JJNY : ไอซ์ท้ากัน เปิดภาษีเงินได้│สว. เรียกร้องปกป้อง "อังคณา"│ไทยไม่สนคำขู่ “ฮุน เซน”│ส.ส.โสมใต้ปูด ปรินซ์กรุ๊ป ซุกเงิน

ไอซ์ รักชนก ท้า กัน จอมพลัง เปิดภาษีเงินได้ ห่วงตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5419496
.
.
‘ไอซ์ รักชนก’ เชื่อ กัน จอมพลัง ตั้งใจช่วยเหลือชาวบ้านจริง ห่วง ไม่อยากให้ตกเป็นเครื่องมือนักการเมือง ขอให้มูลนิธิฯ เปิดเผย ภ.ง.ด.55 เตรียมลงพื้นที่ชายแดน ทำงานร่วมกับ กัน จอมพลัง
.
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม เวลา 11.00 น. ที่อาคารมาลีนนท์ น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังจบรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ถึงกรณีที่เกี่ยวข้องกับ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ว่า โดยส่วนตัวแล้วตนเชื่อจากใจจริงว่า กัน จอมพลัง มีความประสงค์ที่อยากจะช่วยเหลือชาวบ้าน และปัญหาในชายแดน แต่โดยส่วนตัวแล้ว ตนมองว่าปัญหาชายแดนจะไม่ยุติไปได้ถ้าไม่มีใครไปจัดการที่หัวใจหลักนั่นก็คือปัญหาสแกมเมอร์และปัญหา Call Center ที่เป็นท่อน้ำเลี้ยงใหญ่ที่สุดของประเทศกัมพูชา “แต่ทางรัฐบาลพยายามที่จะใส่เกียร์ว่างเพิกเฉยกับเรื่องนี้” ถึงแม้ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแต่ก็ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน
.
ซึ่งถ้าหากมีโอกาสตนจะลงพื้นที่ไปทำงานบริเวณชายแดน ร่วมกับ กัน จอมพลัง สัก 1 สัปดาห์รักชนกกล่าว
.
ส่วนตัวไม่อยากให้ กัน จอมพลัง ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อหาคะแนนนิยมให้กับใครคนใดคนหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใด และด้วยความที่ กัน จอมพลัง มีความสนิทสนมกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งๆ ที่เป็นบุคคลที่สังคมตั้งคำถาม ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์หรือไม่ ถึงแม้ว่า กัน จอมพลัง จะออกมาปฏิเสธ แต่ภาพที่ปรากฏ ทุกคนก็เห็นกันอยู่และสามารถตัดสินได้เอง
.
ไอซ์ รักชนก บอกอีกว่า กัน จอมพลัง มักจะพูดถึงพรรคประชาชนในแง่ลบ และเคยออกมาติง ส.ส.โรม ที่แนะนำให้มีการติดกล้องวงจรปิดที่บริเวณชายแดน ว่าทำไมถึงไม่ใช้เงินส่วนตัวของตัวเองมาดำเนินการในเรื่องนี้ ทั้งที่ความจริงแล้ว พรรคประชาชนเป็นพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถใช้งบประมาณแผ่นดินดำเนินการในเรื่องนี้ได้ ความจริงแล้ว กัน จอมพลัง ควรจะตั้งคำถามไปถึงผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นทั้งนายกรัฐมนตรี หรือแม้แต่ร้อยเอก ธรรมนัส ที่ กัน จอมพลัง มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เพราะตนมองว่าปัจจุบัน กัน จอมพลัง ไม่ใช่ประชาชนคนธรรมดา แต่เป็นบุคคลที่สามารถแสดงความคิดเห็นแล้วทำให้ประชาชนคล้อยตามได้ จนหลายๆ ครั้ง ทำให้หน่วยงานรัฐกระเตื้องทำงาน ตนจึงต้องการให้ กัน จอมพลัง ออกมาพูดในเรื่องนี้ ไม่ใช่ออกมาล่าแม่มดสำหรับบุคคลที่แสดงความคิดเห็นไม่ตรงใจ
.
สำหรับเรื่องเงินบริจาคเข้ามูลของกัน จอมพลัง ตนอยากให้ กัน เอา ภ.ง.ด. 55 (แบบแสดงรายการภาษีเงินได้มูลนิธิหรือสมาคม) ออกมาเปิดเผย แล้วนำไปเทียบกับ statement ย้อนหลังว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งวันนี้กัน จอมพลังค่อนข้างระมัดระวังตัวในการตอบ
.
ส่วนเรื่องที่ตกใจวันนี้คือโครงการของกระทรวงเกษตรที่มีจำเพาะเจาะจงหลายโครงการที่ กัน จอมพลังได้ เข้าใจว่าระเบียบที่ได้มาถูกต้องแต่เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตให้เห็นว่า “ความเชื่อมโยงระหว่างคุณธรรมนัส และคุณกัน มีความสนิทสนมกันจริง
.
ส่วนเรื่องที่กัน จอมพลังมีการใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรฯ ไปช่วยเหลือชาวบ้าน ตนยอมรับว่ายังตกใจเช่นกัน เพราะคนที่เป็น ส.ส. หลายคนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ยังยากที่จะใช้บริการ ตนก็เลยตั้งคำถามว่า ทำไมถึงนำทรัพยากรของส่วนรวมไปใช้ได้ นำไปใช้เพื่อความนิยมของใครหรือเปล่า ส่วนเรื่องที่กัน จอมพลัง ได้รับงานประมูลของกระทรวงเกษตรฯ ตนยืนยันว่าแค่ตั้งคำถามและเอามา เปิดให้ประชาชนดูเท่านั้น
.
ไอซ์ รักชนก ยืนยันว่า ไม่อยากให้สังคมมีตรรกะในเชิงวิบัติ ที่บอกว่า คนที่ออกมาช่วยเหลือสังคมหรือนักการเมืองที่ทุจริตคดโกง ไม่ต้องไปตรวจสอบถึงเรื่องความโปร่งใส เพราะปัญหาเหล่านี้ คือเหตุผลหลักที่ทำให้ประเทศชาติไม่เจริญ ดังนั้นตนอยากให้สังคมเปลี่ยนความคิดใหม่ไม่อยากให้มองว่าคนที่ออกมาช่วยเหลือสังคมอยู่บ่อยครั้ง จะไม่สามารถโดนตั้งคำถามใดๆ ได้ เพราะประชาชนเลือกตนมาเป็น ส.ส. ให้มาช่วยเหลือประชาชน และมาเรียกสติของสังคมคืนกลับมา ถ้าหากในอนาคต ถ้าได้คุยกับ กัน จอมพลังแบบเผชิญหน้า ตนก็คาดหวังแค่ว่า คุยกันแล้วประชาชนได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ไม่ต้องการให้เป็นความขัดแย้งส่วนตัว
.

.
สว. เรียกร้องปกป้อง "อังคณา" ชี้เป็นผู้ส่งสาร ไม่ควรมีความผิด
.
สว. เรียกร้องรัฐบาล-หน่วยงาน คุ้มครองปัญหาข่มขู่คุกคาม ปกป้อง "อังคณา" ชี้เป็นเพียงผู้ส่งสาร ไม่ควรมีความผิด เชื่อที่ผ่านมาแสดงความเห็นรอบด้าน ขอประชาชนอย่าปฏิเสธสิทธิมนุษยชน
.
นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา แถลงข่าวกรณีการคุกคามผู้แสดงจุดยืนปกป้องสิทธิมนุษยชน ไทย-กัมพูชา ว่า สืบเนื่องจากกรณีของนางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา และอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และ นายสุณัย ผาสุข นักวิชาการอาวุโสจากองค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ ที่ถูกคุกคามจากการแสดงความคิดเห็น และถูกนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ลดทอนไม่รอบด้าน และได้ตอบรับขอความคุ้มครองไปแล้วนั้น
.
เบื้องต้น ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยกันคุ้มครองและกำกับปัญหาเรื่องการข่มขู่คุกคามทุกรูปแบบ ซึ่งขณะนี้ลามไปถึงญาติของนางอังคณา ทางกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) หลายคนฝากความหวังไว้กับเรื่องนี้ แต่ทราบว่าก็ยังเงียบอยู่ จึงอยากให้กรรมการสิทธิมนุษยชนออกมาตรวจสอบการละเมิดที่เกิดขึ้น
.
รวมถึงองค์กรสื่อสารมวลชนให้พิจารณาการนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้รอบด้าน รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ช่วยตรวจสอบ เรายืนยันในหลักการสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่ถ้าใครล้ำเส้นไปในเรื่องของการข่มขู่คุกคาม อาฆาตมาดร้ายกันแพลตฟอร์มเองก็ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ
.
นายเทวฤทธิ์ ยังกล่าวว่า ใครที่อาจจะรู้สึกว่าความผิดนี้หนักหนาและอยากขับไล่นางอังคณาก็อยากให้ไปดูต้นเหตุ ซึ่งนางอังคณาได้แปลหนังสือของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาที่ส่งเรื่องไปยัง UN เกี่ยวกับการเปิดเสียงรบกวนตามแนวชายแดน
.
ซึ่งเรื่องนี้เป็นการส่งข้อมูลข่าวสารจึงคิดว่าไม่ควรจะมีความผิดใด ๆ ไม่ควรทำร้ายผู้ส่งสารไม่ว่าประเด็นนั้นจะเป็นข่าวร้าย และที่นางอังคณาโพสต์ เพื่อแสดงความห่วงใยต่อรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศให้ตระหนักถึงเรื่องนี้ว่าอาจเข้าข่ายเรื่องละเมิดเรื่องจิตใจ
.
ส่วนที่บางคนโจมตีเรื่องตัวบุคคลว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีจุดยืนเรื่องนี้เลย ซึ่งความจริงแล้วหากย้อนกลับไปจะเห็นว่านางอังคณา ได้แสดงจุดยืนต่อกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่ชายแดนด้วยเช่นกัน มีการประณามการวางกับระเบิดของทหารกัมพูชา
.
ซึ่งถ้าพูดในแง่ของต้นเหตุปัญหา ก็เห็นว่าโพสต์การแปลของนางอังคณา ความหนักเบาของปัญหาไม่ได้มีความรุนแรงอะไรเลย แม้กระทั่งจุดยืนในเรื่องนี้ก็มีจุดยืนอย่างรอบด้าน และขออย่าปฏิเสธเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะจะเป็นข้อได้เปรียบทั้งจุดยืน วิธีการ และเป้าหมายที่เราจะได้อยู่ร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ
ในช่วงเวลาที่เราต้องได้รับความชอบธรรมในเวทีสากล ประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่เราถูกละเมิดจากทางกัมพูชาก็เป็นสิ่งที่เรายึดโยงอยู่ จึงขออย่าให้ปฏิเสธในตรงนั้น และขอให้การนำเสนอข้อมูลข่าวสารอยู่บนพื้นฐานบนสิทธิมนุษยชนเช่นเดียวกัน
.
นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า "เราไม่ได้ต่างกันในเรื่องประเด็นจุดยืนเพราะที่ผ่านมากระแสตั้งคำถามกับนักสิทธิมนุษยชนแน่นอนว่าในบางห้วงเวลา เราอาจรู้สึกว่าเขาเหมือนกรวดในรองเท้า มากวนจิตกวนใจแต่ในห้วงเวลาที่เราถูกละเมิดผมคิดว่าจำนวนไม่น้อยก็คือนักสิทธิมนุษยชน"
.
"ถ้าหากว่าย้อนกลับไปมีการเกิดขึ้นของ อินฟลูเอนเซอร์ทวงคืนความยุติธรรม ก็สะท้อนปัญหาว่ารัฐไทยเองไม่สามารถแสวงหาความยุติธรรมให้ได้ การปฏิบัติหน้าที่ตรงนั้นแทบไม่ต่างจากนักสิทธิมนุษยชน เพียงแค่นักสิทธิมนุษยชนไม่ได้จับในประเด็นที่ไวรัลเมื่อเปรียบเทียบกับอินฟลูเอนเซอร์" นายเทวฤทธิ์ กล่าว
.
นายเทวฤทธิ์ ยังกล่าวว่า ในภาพรวมที่ผ่านมาทั้งเจ้าหน้าที่รวมถึงอินฟลูเอนเซอร์แสดงออกมา อาจทำให้เราเสียเปรียบในเวทีโลก
ด้านนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. ยืนยันหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก หากตราบใดที่ยังไม่เกินเลย โดยเห็นว่าปัจจุบันอยู่ในความคาบเกี่ยวเส้นบาง ๆ ระหว่างความรักชาติ จึงวิงวอนทุกฝ่ายว่ารักชาติอย่างมีสติและมีวุฒิภาวะ
.
โดยเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาแสดงออกความคิดเห็นตามหลักความเชี่ยวชาญและหลักสิทธิมนุษยชนตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ไม่ต้องการเห็นการแสดงความคิดเห็นที่เกิดเลยถึงการขู่ทำร้ายถึงแก่ชีวิต ชี้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงที่เป็นห่วง
โดยในกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองของวุฒิสภาเชิญนายสุนัย ผาสุก กรรมาธิการสิทธิมนุษยชน เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ จึงแสดงความห่วงใยไปยังประชาชนเพราะขณะนี้อยู่ในช่วงละเอียดอ่อน เพราะอยู่ในช่วงปัญหาความมั่นคงระหว่างประเทศ ไม่ต้องการให้มีการหยิบยกประเด็นนี้ไปเล่นงานในเวทีโลกให้ไทยเสียเปรียบ
.
ขณะที่นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ สว. กล่าวเสริมถึงการแถลงข่าวแสดงจุดยืนในวันนี้ไม่ได้ต้องการปกป้องใครคนใดคนหนึ่งแต่ปกป้องหลักสิทธิมนุษยชน และบอกว่าการแสดงความรักชาติเป็นเรื่องที่ดี การรักครอบครัวเป็นเรื่องที่ดี การรักพวกพ้องก็เป็นเรื่องที่ดีแต่จะดีหากมีความรักเผื่อแผ่ถึงมนุษยชาติ ดังนั้นเรื่องสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องสิทธิเขมร หรือสิทธิ์ของไทย แต่เป็นเรื่องของมนุษยชาติ หวังให้ทุกคนมองเห็นถึงภาพรวมใหญ่
.

.
ไทยไม่สนคำขู่ “ฮุน เซน” หลังขีดเส้นตาย 20 ต.ค. ด่านชายแดนช่องจอมยังไม่เปิด!
https://www.dailynews.co.th/news/5220604/
.
ประตูด่านชายแดนช่องจอมยังไม่เปิด ตามคำขู่ขีดเส้นตาย 20 ต.ค. ของฮุน เซน ตลาดชายแดนเงียบเหงา เมื่อคืนพบโดรนเขมรบินสอดแนม 3 ลำ
.
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังย่านการค้าตลาดชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พบว่าประตูด่านชายแดน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ซึ่งอยู่ห่างจากย่านการค้าตลาดชายแดนช่องจอมไปประมาณ 3 กม. ยังไม่ได้มีการเปิดด่านชายแดนตามที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ขู่ไทยไว้ว่าให้เปิดด่านชายแดนภายในวันที่ 20 ต.ค. ถ้าไม่เปิดจะเปิดรายชื่อนักการเมืองที่มีธุรกิจสีเทาอยู่ฝั่งกัมพูชา
.
โดยพบว่าที่บริเวณสามแยกทางเข้าหน้าด่านช่องจอม ห่างจากประตูด่านชายแดนช่องจอมประมาณ 2 กม. เจ้าหน้าที่ทหารได้นำเหล็กกั้นมาปิดเส้นทางไม่ให้รถยนต์เข้าได้ โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปบริเวณประตูด่านชายแดนแต่อย่างใด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงว่าทางการไทยไม่ได้สนใจในคำขู่ของสมเด็จฮุน เซน ที่จะต้องทำตามคำเรียกร้องดังกล่าวแต่อย่างใด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่