👅 “เชื้อราในช่องปาก” ไม่ได้เกิดจากความสกปรกเสมอไป! (มีรูป)

ฝ้าขาว ๆ ที่ลิ้น อาจไม่ใช่แค่ล้างไม่สะอาด ⚠️

   เรื่องที่หลายคนอาจเคยเจอแต่ไม่รู้ว่า...มันคือ “เชื้อราในช่องปาก” หรือบางคนเรียกว่า “ลิ้นเป็นฝ้าขาว” ซึ่งในบางกรณีเกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่งชื่อว่า
👉 Candida spp. (โดยเฉพาะ Candida albicans)

เชื้อชนิดนี้คืออะไร?
  - เป็น เชื้อราแบบยีสต์ (Yeast)
  - จริง ๆ แล้วเชื้อนี้ “อยู่ในปากของเราทุกคนได้ตามปกติ” แต่จะเริ่ม “ก่อโรค” ก็ต่อเมื่อร่างกายอ่อนแอ หรือสมดุลของเชื้อในช่องปากเสียไป
  - เวลาเชื้อเริ่มก่อโรค มันจะสร้าง เส้นใย (Hyphae) และ เส้นใยเทียม (Pseudohyphae) ซึ่งมองเห็นได้ในการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ (วิธี KOH)

ปัจจัยที่กระตุ้นให้เชื้อราขึ้นในช่องปาก
  - ใช้ ยาปฏิชีวนะ ติดต่อกันนาน
  - ใช้ ยาสเตียรอยด์ หรือยาพ่นสเตียรอยด์ (โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหืด)
  - ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยเบาหวาน, มะเร็ง, HIV
  - ใส่ ฟันปลอม แล้วไม่ถอดตอนนอน
  - ช่องปากแห้ง หรือ ไม่ดูแลสุขอนามัยช่องปากให้ดี

ลักษณะและอาการที่สังเกตได้
  - มี ฝ้าขาวหนาเคลือบอยู่บนลิ้น / เหงือก / กระพุ้งแก้ม
  - เมื่อขูดออกจะเห็นเยื่อบุแดง แสบ เจ็บ
  - บางคนจะมีอาการ ลิ้นแสบ ลิ้นไหม้ หรือกลืนลำบาก
  - ถ้าทิ้งไว้นานอาจลามถึงเพดานปากหรือคอได้เลย

แล้วรักษายังไงดี?
  - ควรให้แพทย์ตรวจเพื่อยืนยันว่าเป็นเชื้อรา Candida จริงหรือไม่ (บางทีฝ้าขาวอาจมาจากสาเหตุอื่น)
  - หากยืนยันว่าเป็นเชื้อรา แพทย์จะให้ ยาฆ่าเชื้อรา (Antifungal) เช่น Nystatin หรือ Fluconazole
  - หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น
  - รักษาความสะอาดช่องปาก แปรงลิ้นเป็นประจำ
  - ถ้าใส่ฟันปลอม ควรถอดล้างและแช่น้ำยาทำความสะอาดทุกคืน

ข้อควรระวัง
    อย่าพยายาม “ขูดฝ้า” ออกแรง ๆ เอง เพราะอาจทำให้เยื่อบุช่องปากถลอก และเจ็บแสบมากกว่าเดิม หากฝ้าไม่หายภายใน 3-5 วัน ควรไปพบทันตแพทย์หรือแพทย์เฉพาะทางช่องปาก


ที่มา ฉันอยู่ในห้องแล็บ




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่