พระพุทธเจ้าตรัสว่า
อานาปานสติ การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก
ทำแล้ว ทำให้มากแล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
ยังสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ได้
สติปัฏฐาน ๔ ทำแล้ว ทำให้มาก
ยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์
โพชฌงค์ ๗ ทำแล้ว ทำให้มาก
ยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ เข้าถึงหลุดพ้นได้
ในคำสอนพระพุทธเจ้า
อานาปานสติ การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก
๑. ดูลมหายใจเข้าออก
๒. หายใจเข้ายาวออกยาว รู้ชัด
๓. หายใจเข้าสั้นออกสั้น รู้ชัด
๔. สำเหนียกรู้ ระงับกายสังขาร หายใจเข้า หายใจออก
ให้ตั้งสติดูลมหายใจเข้าลมหายใจออก
หายใจเข้าให้รู้ หายใจออกให้รู้
หายใจเข้ายาวออกยาวก็รู้ชัดอยู่
หายใจเข้าสั้นออกสั้นก็รู้ชัดอยู่
สำเหนียกรู้อยู่ตลอดกองลมหายใจเข้าออก
สำเนียกหรือศึกษาฝึกหัดการระงับของลมหายใจเข้าออก ระงับกายสังขาร
แต่มันไม่ใช่อยู่แค่ลมหายใจ
มันไม่ใช่ดูอยู่แค่ลมหายใจนี้ถึงจะรู้แจ้ง หลุดพ้น
อันนี้มันเป็นเพียงเบื้องต้นพื้นฐาน
ดูลมหายใจเพื่อให้จิตใจเราตั้งมั่นเป็นสมาธิ
จากนั้นเราก็จะต้องเชื่อมโยงระลึกรู้เข้ามาสู่แกนใน
ทำไปลมมันเบา ๆ จนระงับ ก็ดูการระงับ
เดี๋ยวก็เห็นลมเข้าลมออก
ทำอย่างนี้ให้มากมันก็จะเกิดสมาธิ
มีสมาธิสงบระงับก็ดูการระงับ
ถ้าเราทำจนขั้นมีสมาธิจากนั้นมันจะเกิดปีติเกิดความสุข
ปีติคืออะไร?
เจตสิก ความสุข
มันเป็นเจตสิกประกอบอยู่กับจิต
จึงเรียกว่าจิตตสังขาร ปรุงแต่งจิต
เชื่อมจากการดูลมหายใจเข้าไปดูปีติ
ไปดูความสุข ไปดูจิต
อย่างนี้มันเข้ามาสู่แกนใน
มันเข้ามาสู่สภาวะแล้ว
จิตเป็นธาตุรู้
จิตบันเทิง จิตตั้งมั่น เปลื้องจิต ปล่อยวาง
เข้าไปถึงพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง
เห็นความคลายออก #เห็นความดับไป #เห็นความสละคืน
มันจะเข้าไปเห็น
พอเข้าไปดูจิต #จะเห็นความไม่เที่ยง
เห็นความเกิดดับ #เห็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตน
ธรรมบรรยาย ผลกรรมในสังสารวัฏ (ตอน ๔)
คอร์สกรรมฐานชมรมกัลยาณธรรม ๑๔ กันยายน ๒๕๖๘
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
📝🧘ปริยัติ+ปฏิบัติ 📌สัมมาสมาธิ สัมมาสติ
อานาปานสติ การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก
ทำแล้ว ทำให้มากแล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
ยังสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ได้
สติปัฏฐาน ๔ ทำแล้ว ทำให้มาก
ยังโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์
โพชฌงค์ ๗ ทำแล้ว ทำให้มาก
ยังวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ เข้าถึงหลุดพ้นได้
ในคำสอนพระพุทธเจ้า
อานาปานสติ การกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก
๑. ดูลมหายใจเข้าออก
๒. หายใจเข้ายาวออกยาว รู้ชัด
๓. หายใจเข้าสั้นออกสั้น รู้ชัด
๔. สำเหนียกรู้ ระงับกายสังขาร หายใจเข้า หายใจออก
ให้ตั้งสติดูลมหายใจเข้าลมหายใจออก
หายใจเข้าให้รู้ หายใจออกให้รู้
หายใจเข้ายาวออกยาวก็รู้ชัดอยู่
หายใจเข้าสั้นออกสั้นก็รู้ชัดอยู่
สำเหนียกรู้อยู่ตลอดกองลมหายใจเข้าออก
สำเนียกหรือศึกษาฝึกหัดการระงับของลมหายใจเข้าออก ระงับกายสังขาร
แต่มันไม่ใช่อยู่แค่ลมหายใจ
มันไม่ใช่ดูอยู่แค่ลมหายใจนี้ถึงจะรู้แจ้ง หลุดพ้น
อันนี้มันเป็นเพียงเบื้องต้นพื้นฐาน
ดูลมหายใจเพื่อให้จิตใจเราตั้งมั่นเป็นสมาธิ
จากนั้นเราก็จะต้องเชื่อมโยงระลึกรู้เข้ามาสู่แกนใน
ทำไปลมมันเบา ๆ จนระงับ ก็ดูการระงับ
เดี๋ยวก็เห็นลมเข้าลมออก
ทำอย่างนี้ให้มากมันก็จะเกิดสมาธิ
มีสมาธิสงบระงับก็ดูการระงับ
ถ้าเราทำจนขั้นมีสมาธิจากนั้นมันจะเกิดปีติเกิดความสุข
ปีติคืออะไร?
เจตสิก ความสุข
มันเป็นเจตสิกประกอบอยู่กับจิต
จึงเรียกว่าจิตตสังขาร ปรุงแต่งจิต
เชื่อมจากการดูลมหายใจเข้าไปดูปีติ
ไปดูความสุข ไปดูจิต
อย่างนี้มันเข้ามาสู่แกนใน
มันเข้ามาสู่สภาวะแล้ว
จิตเป็นธาตุรู้
จิตบันเทิง จิตตั้งมั่น เปลื้องจิต ปล่อยวาง
เข้าไปถึงพิจารณาเห็นความไม่เที่ยง
เห็นความคลายออก #เห็นความดับไป #เห็นความสละคืน
มันจะเข้าไปเห็น
พอเข้าไปดูจิต #จะเห็นความไม่เที่ยง
เห็นความเกิดดับ #เห็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตน
ธรรมบรรยาย ผลกรรมในสังสารวัฏ (ตอน ๔)
คอร์สกรรมฐานชมรมกัลยาณธรรม ๑๔ กันยายน ๒๕๖๘
.............................
ธัมโมวาท โดยหลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี
เจ้าอาวาสวัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา