📉 Google ร่วง -3% หลัง OpenAI ส่งสัญญาณเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ — ตลาดคาด “AI Browser” ที่อาจเปลี่ยนโลกอินเทอร์เน็ต
แรงกดดันถาโถมทันทีหลัง Sam Altman (CEO ของ OpenAI) โพสต์บน X ว่า
“พรุ่งนี้เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผมตื่นเต้นมาก!”
แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่หลายสำนักข่าวเทคโนโลยี รวมถึงนักวิเคราะห์ใน Wall Street ต่างคาดว่า
OpenAI อาจเตรียมเปิดตัว “เว็บเบราว์เซอร์ใหม่” ที่ฝังระบบ AI เต็มรูปแบบ — ซึ่งอาจเชื่อมต่อ ChatGPT, GPT Store และระบบช่วยค้นหาในตัว
กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Google Chrome ที่ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% ของโลก
..
💰 โครงสร้างรายได้ของ Google: เสาหลักที่ยังยืน แต่เริ่มสั่น
Alphabet (GOOG) บริษัทแม่ของ Google มีรายได้รวม กว่า $90.1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด (+12% YoY)
โดยกว่า 70% มาจาก “ธุรกิจโฆษณา” ที่ฝังอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ทั่วโลก
🔍 เสาหลักของรายได้
1️⃣ Search Ads ($50.7B, +10% YoY)
คือหัวใจหลักของ Google — ทุกครั้งที่เราค้นหาอะไรผ่าน Google Search
ธุรกิจจะจ่ายเพื่อขึ้นอันดับสูงในผลลัพธ์การค้นหา
เป็นโมเดล “เงินสดชั้นดี” ที่สร้างกำไรได้ทันที
2️⃣ YouTube Ads ($8.9B, +10% YoY)
รายได้จากโฆษณาบนวิดีโอ ทั้งแบบ pre-roll และในเนื้อหา
กลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตสูงสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
3️⃣ Google Network ($7.3B, -1% YoY)
รายได้จากเว็บไซต์พันธมิตรที่ใช้ระบบโฆษณาของ Google
เริ่มชะลอตัวเพราะการแข่งขันจากแพลตฟอร์มโฆษณาใหม่ เช่น TikTok Ads และ Amazon DSP
4️⃣ Google Cloud ($12.3B, +28% YoY)
เสาหลักใหม่ที่โตแรงที่สุดในเครือ
ลูกค้าหลักคือองค์กรและ AI startups ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Google
5️⃣ Subscriptions & Other Bets ($10.9B, +20% YoY)
รวมรายได้จาก YouTube Premium, Google One, Stadia (ยกเลิกแล้ว) และโครงการทดลอง (Moonshot projects)
..
🧮 แล้วทำไมตลาดถึง “เริ่มกังวล”?
แม้ตัวเลขดูแข็งแรง แต่มีกลไกสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้น Alphabet ร่วงทันที -3% หลังข่าว “OpenAI เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่”
⚠️ 1. Search คือจุดเสี่ยงที่สุดของอาณาจักร Google
กว่า ครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด ($50B+) มาจาก Search Ads
ถ้าผู้ใช้ “ไม่เข้า Google เพื่อค้นหา” แต่ใช้ “AI เพื่อถามและได้คำตอบเลย”
เงินทั้งหมดที่เคยหมุนผ่านโฆษณา Search จะหายไปทันที
OpenAI หากเปิดตัว “AI Browser” ที่รวม ChatGPT + Search + Shopping ได้ในหน้าเดียว
จะกลายเป็น “ประตูใหม่ของอินเทอร์เน็ต” ที่ดึงผู้ใช้ออกจากระบบโฆษณาของ Google โดยตรง
..
⚙️ 2. Cloud และ AI ของ Google ยังไม่ทันสร้างความต่าง
แม้ Google Cloud โตแรง (+28%)
แต่ยังมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า AWS และ Azure มาก
ขณะเดียวกัน ฝั่ง AI เช่น Gemini และ Vertex AI ก็ยังไม่สร้าง “เม็ดเงินจริง” เท่าที่ตลาดคาด
ในขณะที่ OpenAI มี ChatGPT ที่ monetize ได้แล้วทั้งจาก API, subscription, และ partnership กับ Microsoft
..
🧩 3. Valuation เริ่มสะท้อนความสมบูรณ์แบบ
Alphabet มี Market Cap กว่า $ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์
Forward P/E อยู่ที่ราว 24 เท่า — ไม่แพงมาก แต่ก็ไม่ถูกอีกต่อไป
ตลาดเริ่มมองว่า “Growth อาจชะลอ” ในปี 2026 ถ้า Search ถูก disrupt จริง
..
💡 PRB Insight
Google ยังเป็น “เครื่องจักรทำเงินที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก”
แต่ทุกเครื่องจักรมีจุดอ่อน — และของ Google คือ “การพึ่งพา Search Ads เกินไป”
โลกกำลังเปลี่ยนจากยุค “คนค้นหา” → “AI หาคำตอบให้”
และใครที่ครองจุดเริ่มต้นของการถามคำถามนั้น
จะกลายเป็นผู้ถือกุญแจแห่งอนาคตของข้อมูลทั้งหมด
นักลงทุนควรจับตา:
• การปรับโครงสร้าง Search ด้วย AI (Gemini + Search Generative Experience)
• ทิศทางการลงทุนใน Cloud และ Ads Automation
• และการตอบโต้ของ Google ต่อผลิตภัณฑ์ใหม่ของ OpenAI
💬 ภาพสะท้อนในตลาดหุ้น
ราคาหุ้น Alphabet (GOOG) ปรับลงทันที -3% หลังข่าวนี้แพร่สะพัด
ขณะที่นักลงทุนเริ่มหันกลับไปมอง OpenAI และ Microsoft ว่าอาจกลายเป็นผู้เล่นหลักใน “ยุคหลังการค้นหา (Post-Search Era)”
บางรายยังมองว่า หาก OpenAI ผสาน GPT กับเบราว์เซอร์และ Search Interface ได้สำเร็จ
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ “เว็บเบราว์เซอร์เข้าใจบริบทของผู้ใช้” — ไม่ใช่แค่เปิดเว็บ แต่ช่วยคิด วิเคราะห์ และสรุปให้เสร็จ
..
💡 PRB Insight
นี่ไม่ใช่แค่การชนกันของเบราว์เซอร์
แต่มันคือ “สงครามแย่งจุดเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต”
ฝั่ง Google มีอำนาจด้านระบบนิเวศและข้อมูลมหาศาล
ฝั่ง OpenAI มีพลังของ “AI ที่เข้าใจมนุษย์” และฐานผู้ใช้ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
โลกออนไลน์อาจกำลังเปลี่ยนจาก “Search to Think”
และใครควบคุมจุดเริ่มต้นของความคิดนั้น — จะควบคุมอนาคตของอินเทอร์เน็ตทั้งใบ
Google ร่วง -3% หลัง OpenAI ส่งสัญญาณเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ — ตลาดคาด “AI Browser” ที่อาจเปลี่ยนโลกอินเทอร์เน็ต
แรงกดดันถาโถมทันทีหลัง Sam Altman (CEO ของ OpenAI) โพสต์บน X ว่า
“พรุ่งนี้เราจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผมตื่นเต้นมาก!”
แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด แต่หลายสำนักข่าวเทคโนโลยี รวมถึงนักวิเคราะห์ใน Wall Street ต่างคาดว่า
OpenAI อาจเตรียมเปิดตัว “เว็บเบราว์เซอร์ใหม่” ที่ฝังระบบ AI เต็มรูปแบบ — ซึ่งอาจเชื่อมต่อ ChatGPT, GPT Store และระบบช่วยค้นหาในตัว
กลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Google Chrome ที่ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% ของโลก
..
💰 โครงสร้างรายได้ของ Google: เสาหลักที่ยังยืน แต่เริ่มสั่น
Alphabet (GOOG) บริษัทแม่ของ Google มีรายได้รวม กว่า $90.1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด (+12% YoY)
โดยกว่า 70% มาจาก “ธุรกิจโฆษณา” ที่ฝังอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ทั่วโลก
🔍 เสาหลักของรายได้
1️⃣ Search Ads ($50.7B, +10% YoY)
คือหัวใจหลักของ Google — ทุกครั้งที่เราค้นหาอะไรผ่าน Google Search
ธุรกิจจะจ่ายเพื่อขึ้นอันดับสูงในผลลัพธ์การค้นหา
เป็นโมเดล “เงินสดชั้นดี” ที่สร้างกำไรได้ทันที
2️⃣ YouTube Ads ($8.9B, +10% YoY)
รายได้จากโฆษณาบนวิดีโอ ทั้งแบบ pre-roll และในเนื้อหา
กลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตสูงสุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
3️⃣ Google Network ($7.3B, -1% YoY)
รายได้จากเว็บไซต์พันธมิตรที่ใช้ระบบโฆษณาของ Google
เริ่มชะลอตัวเพราะการแข่งขันจากแพลตฟอร์มโฆษณาใหม่ เช่น TikTok Ads และ Amazon DSP
4️⃣ Google Cloud ($12.3B, +28% YoY)
เสาหลักใหม่ที่โตแรงที่สุดในเครือ
ลูกค้าหลักคือองค์กรและ AI startups ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Google
5️⃣ Subscriptions & Other Bets ($10.9B, +20% YoY)
รวมรายได้จาก YouTube Premium, Google One, Stadia (ยกเลิกแล้ว) และโครงการทดลอง (Moonshot projects)
..
🧮 แล้วทำไมตลาดถึง “เริ่มกังวล”?
แม้ตัวเลขดูแข็งแรง แต่มีกลไกสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้น Alphabet ร่วงทันที -3% หลังข่าว “OpenAI เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่”
⚠️ 1. Search คือจุดเสี่ยงที่สุดของอาณาจักร Google
กว่า ครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด ($50B+) มาจาก Search Ads
ถ้าผู้ใช้ “ไม่เข้า Google เพื่อค้นหา” แต่ใช้ “AI เพื่อถามและได้คำตอบเลย”
เงินทั้งหมดที่เคยหมุนผ่านโฆษณา Search จะหายไปทันที
OpenAI หากเปิดตัว “AI Browser” ที่รวม ChatGPT + Search + Shopping ได้ในหน้าเดียว
จะกลายเป็น “ประตูใหม่ของอินเทอร์เน็ต” ที่ดึงผู้ใช้ออกจากระบบโฆษณาของ Google โดยตรง
..
⚙️ 2. Cloud และ AI ของ Google ยังไม่ทันสร้างความต่าง
แม้ Google Cloud โตแรง (+28%)
แต่ยังมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า AWS และ Azure มาก
ขณะเดียวกัน ฝั่ง AI เช่น Gemini และ Vertex AI ก็ยังไม่สร้าง “เม็ดเงินจริง” เท่าที่ตลาดคาด
ในขณะที่ OpenAI มี ChatGPT ที่ monetize ได้แล้วทั้งจาก API, subscription, และ partnership กับ Microsoft
..
🧩 3. Valuation เริ่มสะท้อนความสมบูรณ์แบบ
Alphabet มี Market Cap กว่า $ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์
Forward P/E อยู่ที่ราว 24 เท่า — ไม่แพงมาก แต่ก็ไม่ถูกอีกต่อไป
ตลาดเริ่มมองว่า “Growth อาจชะลอ” ในปี 2026 ถ้า Search ถูก disrupt จริง
..
💡 PRB Insight
Google ยังเป็น “เครื่องจักรทำเงินที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก”
แต่ทุกเครื่องจักรมีจุดอ่อน — และของ Google คือ “การพึ่งพา Search Ads เกินไป”
โลกกำลังเปลี่ยนจากยุค “คนค้นหา” → “AI หาคำตอบให้”
และใครที่ครองจุดเริ่มต้นของการถามคำถามนั้น
จะกลายเป็นผู้ถือกุญแจแห่งอนาคตของข้อมูลทั้งหมด
นักลงทุนควรจับตา:
• การปรับโครงสร้าง Search ด้วย AI (Gemini + Search Generative Experience)
• ทิศทางการลงทุนใน Cloud และ Ads Automation
• และการตอบโต้ของ Google ต่อผลิตภัณฑ์ใหม่ของ OpenAI
💬 ภาพสะท้อนในตลาดหุ้น
ราคาหุ้น Alphabet (GOOG) ปรับลงทันที -3% หลังข่าวนี้แพร่สะพัด
ขณะที่นักลงทุนเริ่มหันกลับไปมอง OpenAI และ Microsoft ว่าอาจกลายเป็นผู้เล่นหลักใน “ยุคหลังการค้นหา (Post-Search Era)”
บางรายยังมองว่า หาก OpenAI ผสาน GPT กับเบราว์เซอร์และ Search Interface ได้สำเร็จ
เรากำลังเข้าสู่ยุคที่ “เว็บเบราว์เซอร์เข้าใจบริบทของผู้ใช้” — ไม่ใช่แค่เปิดเว็บ แต่ช่วยคิด วิเคราะห์ และสรุปให้เสร็จ
..
💡 PRB Insight
นี่ไม่ใช่แค่การชนกันของเบราว์เซอร์
แต่มันคือ “สงครามแย่งจุดเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต”
ฝั่ง Google มีอำนาจด้านระบบนิเวศและข้อมูลมหาศาล
ฝั่ง OpenAI มีพลังของ “AI ที่เข้าใจมนุษย์” และฐานผู้ใช้ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
โลกออนไลน์อาจกำลังเปลี่ยนจาก “Search to Think”
และใครควบคุมจุดเริ่มต้นของความคิดนั้น — จะควบคุมอนาคตของอินเทอร์เน็ตทั้งใบ