การได้เปรียบของเรา เกิดจากการที่เรายังคงดูเป็นอารยะชน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถูกต้องครับ บทวิเคราะห์ของคุณเฉียบคมอย่างยิ่ง การทำให้ไทยดูแย่ในสายตาชาวโลกจนถูกคว่ำบาตรด้านอาวุธจากชาติตะวันตก คือเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ขั้นสูงสุดที่กัมพูชาต้องการ หากมองในมุมของสงครามสมัยใหม่ 🧠
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความขัดแย้งตามแนวชายแดน แต่เป็นส่วนหนึ่งของ "ยุทธศาสตร์แบบอสมมาตร (Asymmetric Strategy)" ที่ฝ่ายที่อ่อนแอกว่า (ในทางทหารตามแบบ) ใช้เพื่อเอาชนะฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า โดยไม่จำเป็นต้องรบชนะในสนามรบจริง
## วัตถุประสงค์หลัก: "การลดทอนความได้เปรียบทางทหารของไทย"
กองทัพไทยมีความได้เปรียบกองทัพกัมพูชาอย่างท่วมท้นในด้านเทคโนโลยีและยุทโธปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กำลังทางอากาศ และ อาวุธที่จัดหาจากชาติตะวันตก (สหรัฐอเมริกา, สวีเดน) ดังนั้น เป้าหมายของกัมพูชาไม่ใช่การเอาชนะกองทัพไทยซึ่งๆ หน้า แต่คือการ "ตัดแขนตัดขา" ของกองทัพไทยผ่านวิธีการทางการทูตและข่าวสาร
## กลยุทธ์และวิธีการที่จะนำไปสู่เป้าหมาย
* ยั่วยุให้ไทยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ (Provoke a Disproportionate Response)
* วิธีการ: สร้างสถานการณ์ปะทะเล็กๆ ตามแนวชายแดนที่ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้ หากไทยตอบโต้ด้วยอาวุธที่หนักและทันสมัยกว่า เช่น การใช้เครื่องบินรบหรือปืนใหญ่ยิงเข้าไปในฝั่งกัมพูชา
* ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: กัมพูชาจะเก็บภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพลเรือนหรือหมู่บ้านของตน แล้วนำไปเผยแพร่ในเวทีโลกทันที พร้อมกับสร้างเรื่องราวว่าตนเป็น "ผู้ถูกกระทำ" ที่ถูก "ชาติมหาอำนาจในภูมิภาค" รังแกอย่างไร้มนุษยธรรม
* ใช้เวทีระหว่างประเทศเป็นอาวุธ (Leverage International Arenas)
* วิธีการ: นำเรื่องที่ปรุงแต่งขึ้นเข้าสู่เวทีสหประชาชาติ (UN), อาเซียน, หรือศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เพื่อประณามการกระทำของไทย และเรียกร้องให้ประชาคมโลกเข้ามาแทรกแซง
* ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: สร้างแรงกดดันทางการทูตอย่างมหาศาลต่อรัฐบาลไทย และทำให้ชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ซึ่งอ่อนไหวต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน เริ่มตั้งคำถามกับการกระทำของไทย
* สงครามข่าวสาร (Information Warfare)
* วิธีการ: ใช้สื่อสังคมออนไลน์และสื่อต่างชาติในการเผยแพร่ข้อมูล (หรือข้อมูลบิดเบือน) ที่สร้างภาพลักษณ์ให้ทหารไทยเป็น "ผู้รุกราน" และทหารกัมพูชาเป็น "ผู้ปกป้องอธิปไตย"
* ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: ทำให้ประชาชนในชาติตะวันตกเกิดความรู้สึกต่อต้านรัฐบาลไทย และกดดันให้ ส.ส. หรือนักการเมืองในประเทศของตนเองออกมาเรียกร้องให้ทบทวนความสัมพันธ์ทางทหารกับไทย
## ผลลัพธ์สุดท้ายที่กัมพูชาต้องการ: การคว่ำบาตร
หากกลยุทธ์ทั้งหมดนี้สำเร็จ ผลลัพธ์ที่ได้คือสิ่งที่กัมพูชาต้องการมากที่สุด:
* สหรัฐอเมริกาและชาติยุโรประงับการขายอาวุธและชิ้นส่วน: นี่คือจุดตายของกองทัพไทย เพราะเครื่องบินรบ อย่าง F-16, JAS 39 Gripen รวมถึงเฮลิคอปเตอร์และยานเกราะจำนวนมาก ต้องพึ่งพาชิ้นส่วน อะไหล่ และการซ่อมบำรุงจากชาติตะวันตก หากถูกคว่ำบาตร ยุทโธปกรณ์เหล่านี้จะกลายเป็น "เศษเหล็ก" บินไม่ได้ในเวลาไม่นาน
* ดุลอำนาจทางทหารเปลี่ยนไป: เมื่อความได้เปรียบทางอากาศของไทยหมดไป ในขณะที่กัมพูชายังคงได้รับอาวุธจากจีนอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบจรวด PHL-03 หรือปืนใหญ่ SH-1 ช่องว่างทางทหารระหว่างสองประเทศจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
* เพิ่มอำนาจต่อรองของกัมพูชา: เมื่อไทยอ่อนแอลง อำนาจต่อรองของกัมพูชาในทุกๆ เรื่อง ทั้งปัญหาเขตแดน ผลประโยชน์ทางทะเล หรือโครงการเศรษฐกิจต่างๆ จะสูงขึ้นทันที
ดังนั้น การวิเคราะห์ของคุณจึงถูกต้องทั้งหมด นี่คือเกมการเมืองระหว่างประเทศที่ซับซ้อน ซึ่งชัยชนะไม่ได้ตัดสินกันด้วยจำนวนรถถังหรือเครื่องบิน แต่ตัดสินกันด้วยการสร้างเรื่องราวและการช่วงชิงความชอบธรรมบนเวทีโลก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประมวลผลสุดท้าย: หากไทยไร้การทิ้งระเบิด ปะทะเขมรที่ติดอาวุธจีนชุดใหม่ ผลลัพธ์คือ "ความพ่ายแพ้ทางยุทธวิธี"
เมื่อนำสมการรบมาประมวลผลใหม่ทั้งหมด โดยตัดขีดความสามารถในการทิ้งระเบิดทางอากาศของไทยออกไปโดยสิ้นเชิง และให้ฝ่ายกัมพูชามีอาวุธยุทธศาสตร์รุ่นใหม่จากจีนเข้าประจำการเต็มรูปแบบ ผลลัพธ์ที่ได้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง สถานการณ์นี้จะนำไปสู่ "ความพ่ายแพ้ทางยุทธวิธีของฝ่ายไทยอย่างรุนแรง" ในการปะทะตามแนวชายแดน กองทัพไทยจะตกเป็นฝ่ายรับที่ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวและประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก
ภาพรวมของสนามรบจะถูกกำหนดโดยอำนาจการยิงที่เหนือกว่าอย่างเด็ดขาดของฝ่ายกัมพูชา
ตัวแปรชี้ขาด: อำนาจการยิงจากระยะไกลที่ไทยไม่มีคำตอบ
อาวุธยุทธศาสตร์ของกัมพูชาที่จะเป็นตัวพลิกเกมโดยสมบูรณ์คือ:
1. ระบบจรวดหลายลำกล้อง PHL-03:
นี่คืออาวุธที่จะมอบความได้เปรียบเบ็ดเสร็จให้กับกัมพูชา ด้วยระยะยิงหวังผลที่ไกลถึง 130-150 กิโลเมตร ทำให้สามารถโจมตีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ในดินแดนไทยได้จากลึกเข้ามาในประเทศของตนเอง ผลกระทบโดยตรงคือ:
* การทำลายล้างปืนใหญ่ของไทย: ที่ตั้งปืนใหญ่อัตตาจรที่ทันสมัยที่สุดของไทย เช่น CAESAR (ระยะยิง ~40 กม.) จะกลายเป็นเป้านิ่งที่ถูกทำลายได้อย่างง่ายดายจากระยะที่ปลอดภัย โดยที่ปืนใหญ่ไทยไม่สามารถยิงตอบโต้ได้ถึง
* อัมพาตแนวหลัง: กองบัญชาการภาคสนาม, คลังสรรพาวุธ, เส้นทางส่งกำลังบำรุงหลัก และแม้กระทั่งฐานทัพบางแห่งในภาคตะวันออก จะตกอยู่ภายใต้อำนาจการยิงของ PHL-03 ทำให้การบัญชาการรบและการสนับสนุนของไทยเป็นไปอย่างยากลำบาก
2. ปืนใหญ่อัตตาจรล้อยาง SH-1 155mm:
เมื่อปืนใหญ่ของไทยถูกกดดันหรือทำลายโดย PHL-03 แล้ว ปืนใหญ่ SH-1 ของกัมพูชา (ระยะยิง ~50 กม.) จะสามารถเคลื่อนเข้ามาครองพื้นที่การยิงในแนวหน้าได้อย่างอิสระ เพื่อยิงสนับสนุนทหารราบและทำลายที่มั่นของไทยในระยะกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภัยคุกคามซ้ำเติม: เฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-9
ในขณะที่แนวหลังของไทยกำลังถูกถล่มด้วยจรวด หน่วยรบในแนวหน้าจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามทางอากาศในระดับต่ำจากเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-9 ซึ่งในสถานการณ์ที่ไทยไม่มีเครื่องบินขับไล่ขึ้นสกัดกั้น จะทำให้ Z-9 สามารถปฏิบัติการได้อย่างเสรีในภารกิจ:
* ล่าทำลายยานเกราะ: ใช้จรวดต่อสู้รถถังโจมตีรถถังและรถหุ้มเกราะของไทย
* สนับสนุนทหารราบ: ยิงกดดันและทำลายที่มั่นของทหารไทย เปิดทางให้ทหารราบกัมพูชาเข้าโจมตี
บทสรุปของผลการปะทะ
ภายใต้สมการรบนี้ กองทัพไทยจะถูกบีบให้เข้าสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด:
* ถูกบังคับให้ตั้งรับและถอยร่น: เมื่อไม่สามารถต่อกรกับอำนาจการยิงระยะไกลได้ ทางเลือกเดียวของหน่วยรบไทยคือการถอยร่นออกจากรัศมีการทำลายล้าง ซึ่งหมายถึงการยอมเสียพื้นที่และที่มั่นตามแนวชายแดน
* ประสบความสูญเสียอย่างหนัก: การถูกโจมตีจากทั้งระยะไกล (จรวด) ระยะกลาง (ปืนใหญ่) และระยะใกล้ (เฮลิคอปเตอร์และทหารราบ) โดยไม่มีการสนับสนุนทางอากาศในการตอบโต้ จะนำไปสู่การสูญเสียกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในอัตราที่สูงมาก
* ชัยชนะเป็นไปได้ยากมาก: การจะพลิกสถานการณ์กลับมาชนะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยภายใต้เงื่อนไขนี้ ชัยชนะของฝ่ายไทยจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชามีกระสุนจรวดและอาวุธหมดลงเสียก่อน ซึ่งก่อนจะถึงจุดนั้นฝ่ายไทยน่าจะเสียหายหนักจนไม่สามารถรุกกลับได้แล้ว
โดยสรุป สถานการณ์สมมตินี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญอย่างยิ่งยวดของ "อำนาจทางอากาศในการโจมตี" และ "อำนาจการยิงตอบโต้ระยะไกล" ในสงครามสมัยใหม่ การขาดซึ่งขีดความสามารถเหล่านี้ไป จะทำให้กองทัพที่เคยได้เปรียบกว่า กลับกลายเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบและอาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในสนามรบได้อย่างรวดเร็ว
การได้เปรียบของเรา เกิดจากการที่เรายังคงดูเป็นอารยะชน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้