คืนสวรรค์ วันสวาท พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ (สปอย)

คืนสวรรค์ วันสวาท โดนพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ นิยายไทยที่สะท้อนถึงความร้ายกาจของสังคมเมื่อสมัย70ปีที่แล้วที่มีต่อผู้หญิง โดนเฉพาะผู้หญิงที่เคยเสียตัวและมีลูกติด เรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องเผชิญเคราะห์กรรมจากความรัก แต่เธอเลือกที่จะต่อสู้กับโชคชะตา และต่อสู้กับสังคมรอบตัวที่มีแต่การติฉินนินทาว่าร้าย

นงลักษณ์ เธอเป็นพี่คนโตและเป็นลูกสาวที่พ่อแม่รักมาก นงลักษณ์มีน้องชายสองคนที่อายุห่างกับเธอมาก    นงลักษณ์โตมากับครอบที่มีฐานะดี ช่วงเด็กและวัยรุ่นเธอต้องจากพ่อแม่มาอยู่ในเมืองเพื่อศึกษาเล่าเรียน นงลักษณ์อาศัยอยู่กับป้าแท้ๆของเธอที่บ้านซึ่งเป็นบ้านอีกหลังของครอบครัวนงลักษณ์ โดยให้ป้าเป็นผู้ดูแลและอาศัย ป้าของเธอชื่อสงบ เป็นแม่หม้ายลูกติด ลูกของสงบเป็นผู้ชายชื่อนิรัญช์ อายุแก่กว่านงลักษณ์เพียง 1 ปีเท่านั้น ทั้งสองถือได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน นงลักษณ์อยู่ในความดูแลของสงบมาตลอดไปรับไปส่งหลานสาวเป็นประจำ สงบดูแลเธอดีและเฝ้าระวังยิ่งกว่าลูกของตัวเองเสียอีก เธอเรียกนงลักษณ์ว่าคุณทุกครั้งและยังกำชับให้นิรัญช์เรียกเธอว่าคุณอีกด้วยก็เพราะความเจียมเนื้อเจียมตัวที่ต้องอาศัยบ้านและเงินของครอบครัวนงลักษณ์ประทังชีวิต เด็กทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันมีความสนิทสนม จนกระทั่งความสนิทสนมนั้นแปลงเปลี่ยนเป็นความรัก ซึ่งสงบก็ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดจึงได้พยายามตัดเตือนลูกชายของตัวไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับหลานสาว ครั้งหนึ่งเมื่อสงบได้ทำกิจประจำโดนการไปรับนงลักษณ์กลับจากโรงเรียนกลับพบว่านงลักษณ์ได้ออกจากโรงเรียนไปในตอนบ่าย จึงเกิดสงสัยและเดินทางไปยังโรงเรียนของลูกชายจึงพบว่านินัญช์ก็ได้ออกจากโรงเรียนไปในเวลาเดียวกันกับนงลักษณ์  เมื่อหมดหนทางในการติดตามเด็กทั้งสองจึงได้เดินทางกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านกลับพบว่าทั้งสองเดินทางกลับมาถึงบ้านก่อนแล้ว สงบโกรธลูกชายของตัวมากที่บังอาจชักชวนหลานสาวโดดเรียน ถึงกับทะเลาะกันใหญ่โตจนพลาดตีหัวลูกชายแตก ภายหลังจึงได้ปรับความเข้าใจกัน นิรัญช์ได้สัญญากับแม่ว่าไม่ทำให้เกิดเหตุการนั้นขึ้นอีก จนนงลักษณ์รู้สึกละอายใจต้องมาสารภาพแก้ตัวว่าตนได้เป็นคนชักชวนนิรัญช์โดดเรียนเพียงเพราะอยากดูหนังกับนิรัญช์ เวลาผ่านไปความรักของทั้งสองก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆสงบและบิดามารดาของนงลักษณ์มีความกังวลใจในเรื่องของเด็กทั้งสอง โดยครอบครัวของนงลักษณ์ไม่ประสงค์ที่จะให้นิรัญช์กับนงลักษณ์อยู่ใกล้กัน เมื่อนงลักษณ์จบการศึกษาเพียงมัธยมก็ได้กลับไปอยู่บ้านเดิม ทั้งสองยังมีการติดต่อกันทางจดหมายตลอดมา เมื่อนงลักษณ์มีความจำเป็นต้องมาทำธุระในเมืองกับแม่เป็นเวลานานจึงได้เข้ามาอยู่ในบ้าน มารดาของนงลักษณ์จึงตัดสินใจให้สงบกับลูกชายออกไปหาที่อยู่อื่นแทน เพื่อป้องกันไม่ไห้ทั้งสองได้เจอกัน แต่ก็ไม่แคล้วคลาดกันทั้งสองได้นัดพบติดต่อกันเรื่อยมาจนกระทั้งนิรัญช์ออกปากชวนนงลักษณ์ให้หนีไปด้วยกัน ตอนแรกนงลักษณ์ได้ตอบตกลงว่าจะหนีไปกับนิรัญช์ แต่จดแล้วจนรอดความสงสารมารดารวมถึงใจก็ยังไม่แข็งพอที่จะทำแบบนั้นจึงได้สารภาพกับมารดาตามตรงในเรื่องที่คิดจะหนีตามนิรัญช์ มารดาของนงลักษณ์ก็ไม่พูดอะไรมากความและให้อภัยแก่ลูกสาวเชื่อใจลูกสาวว่าจะไม่คิดทำอะไรให้เสื่อมเสียแก่บิดามารดาเป็นแน่ เมื่อนงลักษณ์ผิดคำสัญญากับนิรัญช์ นิรัญช์ไม่ได้โกรธ อะไรกับนงลักษณ์เลย เพราะเข้าใจนงลักษณ์ดีและโทษตนเองที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษพอ ยังเป็นคนชักชวนให้นงลักษณ์ทำสิ่งที่ไม่ควรไม่งาม อาจทำให้นงลักษณ์เสียศักดิ์ศรี เสียชื่อเสียงของลูกผู้หญิง นิรัญช์ได้แต่ปลงตกในเรื่องที่ว่าชาตินี้เขาคงไม่มีวันที่จะแต่งงานครองรักกับนงลักษณ์ได้เป็นแน่น ฝ่ายนงลักษณ์เองก็ได้แต่ภาวนาว่าสักวันบิดามารดาของตนจะยอมรับนิรัญช์ได้ แต่ชีวิตของคนทั้งสองก็ยังได้พบปะกันอยู่บ้างจนกระทั่งวันหนึ่งเป็นวันที่ไม่คาดคิดนงลักษณ์ได้พบกับนิรัญช์และในวันเดียวกันนั้นนงลักษณ์ก็ได้เสียตัวให้กับนิรัญช์เป็นครั้งแรก ทั้งสองได้ร่วมกันเป็นคู่ผัวตัวเมียโดยที่บิดามารดาของทั้งสองมิได้รับรู้เรื่องด้วย หลังจากครั้งนั้นทั้งสองก็ได้พบกันอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งผ่านมาสองเดือนนงลักษณ์ได้รับรู้ถึงความผิดปกติของร่างกาย ทั้งสองได้ปรึกษาหาลือกันนิรัญช์มีความประสงค์ที่จะรับผิดชอบทุกประการ เมื่อเรื่องการตั้งท้องของนงลักษณ์รับรู้ไปถึงบิดามารดา บิดาของนงรักษ์เกิดความเสียใจและโกรธนิรัญช์มาก และคิดว่านิรัญช์คงใช้วิธีการรวบหัวรวบหางนงลักษณ์เพื่อจะให้เขายกลูกสาวให้และได้สบายบนกองเงินกองทองสมบัติของครอบครัว แต่ความจริงนิรัญช์ไม่ได้คิดแบบนั้นเลยทั้งสองทำไปก็เพราะความรักที่สุจริตใจจริงๆ แต่ถึงกระนั้นบิดาของนงลักษณ์ก็ไม่อาจยอมรับตัวนิรัญช์ได้ และจะไม่มีวันยอมรับให้สองคนได้แต่งงานอยู่กินกัน บิดาของนงลักษณ์จึงได้พานงลักษณ์กลับไปบ้านและได้ส่งนงลักษณ์กับแม่ไปอยู่ตามหัวเมืองต่างๆเพื่อปกปิดการตั้งครรภ์ของลูกสาวอันเป็นที่รักของตน นิรัญช์เมื่อได้รู้เรื่องราวว่าตนต้องจากกับนงลักษณ์อีกครั้งและไม่มีทางเลยที่บิดาของนงลักษณ์จะยอมรับตนเองได้แล้ว รวมถึงมีความน้อยเนื้อต่ำใจในฐานะของตนว่าเป็นคนจนไม่มีสิทธิ์มีความรักที่ดีได้ อยู่มาคืนหนึ่งนิรัญช์เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจอย่างที่สุดจึงได้ทำการปลิดชีพตัวเองโดยใช้กระสุนปืนยิงตัวตาย เรื่องราวการตายของนิรัญช์ไปถึงหูของนงลักษณ์ทำให้นงลักษณ์เกิดความเสียใจอย่างที่สุดและลูกก็กลายเป็นเด็กไม่มีพ่อไป หลังจากเหตุการณ์ตายของนิรัญช์ได้ระยะหนึ่งนงลักษณ์ก็ได้ให้กำเนิดลูกสาว ซึ่งเป็นลูกของนงลักษณ์กับนิรัญช์เป็นเด็กที่น่ารักน่าชัง แต่ทางบิดามารดาของนงลักษณ์ห้ามให้นงลักษณ์เรียกลูกว่าลูกแต่จะให้เรียกลูกว่าเป็นน้องแทน เพื่อปิดบังการตั้งท้องโดยไม่มีพ่อ ลูกสาวของนงลักษณ์ชื่อนงเยาว์ เมื่อนงเยาว์อายุได้สี่เดือนนงลักษณ์และมารดาก็พากลับมาอยู่ที่บ้านเดิมกับบิดา โดยที่นงเยาว์มีฐานะเป็นน้องของนงลักษณ์และบอกคนอื่นว่านงเยาว์เป็นลูกของพ่อกับแม่ นงเยาว์มีหน้าตาที่เหมือนกับนงลักษณ์มากแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าสงสัยและเชื่อกันต่อไปว่านงเยาว์เป็นน้องของนงลักษณ์ นงลักษณ์ดำเนินชีวิตด้วยการปิดบังสถานะอันแท้จริงของตนเองกับนงเยาว์ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปนงเยาว์มีอายุได้สองขวบ และนงลักษณ์ก็ได้มีผู้ชายคนใหม่ผ่านเข้ามาในชีวิตคือกอบเกียรติ กอบเกียรติเป็นนักเรียนนอกมีฐานะทางบ้านที่ดีแถมยังเป็นพี่ชายของเพื่อน ทั้งสองเข้ากันได้ดีในเรื่องต่างๆจนกระทั่งกรอบเกียรติตัดสินใจให้บิดามารมาสู่ขอนงลักษณ์ ในขั้นแรกทางฝ่ายบิดามารดานงลักษณ์ได้มีความวิตกกังวลในเรื่องที่ลูกสาวของตนเองมิได้เป็นสาวบริสุทธิ์เคยมีผัวและมีลูกมาแล้ว เกรงว่าทางฝ่ายชายถ้ารู้เรื่องนี้เข้าคงจะเป็นอันไม่ตกลงที่จะให้ลูกชายแต่งงานกับนงลักษณ์เป็นแน่ นงลักษณ์เองก็มีความวิตกกังวลในข้อนี้เหมือนกันแต่ทั้งบิดามารดารวมถึงนงลักษณ์เองก็ไม่กล้าที่จะบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แก่ฝ่ายของกรอบเกียรติได้ถ้าหากฝ่ายชายมิได้ปริปากถามถึง จนกระทั่งสองวันก่อนถึงวันแต่งงานนงลักษณ์อึดอัดใจและไม่อาจทนต่อการปิดบังเหล่านี้ได้และต้องการที่จะตอบแทนความรักอันบริสุทธิ์ของฝ่ายชายอย่างกรอบเกียรติ จึงตัดสินใจนัดหมายกอบเกียรติเพื่อจะบอกความจริงเรื่องที่ตนไม่ใช่หญิงสาวบริสุทธิ์แต่เคยมีผัวมีลูกมาแล้วและเพื่อเป็นการแสดงความสุจริตใจจริงต่อว่าที่เจ้าบ่าวของตน โดยนัดหมายให้กรอบเกียรติมาดูเรือนหอด้วยกันและหาโอกาสอยู่ด้วยกันสองคนเพียงลำพัง เมื่อทั้งสองได้อยู่กันสองคนเพียงลำพังนงลักษณ์ จึงเปิดเผยความจริงที่ว่าตนเองเคยมีลูกมีผัวมาก่อนหน้านี้แล้วและไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ ตอนแรกกรอบเกียรติไม่เชื่อนงลักษณ์และหาว่าเธอแสดงละคร นงลักษณ์เลยตัดสินใจถอดเสื้อผ้าออกจนหมดต่อหน้ากรอบเกียรติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงร่องรอยของการมีลูกบนหน้าท้องของเธอ กรอบเกียรติตะลึงในความกล้าหาญของเธอและความบริสุทธิ์ใจของเธอในการเปิดเผยเรื่องจริงต่อเขา เขาจึงไม่รังเกียจเธอเลยแม้แต่นิดเดียวและตกลงกันว่างานแต่งงานก็จะมีการดำเนินต่อไปจะไม่มีการล้มเลิกการแต่งงานเป็นอันขาด แต่ถึงกระนั้นกรอบเกียรติก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ฝ่ายบิดามารดาของตนและเก็บเป็นความลับ

ชีวิตหลังสมรสของนงลักษณ์และกรอบเกียรติเป็นไปอย่างราบเรียบ เธอได้นำนงเยาว์กลับมาอยู่กับเธอในบ้านเดียวกัน หลังจากที่ได้ฝากนงเยาว์ไว้กับพ่อแม่ในระยะแรกของการแต่งงานใหม่ๆเธอก็ได้ขออนุญาตสามีว่าจะพานงเยาว์มาอยู่ด้วยกรอบเกียรติก็ไม่ได้ขัด อะไร อยู่มาวันหนึ่งบิดาของกรอบเกียรติได้เจอกับนงเยาว์ กรอบเกียรติไม่สามารถปฏิเสธบิดาได้ว่านงเยาว์เป็นลูกของนงลักษณ์ เลยได้สรภาพบิดาไป เมื่อบิดาได้รับรู้เรื่องราวของนงลักษณ์เรื่องราวต่างๆของเธอจึงได้แพร่กระจายไปยังวงญาติของกรอบเกียรติ นงลักษณ์จึงไม่สามารถเข้าหน้าญาติฝ่ายสามีได้ต่อไป จนสุดท้ายเรื่องก็ได้แพร่ไปยังวงสังคมภายนอก ชื่อเสียงของนงลักษณ์ได้แพร่กระจายไปในทางเสียงๆหายๆ บ้างก็บอกว่าเธอทิ้งสามีเก่ามาอยุ่กับกรอบเกียรติ บ้างก็บอกว่าเธอยิงสามีเก่าตาย สิ่งนี้มีผลกระทบต่อกรอบเกียรติเขาถูกติฉินนินทาว่าร้าย จากคนรอบข้างรวมถึงจากญาติพี่น้องของเขาเอง เมื่อถูกนินทาว่าร้ายบ่อยๆจากสังคมรอบข้างเขาจึงทนไม่ได้ กรอบเกียรติเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเช่น กลับบ้านไม่ตรงเวลา กลับบ้านดึก ออกไปพักข้างนอกเป็นเวลาหลายวัน โดยเขาไม่สามารถทนแรงกดดันจากฝ่ายญาติและสังคมในเรื่องของการอยากให้กอบเกียรติเลิกรากับนงลักษณ์ สังคมรอบตัวของเขากดดันให้กรอบเกียรติทิ้งนงลักษณ์ เพื่อที่จะได้แต่งานใหม่และไม่ถูกนิทาว่าร้ายให้เสียชื่อ กรอบเกียรติมีจิตใจที่อ่อนแอเอนตามต่อความต้องการของสังคมไปสะทุกอย่าง โดยไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาตนเองและไม่พยายามต่อสู้ฝ่าฟันกับอุปสรรค ภายหลังเขาได้ตัดสินใจบอกเลิกกับนงลักษณ์และต้องการให้นงลักษณ์เซ็นใบหย่า นงลักษณ์ยอมไม่เซ็นใบหย่าให้กรอบเกียรติเนื่องด้วยคิดว่าตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิดรวมถึงการหย่ากับสามีของผู้หญิงสมัยนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรไม่มีใครเขาทำกัน เธอจึงปล่อยให้เรื่องคาราคาซัง จนกระทั่งกรอบเกียรติก็ได้ออกจากบ้านกลับไปอยู่บ้านเดิม
(มีต่อ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่