ความตั้งใจแน่วแน่ กับความยึดติด ต่างกันอย่างไร?
ต่างกันตรงที่
ยึดติดมันเป็นเรื่องของอุปาทานซึ่งเป็นอกุศล
ยึดถือยึดมั่น ผูกพัน ยึดในความเป็นของเราเป็นตัวเรา เป็นของเที่ยง
📌สิ่งใดไม่เที่ยงก็ยึดว่ามันเที่ยง
📌สิ่งใดที่เป็นทุกข์ก็ยึดว่าเป็นสุข
📌สิ่งใดที่ไม่ใช่ตัวตนก็ยึดว่าเป็นอัตตาตัวตน
สิ่งใดไม่สวยงามก็ยึดถือว่าเป็นของสวยงาม
เรียกว่ายึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตน
ยึดมั่นในความเห็นผิด
ยึดมั่นในข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด
อันนั้นคือความยึดมั่นถือมั่น ที่เรียกว่าอุปาทาน
ส่วน ความตั้งใจมันเป็นเรื่องของเจตนา ตั้งอกตั้งใจ
เจตนานี่มันก็มีได้ทั้งตั้งใจดีและไม่ดี
ถ้าตั้งใจจะไปฆ่าเขา จะไปด่าเขา จะไปทำลาย
อันนี้มันก็ความตั้งใจที่เป็นอกุศล
เรียกว่าเจตนา
เจตนามันเป็นตัวกรรม
ถ้าทำอะไรด้วยความจงใจคือเจตนา
แต่ถ้าเราเดินไปเหยียบมดตาย เราไม่ได้มีความตั้งใจ อย่างนี้ศีลก็ยังไม่ขาด
แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจะทำร้ายเขา อย่างนี้ศีลก็ขาด
ความตั้งใจเป็นเรื่องของตัวกรรม ตัวเจตนา
ตั้งใจทำความดี
ตั้งใจเว้นจากบาป
ตั้งใจที่จะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตั้งอกตั้งใจ
เรารู้ว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องดีการให้ทาน การรักษาศีล เจริญภาวนา ฟังธรรม
ตั้งอกตั้งใจในการทำ
อย่างนี้มันก็เป็นเรื่องดี
ไม่ใช่เรื่องของการยึดมั่นถือมั่น
อย่างถือศีล ๕ ก็ต้องตั้งใจรักษาให้มั่น
ไม่ใช่เป็นเรื่องของการยึดมั่นถือมั่น
แต่ว่าต้องมั่นคง ตั้งมั่นในการที่เราจะต้องเว้นให้ได้
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ฉันฟังมาต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น
อะไรก็ไม่ยึดทั้งนั้น
ฉันจะกินเมื่อไรฉันก็กิน ไม่ยึดถือยึดมั่น
ฉันจะไม่นุ่งผ้าฉันก็ไม่นุ่งผ้า
ฉันจะทำอะไรก็ทำ ฉันไม่ยึดมั่นถือมั่น
อันนี้มันไม่ใช่
นั่นก็คือยึดมั่นในความเห็นแบบนั้นซึ่งมันไม่ใช่ทางดี
แต่อะไรที่เป็นความดีเราก็ต้องรักษา มั่นคงในสิ่งเหล่านั้น
มันคนละแง่กับความยึดมั่นแบบอุปาทาน
อุปาทานมันยึดถือเป็นตัวเป็นตน
แต่ยึดมั่นในข้อวัตรปฏิบัติที่ถูกต้อง มั่นคงตั้งมั่นในสิ่งที่ดีงาม นี่เป็นเรื่องดี
คนเราต้องมี
ถาม-ตอบปัญหาธรรมะ คอร์สอบรมกรรมฐานระยะสั้น ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
📝ปริยัติ : ความตั้งใจแน่วแน่ กับความยึดติดต่างกันอย่างไร
ต่างกันตรงที่
ยึดติดมันเป็นเรื่องของอุปาทานซึ่งเป็นอกุศล
ยึดถือยึดมั่น ผูกพัน ยึดในความเป็นของเราเป็นตัวเรา เป็นของเที่ยง
📌สิ่งใดไม่เที่ยงก็ยึดว่ามันเที่ยง
📌สิ่งใดที่เป็นทุกข์ก็ยึดว่าเป็นสุข
📌สิ่งใดที่ไม่ใช่ตัวตนก็ยึดว่าเป็นอัตตาตัวตน
สิ่งใดไม่สวยงามก็ยึดถือว่าเป็นของสวยงาม
เรียกว่ายึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตน
ยึดมั่นในความเห็นผิด
ยึดมั่นในข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด
อันนั้นคือความยึดมั่นถือมั่น ที่เรียกว่าอุปาทาน
ส่วน ความตั้งใจมันเป็นเรื่องของเจตนา ตั้งอกตั้งใจ
เจตนานี่มันก็มีได้ทั้งตั้งใจดีและไม่ดี
ถ้าตั้งใจจะไปฆ่าเขา จะไปด่าเขา จะไปทำลาย
อันนี้มันก็ความตั้งใจที่เป็นอกุศล
เรียกว่าเจตนา
เจตนามันเป็นตัวกรรม
ถ้าทำอะไรด้วยความจงใจคือเจตนา
แต่ถ้าเราเดินไปเหยียบมดตาย เราไม่ได้มีความตั้งใจ อย่างนี้ศีลก็ยังไม่ขาด
แต่ถ้าเรามีความตั้งใจจะทำร้ายเขา อย่างนี้ศีลก็ขาด
ความตั้งใจเป็นเรื่องของตัวกรรม ตัวเจตนา
ตั้งใจทำความดี
ตั้งใจเว้นจากบาป
ตั้งใจที่จะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตั้งอกตั้งใจ
เรารู้ว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องดีการให้ทาน การรักษาศีล เจริญภาวนา ฟังธรรม
ตั้งอกตั้งใจในการทำ
อย่างนี้มันก็เป็นเรื่องดี
ไม่ใช่เรื่องของการยึดมั่นถือมั่น
อย่างถือศีล ๕ ก็ต้องตั้งใจรักษาให้มั่น
ไม่ใช่เป็นเรื่องของการยึดมั่นถือมั่น
แต่ว่าต้องมั่นคง ตั้งมั่นในการที่เราจะต้องเว้นให้ได้
เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า ฉันฟังมาต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น
อะไรก็ไม่ยึดทั้งนั้น
ฉันจะกินเมื่อไรฉันก็กิน ไม่ยึดถือยึดมั่น
ฉันจะไม่นุ่งผ้าฉันก็ไม่นุ่งผ้า
ฉันจะทำอะไรก็ทำ ฉันไม่ยึดมั่นถือมั่น
อันนี้มันไม่ใช่
นั่นก็คือยึดมั่นในความเห็นแบบนั้นซึ่งมันไม่ใช่ทางดี
แต่อะไรที่เป็นความดีเราก็ต้องรักษา มั่นคงในสิ่งเหล่านั้น
มันคนละแง่กับความยึดมั่นแบบอุปาทาน
อุปาทานมันยึดถือเป็นตัวเป็นตน
แต่ยึดมั่นในข้อวัตรปฏิบัติที่ถูกต้อง มั่นคงตั้งมั่นในสิ่งที่ดีงาม นี่เป็นเรื่องดี
คนเราต้องมี
ถาม-ตอบปัญหาธรรมะ คอร์สอบรมกรรมฐานระยะสั้น ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา