เปลี่ยนคำถามประชามติ เลิก MOU เป็นคำถามว่า เห็นด้วยหรือไม่ ที่จะตัด-ลด ความสัมพันธ์ ไปจนกว่าจะจัดการเรื่องเขตแดนได้

1. หลงประเด็น ประชามติเลิก MOU
เปลี่ยนคำถามประชามติเป็นว่า “ประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ที่จะตัด-ลด ความสัมพันธ์ ปิดด่าน มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ไปจนกว่าจะจัดการเรื่องเขตแดน ปักหมุด-ทำรั้วเรียบร้อย”
(หรือจะไปเรียบเรียงคำพูดให้ดีกว่านี้) แก้ให้ตรงจุด MOU เป็นแค่เครื่องมือ จะใช้เครื่องมือ-วิธีการใด ถามคำถามนี้เพื่อให้มีจุดมุ่งหมาย แก้ปัญหาในระยะยาวในเรื่องความปลอดภัย คนทั่วไปเข้าใจง่ายกว่า มีการเตรียมตัว คิดถึงผลกระทบได้ เป็นการแสดงเจตจำนงผ่านการทำประชามติ ให้เป็นข้อผูกมัด มีผลบังคับใช้ ไปจนกว่าจะมีการดำเนินงานแล้วเสร็จ

2. ไปเจรจา แต่ไม่มีการกระทำ ไม่มีประโยชน์ ยืนยันเรื่องการปิดด่าน อย่างน้อยไทยก็ลดการเป็นเส้นทาง มีความเกี่ยวข้องกับ scammer ถ้าไปเจรจา ทำสัญญา เงื่อนไขแรกที่ต้องทำเลย คือเก็บกู้ทุ่นระเบิด จุดที่ขัดแย้ง แล้วทำการสำรวจ ปักปันเขตแดนที่จุดนั้นก่อนเลย (ตลอดแนวพนมดงรัก ปราสาทที่เป็นปัญหา) เชิญ ปชช นักเคลื่อนไหว สื่อมวลชน ไปร่วมเดินสำรวจด้วย น่าสงสัยที่ว่า JBC ผ่านมา 25 ปี เคยประชุมกันแค่ 5-6 ครั้ง???

3. รัฐบาล ควรคิดเรื่อง เปลี่ยนกิจกรรมพื้นที่ชายแดนด้านนี้ไปเป็นอย่างอื่น แบรนด์ไทยโดนแบนในกัมพูชา จะไปขายของให้กับคนที่มาโจมตีให้ร้ายคุณ และสินค้าคุณทำไม??? ถ้าเป็นนักการตลาดจะเสนอแก้ปัญหาอย่างไร??? กระทรวงพาณิชย์ เศรษฐกิจ เปลี่ยนเกมส์ พัฒนาฝั่งตัวเองดีกว่า มีมาตรการช่วยเหลือ ปชช ในพื้นที่ ทางเศรษฐกิจอย่างไรในระยะยาว ถ้าปิดด่านต่อไปเป็นเกมส์นึง อยู่ได้โดยไม่เกี่ยวกับการค้าชายแดนด้านนี้ พัฒนาจังหวัดชายแดนเป็น… 
ทำไมไม่เคยมีใครสำรวจว่า มูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์นี้เป็นเท่าไร ถ้าปิดด่านต่อไป ต้นทุนความเสียหายทางธุรกิจ ธุรกิจที่เปิด-ปิด ความเสียหายจากเหตุการณ์จริง ทั้งค่าใช้จ่ายทางการทหาร บุคลากร ต้นทุนธุรกิจ เวลา คิดหักลบดู มองเป็นตัวเลข (ถ้าการค้าขายกับกัมพูชาเป็น 2-3% ของการส่งออกไทย  นับรวมทองคำในการส่งออกไปประเทศนี้หรือเปล่า??? “ตัวเลขส่งออกทอง ปี 2567: 105,982 ล้านบาท, ปี 2568 (ม.ค.-ก.ค.): 71,312 ล้านบาท” เท่ากับว่า 30-40% เป็นการส่งออกทอง??? เป็นการฟอกเงินหรือเปล่า??? มีการค้าอะไรที่เป็นธุรกิจจริง??? หรือปชช ในพื้นที่มีส่วนร่วม) อย่าไปเสียเวลากับชายแดนด้านนี้เลย ใช้เวลาไปกับการพัฒนาพื้นที่ด้านนี้ เป็นเศรษฐกิจ... ดีกว่า

4. เรียกร้องค่าเสียหาย

นักการเมือง รัฐบาล ราชการ ชอบใช้คำว่า บูรณาการ จนเลี่ยนมาก

คิดแบบ proactive ทำงานเชิงรุก

รัฐบาลไม่ว่ายุคไหน ก็เหมือนไหลไปตามสถานการณ์ โดนสถานการณ์บีบตลอด ได้ยินแต่ข่าวว่า ต้องมาแก้-ปรับตามเกมส์ตลอด ไม่เคยมีเป้าหมาย ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทำทางเลือก-รับมือสถานการณ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่