสวมใส่จากกีฬาฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ต ทั้งเท่และฟังก์ชั่นครบในเวลาเดียวกัน
สไตลิสต์ของ #Lisa อย่าง Brett Alan Nelson และ Nan Nist เผยเบื้องหลังลุคในทัวร์สุดเพอร์เฟกต์ของลิซ่า - VOGUE US
ลิซ่าขึ้นชื่อเรื่องลุคบนสเตจสุดปังและคาแรกเตอร์ แต่สำหรับทัวร์ครั้งนี้ สไตลิสต์ของเธอ Brett Alan Nelson และ Nan Nist ได้ทุ่มเทเป็นพิเศษ โดยคัดสรรไม่เพียงแค่ชุดแบรนด์ดีไซเนอร์ชื่อดังเท่านั้น แต่ยังมีชิ้นที่สั่งตัดขึ้นมาโดยเฉพาะอีกด้วย
ด้านล่างคือบทสัมภาษณ์พิเศษจาก Vogue กับสองสไตลิสต์คนสำคัญ ถึงเบื้องหลังการครีเอตลุคให้ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก Global superstar
Brett Alan Nelson: ฉันได้ทำงานกับลิซ่าที่ Coachella และโปรเจกต์อื่น ๆ อีกไม่กี่งาน หลังจากนั้นทีมของเธอก็ติดต่อให้ดูแลลุคสำหรับทัวร์ในยุโรปและอเมริกา ซึ่งฉันตื่นเต้นมาก เพราะเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลายแบรนด์อยู่แล้ว ฉันเลยติดต่อไปทั่วเพื่อเปิดโอกาสให้มีไอเดียและสเก็ตช์ที่หลากหลาย อยากให้ทุกลุคของเธอดู rockstar จริง ๆ และให้แต่ละแบรนด์ได้มีช่วงเวลา rockstar moment เป็นของตัวเอง
ที่ LA ฉันอยากให้เธอใส่ลุค Louis Vuitton ลายโมโนแกรมเต็มตัว ส่วนที่ชิคาโก เราทำลุคคริสตัลจาก Giuseppe di Morabito ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นชุดที่เธอจะใส่ที่ Coachella มาก่อน
ฉันชอบ IB Kamara และทีม Off-White มาก พวกเขาทำชุดคัสตอมที่ดูแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขามักทำ และต่างจากลุคที่ลิซ่ามักใส่ แต่ถ้าดูดี ๆ ที่รายละเอียดของแจ็กเก็ตจะเห็นโลโก้ Off-White และดีเทลเล็ก ๆ ที่ดูเท่มาก
ลิซ่าเป็นแฟน Ferrari ตัวยง และเธออยากให้ติดต่อไปขอให้พวกเขาทำอะไรสักอย่างให้ ไอเดียคือเปลี่ยนเธอให้เป็น 'Ferrari ตัวจิ๋วสีแดงแรงฤทธิ์' และพวกเขาก็ทำเข็มขัดคัสตอมจากไวนิลมันวาวพร้อมโลโก้ให้เธอโดยเฉพาะ
Brett Alan Nelson: นั่นแหละ หนึ่งในกระแสที่คนคลั่งสุด ๆ และ #Lisa ก็คือ Queen of Labubu ตัวจริง เธอเป็นหนึ่งในคนแรก ๆ ที่โพสต์เกี่ยวกับมันจนแฟน ๆ ทั่วโลกหลงรัก ตอนเราลองชุดกันรอบแรก ฉันแซวเล่นว่าประมาณว่า 'ทำชุด Labubu ให้ใส่คืนสุดท้ายดีไหม?' แล้วตาเธอเป็นประกายทันที วันนั้นฉันก็เลยเริ่มร่างสเก็ตช์และออกแบบหลายเวอร์ชั่นของ Lisa as Labubu
ฉันร่วมงานกับร้านชื่อ Muto Little ที่ LA ซึ่งเชี่ยวชาญการทำชุดให้หนังและซีรี่ส์ตั้งแต่ยุค 80s เป็นทีมผู้หญิงที่เหมือนพ่อแม่มดด้านคอสตูม พวกเธอช่วยสร้างชุดส่วนบนและกระโปรงออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ส่วนตุ๊กตา Labubu ที่เข้าชุดกันนั้น Marco Monroe เป็นคนทำ (เขาเคยทำให้ Lady Gaga ด้วย) ฉันให้เขาใช้ผ้าสีชมพูชนิดเดียวกับชุดของลิซ่าเพื่อให้ดูเข้าชุดกัน และยังให้ Chris Ban สแกนใบหน้า Labubu แบบ 3D เพื่อทำแว่นกันแดดคัสตอมพอดีกับใบหน้าของลิซ่าอีกด้วย มันสุดยอดมากจริง ๆ
Nan Nist: ตอนนี้ฉันกำลังทำลุคเวทีของลิซ่าที่ได้แรงบันดาลใจจากอัลบั้ม Alter Ego ของเธอ แต่ละชุดสะท้อนด้านต่าง ๆ ของตัวตนเธอ ฉันทดลองใช้วัสดุใหม่ ๆ และร่วมงานกับดีไซเนอร์ที่มีความคิดสร้างสรรค์หลายคน ลิซ่าเองก็มีส่วนร่วมมาก เธอชอบเสนอไอเดียและเพิ่มรายละเอียดที่เป็นตัวเอง ทำให้กระบวนการออกแบบมีชีวิตชีวามากขึ้น
Vogue: แล้วมีลุคไหนที่ชอบเป็นพิเศษจากทัวร์รอบนี้ไหม?
Nan Nist: จริง ๆ ฉันชอบทุกลุคเลย เพราะแต่ละชุดมีเรื่องราวของมันเอง ฉันตั้งใจทำงานใกล้ชิดกับดีไซเนอร์ทุกคน เพื่อให้แต่ละลุคมีความหมาย ไม่ใช่แค่สำหรับลิซ่า แต่สำหรับแฟน ๆ ที่รอดูเธอในแต่ละเมืองด้วย
โดยเฉพาะโชว์ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีความหมายมากสำหรับลิซ่าเพราะเป็นบ้านเกิด ฉันเลยอยากสร้างบางอย่างที่น่าจดจำจริง ๆ ดีไซน์ในแต่ละวันของทั้งสามโชว์จะเชื่อมโยงกัน เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องและพัฒนาไปเรื่อย ๆ จากวันแรกจนวันสุดท้าย
Vogue: แล้วในคืนแรกที่ไต้หวัน ลิซ่าอยากได้ลุคแบบไหน?
Nan Nist: เราอยากเปิดทัวร์เอเชียด้วยอะไรที่สนุก สดใส และเต็มไปด้วยพลัง ได้แรงบันดาลใจจากคาแรกเตอร์ speedy ของลิซ่าเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ขี้เล่นและกระฉับกระเฉงสำหรับทัวร์ทั้งหมด คืนนั้นเราใช้ลุคสั่งทำพิเศษจากแบรนด์ Fanci Club ที่ดีไซน์ออกมาในโทนสปอร์ต มีลูกเล่นสีสดและตกแต่งด้วยคริสตัลระยิบระยับให้เหมาะกับเวที จบลุคด้วยบูทจาก Empty Behavior ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรองเท้าชกมวย ผสมเทคโนโลยีการสวมใส่จากกีฬาฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ต ทั้งเท่และฟังก์ชั่นครบในเวลาเดียวกัน