🐋"จมูกวาฬ"
วิธีการหายใจของวาฬแตกต่างจากปลาอื่นๆ โดยพวกนั้นได้ออกซิเจนที่ต้องการด้วยการดูดน้ำเข้าปาก จากนั้นก็หุบปาก แล้วเปิดเหงือกเพื่อบังคับให้น้ำผ่านออกมา เมื่อน้ำที่มีอากาศละลายอยู่ผ่านเหงือก เส้นเลือดฝอยที่มีอยู่มากมายบริเวณเหงือกจะดูดออกซิเจนเอาไว้ พร้อมกับคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ส่วนวาฬต้องโผล่ขึ้นมาสูดลมหายใจใหม่ทุกๆ 20 นาที
จมูกของวาฬอยู่ส่วนบนของหัว ธรรมชาติอำนวยความสะดวกให้ในการสูดอากาศเมื่อโผล่ขึ้นบนผิวน้ำ แต่เมื่อกลับลงน้ำจะมีกล้ามเนื้อปิดรูจมูกของมันไว้แน่นเพื่อกันน้ำเข้า จมูกของวาฬติดต่อกับปอดโดยตรง ขณะที่ปากตัดขาดไม่มีทางติดต่อเลยทั้งกับจมูกและปอด น้ำจึงไม่เข้าสู่ปอดยามมันอ้าปากใต้น้ำ
วาฬหายใจเอาอากาศที่ใช้แล้วออกจากปอดรุนแรงกว่าที่มนุษย์ทำ เมื่อมันขึ้นมาถึงผิวน้ำ จะมีน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นฝอยคล้ายน้ำพุ มันไม่ได้พ่นปรี๊ดๆ ออกมาหรอก แต่เพราะในลมหายใจออกของวาฬนั้นมีไอน้ำปนอยู่ด้วย
เมื่อไอน้ำและอากาศออกมาจากรูจมูกของมัน อากาศนั้นอุ่น ทันทีที่กระทบกับอากาศเย็นภายนอกเข้า มันก็รวมตัวกันเป็นหยดน้ำเล็กๆ พุ่งออกมาเป็นฝอย
📷:ภาพถ่าย
bluelifewild
The Earth
🐋"จมูกวาฬ" กับการหายใจที่ไม่เหมือนใคร 👃
วิธีการหายใจของวาฬแตกต่างจากปลาอื่นๆ โดยพวกนั้นได้ออกซิเจนที่ต้องการด้วยการดูดน้ำเข้าปาก จากนั้นก็หุบปาก แล้วเปิดเหงือกเพื่อบังคับให้น้ำผ่านออกมา เมื่อน้ำที่มีอากาศละลายอยู่ผ่านเหงือก เส้นเลือดฝอยที่มีอยู่มากมายบริเวณเหงือกจะดูดออกซิเจนเอาไว้ พร้อมกับคายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ส่วนวาฬต้องโผล่ขึ้นมาสูดลมหายใจใหม่ทุกๆ 20 นาที
จมูกของวาฬอยู่ส่วนบนของหัว ธรรมชาติอำนวยความสะดวกให้ในการสูดอากาศเมื่อโผล่ขึ้นบนผิวน้ำ แต่เมื่อกลับลงน้ำจะมีกล้ามเนื้อปิดรูจมูกของมันไว้แน่นเพื่อกันน้ำเข้า จมูกของวาฬติดต่อกับปอดโดยตรง ขณะที่ปากตัดขาดไม่มีทางติดต่อเลยทั้งกับจมูกและปอด น้ำจึงไม่เข้าสู่ปอดยามมันอ้าปากใต้น้ำ
วาฬหายใจเอาอากาศที่ใช้แล้วออกจากปอดรุนแรงกว่าที่มนุษย์ทำ เมื่อมันขึ้นมาถึงผิวน้ำ จะมีน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นฝอยคล้ายน้ำพุ มันไม่ได้พ่นปรี๊ดๆ ออกมาหรอก แต่เพราะในลมหายใจออกของวาฬนั้นมีไอน้ำปนอยู่ด้วย
เมื่อไอน้ำและอากาศออกมาจากรูจมูกของมัน อากาศนั้นอุ่น ทันทีที่กระทบกับอากาศเย็นภายนอกเข้า มันก็รวมตัวกันเป็นหยดน้ำเล็กๆ พุ่งออกมาเป็นฝอย
📷:ภาพถ่าย
bluelifewild
The Earth