พ่อวอนเจ้าหน้าที่ช่วยลุกสาววัย 19 ถูกแม่แท้ๆ หลอกขายให้แก๊งสแกมเมอร์ ไปกัมพูชา

ขายลูกกินเฉย  ถ้าน้องเป็นคนเกาหลีอาจมีโอกาสรอด  แต่น้องเป็นคนไทย... จะได้กลับบ้านมาแบบเป็นๆ หรือไม่คงแล้วแต่โชคชะตา...



ช่วงบ่ายของวันนี้ (21 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องเช่าไม่มีเลขที่ ลักษณะเป็นบ่อเลี้ยงปลา พื้นที่ ม.7 ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา พบกับนายโจ อายุ 47 ปี หนุ่มพนักงานขับรถบรรทุก หลังขอความช่วยเหลือให้ช่วยพา น.ส.ปลายฟ้า อายุ 19 ปี ลูกสาวให้ช่วยพากลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งคาดว่าถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอกไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา โดยเชื่อว่า น.ส.รุ่งฤดี อายุ 38 ปี แม่ของลูกสาว และเป็นอดีตภรรยา จะมีส่วนรู้เห็นในการหลอกพาลูกสาวไปทำงานที่ปอยเปต


นายโจ เปิดเผยว่า ตนเองได้เลิกลากับน.ส.รุ่งฤดี ตั้งแต่น.ส.ปลายฟ้า ยังเล็ก ๆ โดยลูกสาวอยู่กับปู่ย่าที่ ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยตนเองมาทำงานที่ฉะเชิงเทรา ส่งเสียเลี้ยงดูลูกสาวเพียงลำพัง เพราะอดีตภรรยาหนีไปมีครอบครัวใหม่ ตนเองส่งเสียเงินกลับไปทั้งค่ากิน ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของลูกสาว


กระทั่งเมื่อตนเดือนลูกสาวได้ทักมาบอกกับตนว่าอยากหางานทำ ตนเองก็ได้บอกลูกไปว่าเดี๋ยวช่วงปีใหม่จะกลับไปรับมาอยู่ด้วยที่ฉะเชิงเทรา และหางานให้ทำ กระทั่งเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่าน ลูกสาวได้ทักมาบอกตนว่า แม่ชวนไปทำงานแพ็กของที่จังหวัดสระแก้ว รายได้ดี เดือนละ 18,000 บาท ตนเองจึงได้โทรศัพท์พูดคุยกับอดีตภรรยา


โดยอดีตภรรยาบอกกับตนเองว่าไม่ต้องเป็นห่วง จะเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับลูก 2-3 วันในที่ทำงานใหม่เพื่อให้ลูกปรับตัวได้ จนวันที่ 14 ตุลาคม ลูกสาวเดินทางจากจังหวัดอุดรธานี ไปหา น.ส.รุ่งฤดี ที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา โดยเมื่อลูกสาวไปถึงอดีตภรรยา ได้พาลูกสาวไปเปิดบัญชีธนาคารต่าง ๆ ถึง 4 ธนาคาร ก่อนวันที่ 15 ตุลาคม อดีตภรรยาจะพาลูกสาวเดินทางมาที่กรุงเทพมหานคร โดยบอกว่าจะมีรถของนายจ้างมารับที่หมอชิต


ระหว่างที่ลูกสาวเดินทางมาหาอดีตภรรยานั้น ตนเองได้ติดต่อลูกสาวตลอด จึงทราบความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่อดีตภรรยาพาลูกสาวไปเปิดบัญชีธนาคาร เมื่อถึงพามาที่กรุงเทพ จึงได้มีการคุยทางไลน์และโทรศัพท์ติดต่อกันได้ตลอด กระทั่งช่วง 3 ทุ่มวันที่ 15 ตุลาคม ลูกสาวกำลังจะขึ้นรถของนายจ้างที่มารับ พร้อมส่งเบอร์โทรศัพท์เบอร์ใหม่มาให้ทางไลน์ และบอกว่านี่คือเบอร์ใหม่และกำลังขึ้นรถไปสระแก้ว หลังจากนั้นช่วงเช้ามืดตนเองได้ทักไปถามลูกว่าถึงไหนแล้ว แต่ไม่มีการตอบรับ ช่วงสายจึงพยายามโทรศัพท์หาลูกสาวแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้


กระทั่งช่วงค่ำ ๆ อดีตภรรยาได้โทรกลับมาหาตน บอกว่าลูกสาวได้โทรกลับมาหา และบอกว่าข้ามไปฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาแล้ว คาดว่าไปทำงานให้กับแก๊งค์สแกมเมอร์ที่อยู่ฝั่งนั้น ตนเองตกใจมากว่าทำไมอดีตภรรยาถึงปล่อยให้ลูกสาวไปได้ แต่ได้รับคำตอบจากอดีตภรรยาว่า ไม่ได้ขึ้นรถไปกับลูกสาวเพราะว่ารถเต็ม ทั้ง ๆ ที่รับปากไว้แล้วว่าจะไปดูแลลูกสาว 2-3 วันในช่วงที่ทำงานใหม่


นายโจ เปิดเผยต่อว่า รู้สึกสงสัยอดีตภรรยาว่ามีส่วนร่วมกับขบวนการนี้หรือไม่ ทำไมต้องพาลูกไปเปิดบัญชีถึง 4 บัญชี เพราะปกติการเปิดบัญชีรับเงินเดือนแค่ 1 บัญชีก็เพียงพอแล้ว อีกทั้งไม่ยอมขึ้นรถไปกับลูกสาวอ้างว่ารถเต็ม ทั้ง ๆ ที่รับปากไว้แล้วว่าจะไปอยู่ดูแลลูก 2-3 วัน และทำไมตนเองติดต่อลูกสาวไม่ได้หลังจากขึ้นรถนายจ้างไปแล้ว แต่อดีตภรรยากลับบอกว่าลูกสาวติดต่อกลับมาช่วงบ่าย แต่โทรศัพท์มาบอกตนในช่วงค่ำ


ซึ่งหลังเกิดเรื่องตนเองเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อต้องการช่วยลูกสาวกลับมา ซึ่งหลังจากไปแจ้งความแล้ว จนวันนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ อยากวิงวอนหน่วยงานราชการห หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือ พาลูกสาวตนเองกลับมา ตอนนี้เป็นห่วงลูกมาก ลูกสาวไม่เคยออกจากบ้านเพียงลำพัง ไม่รู้ชะตากรรมตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง

https://ch3plus.com/news/social/morning/450029?fbclid=IwY2xjawNkMVhleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFFRDZpUlU1OTI2WktVbG1YAR7S0Fnpdcj8QzaU94P5-SSlo0E50Md_rjGbM8PnVQfo6MOgtw81uaDdAGFU0Q_aem_stA1zF7LXOSghZCH7tcumA
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่