ขออนุญาตอ้างถึงพุทธประวัติตอนที่ทรงบรรลุสัมมาสัมโพธิญาก่อนแล้ว จึงปรากฏพระฉัพพรรณรังษีพวยพุ่งออกมารอบพระวรกายของท่าน
หลังจากนั้นท่านก็ได้เสวยวิมุติสุขอยู่ภายใต้ร่มต้นพระศรีมหาโพธิเป็นเวลา ๗ วัน
ก่อนที่จะทรงนึกถึงเหล่าพระปัญจวัคคีย์ และได้เสด็จไปโปรดเหล่าพระปัญจวัคคีย์เป็นประเดิม (งานแรก)
พอเสด็จไปถึง เหล่าปัญจวัคคีย์กลับไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่ได้ให้การต้อนรับพระองค์ท่านแต่อย่างใด เพราะพากันมองว่าพระองค์ทรงมีพระสุขพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดี พระวรกายก็มิได้ผ่ายผอมซูบซีดแต่อย่างใด
แปลว่า 'ทรงเลิกบำเพ็ญทุกขกิริยาเสียแล้ว' แน่นอน
จึงรู้สึกไม่เกิดความศรัทธา และไม่อยากให้การต้อนรับพระองค์
ตรงนี้คิดกันบ้างไหมว่า หากขณะนั้น พระองค์ท่านทรงมีพระฉัพพรรณรังษีรอบพระวรกายอยู่ล่ะ เหตุการณ์จะกลับเป็นตาลปัตรแน่นอน !!
เนื่องจากพระฉัพพรรณรังษีนั้น มีความสว่างจ้ามาก สว่างจนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในเวลากลางวัน
แถมยังประกอบด้วยแสงสีถึง 6 สีประสมกันด้วย
+++ ลองใครได้เห็นก็ต้องเข่าทรุดครับก้มกราบแน่ เพราะเข้าใจว่าเป็นเทวดามาโปรด +++
ศึกษาดี ๆ...ฉัพพรรณรังษีรอบพระวรกายของพระศาสดา มิได้ปรากฏให้เห็นตลอดเวลา
หลังจากนั้นท่านก็ได้เสวยวิมุติสุขอยู่ภายใต้ร่มต้นพระศรีมหาโพธิเป็นเวลา ๗ วัน
ก่อนที่จะทรงนึกถึงเหล่าพระปัญจวัคคีย์ และได้เสด็จไปโปรดเหล่าพระปัญจวัคคีย์เป็นประเดิม (งานแรก)
พอเสด็จไปถึง เหล่าปัญจวัคคีย์กลับไม่ได้ให้ความสนใจ ไม่ได้ให้การต้อนรับพระองค์ท่านแต่อย่างใด เพราะพากันมองว่าพระองค์ทรงมีพระสุขพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดี พระวรกายก็มิได้ผ่ายผอมซูบซีดแต่อย่างใด
แปลว่า 'ทรงเลิกบำเพ็ญทุกขกิริยาเสียแล้ว' แน่นอน
จึงรู้สึกไม่เกิดความศรัทธา และไม่อยากให้การต้อนรับพระองค์
ตรงนี้คิดกันบ้างไหมว่า หากขณะนั้น พระองค์ท่านทรงมีพระฉัพพรรณรังษีรอบพระวรกายอยู่ล่ะ เหตุการณ์จะกลับเป็นตาลปัตรแน่นอน !!
เนื่องจากพระฉัพพรรณรังษีนั้น มีความสว่างจ้ามาก สว่างจนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในเวลากลางวัน
แถมยังประกอบด้วยแสงสีถึง 6 สีประสมกันด้วย
+++ ลองใครได้เห็นก็ต้องเข่าทรุดครับก้มกราบแน่ เพราะเข้าใจว่าเป็นเทวดามาโปรด +++