JJNY : เริ่มถก GBC แล้ว│ฮุนเซนตำหนิอินฟลูฯเขมร│แบงก์เกาหลีใต้ในกัมพูชาอายัดเงิน│เตือนใต้ฝนหนัก เหนือ-อีสานอุณหภูมิลด

ฝ่ายเลขาฯ เริ่มถก GBC แล้ว “ไทย” ย้ำ 4 ประเด็น จับตาท่าที “เขมร”
.
.
พล.อ.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) ซึ่งฝ่ายไทย ได้ร่วมการประชุมกับฝ่ายเลขานุการฯ ฝ่ายกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยฝ่ายไทยได้เสนอกรอบการประชุม GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/68 (2nd Special Session of the General Border Committee Meeting) จำนวน 4 ประเด็น ดังนี้
.
1. ประเด็นการถอนอาวุธหนัก
.
2. ประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
.
3. ประเด็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cyber Scam)
.
4. การบริหารจัดการพื้นที่ ชายแดน (รอผลการเจรจา JBC )
.
ซึ่งทั้ง 4 ประเด็นนี้ เป็นการขับเคลื่อน การปฏิบัติตามข้อตกลง ที่ทั้งสองฝ่ายได้ให้ความเห็นชอบ ในการประชุม GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 ณ จังหวัดเกาะกง กัมพูชา เมื่อวันที่ 10 ก.ย.68 ไว้แล้ว
.
โดยฝ่ายกัมพูชาได้เห็นชอบกับกรอบการประชุมดังกล่าว และในวันพรุ่งนี้ (21 ต.ค. 68) เวลา 08.00 น. จะได้ แบ่งกลุ่มย่อย เป็น 2 กลุ่ม โดย กลุ่มแรก หารือ ประเด็น เรื่องการถอนอาวุธ และ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด กลุ่มที่ 2 หารือ ประเด็น การปราบปราม Cyber Scam
.
การประชุมฝ่ายเลขาฯ จัดขึ้นระหว่าง 20-22 ต.ค.68 เพื่อจัดเตรียมข้อมูลสำหรับการประชุม GBC ในวันที่ 23 ต.ค. 68 ณ Malaysian Armed Forces Officers Mess กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยมี รมว.กลาโหม และรมว.กลาโหม กัมพูชา เป็นประธานร่วม
.

.
ฮุนเซน โพสต์ตำหนิอินฟลูฯเขมร โชว์เผาสินค้าไทย
.
ฮุนเซนโพสต์ตำหนิอินฟลูฯเขมร โชว์เผาสินค้าไทย ทำเกินเลยกว่ารักชาติ ถ้ามีเงินมากพอก็ขอให้ซื้อสินค้าที่เหลือมาเป็นอาหารสัตว์ดีกว่าเผาทิ้งไปเปล่า ๆ
.
วันนี้ (21 ต.ค.68)  สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวหลังกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์เขมร Ko1 โชว์พฤติกรรมต่อว่าแม่ค้าพ่อค้าที่ยังขายสินค้าไทย รวมถึงเผาสินค้าไทยโชว์ โดยระบุว่า ผิดหวังกับการกระทําของ นาย K01 เกี่ยวกับการเผาสินค้าไทย หลังได้ดูคลิปวิดีโอ กว่า 8 นาที นําทีมโดย KO1 เกี่ยวกับการคว่ำบาตรการใช้สินค้าไทย แล้วรู้สึกผิดหวังกับการแสดงของพี่น้องคู่นี้ Mr KO1 เผาสินค้าไทย สาปแช่งแม่ค้าไทยที่ยังไม่ขาย เป็นการกระทำที่เกินเลยกว่าความรักชาติ
.
สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุด้วยว่า ในตอนนี้ชาวกัมพูชาจำนวนมากอเกือบ 99% ได้ร่วมบอยคอตสินค้าไทยอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประชาชนในประเทศหรือพี่น้องชาวกัมพูชาที่อยู่ต่างประเทศ คำถามคือ แล้วพ่อค้าแม่ค้าที่มีสินค้าไทยค้างอยู่ จะให้เขาเอาไปไหน จะให้เขาเผาทิ้งหมดเลย หรือให้เขาขายต่อเพื่อให้ได้เงินทุนกลับคืนมาบ้าง
.
ถ้า Ko1 มีเงินมากพอ ก็ขอให้ไปซื้อสินค้าที่เหลือเหล่านั้นทั้งหมดมาทำเป็นอาหารสัตว์ ดีกว่าเผาทิ้งเหมือนที่ Ko1 ทำในวิดีโอ เพราะถ้าคนไม่กิน อย่างน้อยก็ให้สัตว์ได้กินยังดีกว่าเผาทำลายทิ้งเปล่า ๆ ผมขอเรียกร้องให้ Ko1 หยุดการกระทำที่บ้าบิ่นเช่นนี้ และขอให้มาช่วยกันส่งเสริมคุณธรรม ศีลธรรม และเกียรติภูมิของชาติแทน” สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุ
.
สมเด็จฯ ฮุน เซน ยังได้เขียนข้อความในคอมเมนต์เพิ่มเติม ว่า หลังจากได้อ่านความคิดเห็นของหลายคน ผมเห็นด้วยกับการขายสินค้าเก่าที่มีอยู่ให้หมดไปก่อน แต่ ไม่ควรนำเข้าสินค้าใหม่เพิ่มอีก อย่าให้มีคนกล่าวหาว่าสินค้าเก่าขายไม่หมด ทั้งที่จริงแล้วเป็นสินค้านำเข้าใหม่มาหลอกผู้บริโภค ในส่วนของผู้ซื้อเอง ก็ควรตรวจสอบด้วยว่าสินค้าที่ซื้อเป็นของเก่าหรือของใหม่นำเข้าใหม่ เพราะสินค้าทุกอย่างมีวันหมดอายุของมัน เราควรพยายามผลิตสินค้าในประเทศ และช่วยกันซื้อสินค้าในประเทศ เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชา ร่วมรณรงค์ผลักดันการบริโภคสินค้าภายในประเทศ
.

.
แบงก์เกาหลีใต้ในกัมพูชาอายัดเงิน 2,000 ล้านบาท ของ “ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป”.
https://www.dailynews.co.th/news/5222748/
.
ธนาคารของเกาหลีใต้ในกัมพูชาดำเนินการ อายัดเงินฝากราว 2,000 ล้านบาท ของปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป บริษัทข้ามชาติซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตร
.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ว่านายคัง มิน-กุก สมาชิกสภาแห่งชาติจากพรรคประชาชน ( พีพี ) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ กล่าวว่า ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป บริษัทข้ามชาติซึ่งมีฐานอยู่ในกัมพูชา ซึ่งถูกสหรัฐและสหราชอาณาจักรคว่ำบาตร ฐานเป็นเครือข่ายแกมเมอร์ระดับโลก ทำธุรกรรม 52 ครั้ง ที่สาขา 5 แห่งของธนาคารเกาหลีใต้ในกัมพูชา รวมเป็นมูลค่ามากกว่า 197,000 ล้านวอน ( ราว 4,514.64 ล้านบาท )
.
จากจำนวนดังกล่าว ราว 91,000 ล้านวอน ( ราว 2,085.44 ล้านบาท ) ยังคงอยู่ในบัญชีเงินฝากของธนาคาร 5 แห่ง โดยอยู่ที่ เคบี แบงก์ มากที่สุด 56,000 ล้านวอน ( ราว 1,283.35 ล้านบาท )
.
อย่างไรก็ดี สมาคมธนาคารเกาหลี ยืนยันว่า เคบี แบงก์ และธนาคารอีก 4 แห่งซึ่งมีสาขาอยู่ในกัมพูชา ร่วมกันอายัดเงินฝากทั้งหมดของปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา หรือราว 1 วัน หลังสหรัฐและสหราชอาณาจักรประกาศขึ้นบัญชีดำปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป
.
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า หน่วยข่าวกรองทางการเงินเกาหลีใต้ (เอฟไอยู) ภายใต้คณะกรรมาธิการบริการการเงิน กำลังพิจารณาและเตรียมกำหนดให้บุคคลและธุรกิจ ซึ่งต้องสงสัยพัวพันกับขบวนการอาชญากรรมในกัมพูชา เป็น “นิติบุคคลที่มีข้อจำกัด” ซึ่งจะส่งผลให้มีการอายัดทรัพย์สินและบล็อกธุรกรรมทางการเงิน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล โดยคาดว่าจะมีการประกาศการตัดสินใจอย่างเป็นทางการภายในสิ้นเดือน ต.ค. นี้.
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่