🎸🔥 กีต้าร์ไฟฟ้า Fender American Professional II – Fender 70th Anniversary ✨🎶


    กีต้าร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องดนตรีที่พัฒนามาอย่างยาวนาน ในวาระเฉลิมฉลอง Fender 70th Anniversary ทาง Fender จึงสร้างรุ่นพิเศษที่ผสานความคลาสสิกของ Stratocaster เข้ากับเทคโนโลยีปัจจุบันอย่างลงตัว หนึ่งในนั้นคือ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender American Professional II ที่ตั้งใจออกแบบให้เล่นง่าย เสียงดี และเชื่อถือได้ทั้งในการซ้อม การอัดเสียง และการขึ้นเวทีจริง

โครงสร้างและวัสดุของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender American Professional II
     รุ่นนี้ใช้ไม้ Alder ทำบอดี้ ให้โทนเสียงสมดุล ย่านกลางชัด ฟังเด่นทั้งในวงและงานอัดเสียง เคลือบ Gloss Urethane เงางาม ทนต่อรอยขีดข่วน และดูแลรักษาง่าย คอไม้ Maple ทรง Deep “C” จับถนัดมือ เคลือบด้านหลังแบบ Satin จึงลื่นมือ ส่วน หัวกีต้าร์ เคลือบเงาเพื่อความสวยงาม


     fingerboard ทำจาก Rosewood มีรัศมีความโค้ง 9.5 นิ้ว จำนวน 22 เฟรต ใช้เฟรตขนาด Narrow Tall กดง่าย ดันสายลื่น inlay แบบจุดสีขาวมองตำแหน่งชัด ส่วน nut ทำจากกระดูก กว้าง 42.8 มม. ช่วยถ่ายทอดการสั่นของสายได้ดี


     การยึดคอแบบ 4 สกรู พร้อมระบบ Micro‑Tilt ช่วยปรับมุมคอได้ละเอียด ตั้ง Action ให้เหมาะกับสไตล์การเล่นได้ง่าย โดยไม่ต้องถอดคอ


ระบบปิกอัพและโทนเสียงใน Fender 70th Anniversary รุ่นพิเศษ
     ติดตั้งปิกอัพ single‑coil รุ่น V‑Mod II ครบทั้งสามตำแหน่ง ให้โทนใส คม แต่ไม่บาดหู สวิตช์ 5 ทางให้เสียงมาตรฐานของ Strat ได้ครบ และมีสวิตช์ Push‑Push ที่ปุ่ม Tone เพื่อเพิ่มปิกอัพคอเข้าไป จึงเลือกเสียงแบบ Bridge+Neck หรือ Bridge+Middle+Neck ได้ โทนจะหนาและกว้างขึ้น เหมาะกับ rhythm และท่อนฮุคที่ต้องการน้ำเสียงเด่นชัด


     โดยรวมเสียงมีสมดุลที่ดี ย่านกลางชัด ย่านสูงใส รายละเอียดโน้ตครบ เล่นได้ตั้งแต่ blues, pop, rock ไปจนถึง fusion การปรับโทนทำได้ละเอียดด้วยปุ่ม Tone ทั้งสองตำแหน่ง จึงตั้งคาแรคเตอร์เสียงให้เข้ากับบทเพลงได้ง่าย

ความสะดวกในการใช้งานและการออกแบบเพื่อมืออาชีพ
     สะพานสาย (bridge) แบบ 2‑Point Synchronized Tremolo โยกได้ลื่นไหล และเมื่อปล่อยคันโยก ระบบจะคืนสู่ตำแหน่งเดิมอย่างแม่นยำ ใช้ cold‑rolled steel block เพื่อเพิ่มความนิ่งของเสียงและ sustain ส่วนคันโยก (tremolo arm) เป็นแบบ pop‑in ใส่‑ถอดสะดวก ไม่คลอน

     ฮาร์ดแวร์ชุบนิกเกิล/โครเมียม แข็งแรงและดูเรียบหรู พร้อม pickguard แบบ 4 ชั้นลายเต่า และปุ่ม Tone กับสวิตช์สีครีมโทนวินเทจ ที่เข้ากันกับภาพรวมของตัวเครื่อง

     ลูกบิดตั้งสาย (tuning machines) แบบ Locking ระดับ Deluxe ช่วยให้การตั้งสายคงที่ แม้เล่นหนักหรือใช้คันโยกบ่อย


จุดเด่นเฉพาะตัวของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender American Professional II
- ปิกอัพ V-Mod II รายละเอียดโน้ตชัด ตอบสนองต่อแรงมือดี
- คอทรง Deep “C” เล่นสบาย ทั้งคอร์ดและ solo
- คันโยก 2 จุด โยกได้เป็นธรรมชาติและคืนตำแหน่งแม่นยำ
- วัสดุและงานประกอบระดับมืออาชีพ ใช้งานทน
- neck plate สลัก 70th Anniversary บอกสถานะรุ่นพิเศษชัดเจน

เสียงและฟีลลิ่งในการเล่นของ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender American Professional II
     รุ่นนี้ให้สมดุลเสียงดี ได้ยินชัดในวงดนตรี โดยไม่ทับหรือกลบเสียงของเครื่องดนตรีอื่น คอร์ดเปิดใสเป็นประกาย แต่ยังคงมีเนื้อเสียงพอสำหรับ solo ปิกอัพ V‑Mod II ตอบสนองแรงมือได้ละเอียด เมื่อลองไล่จากน้ำหนักมือเบาไปหนัก โทนจะเปลี่ยนตามอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้ควบคุมอารมณ์เพลงได้ง่าย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เครดิต : Peach Guitars


     กล่องแข็งแบบ Deluxe Molded Hardshell สี Inca Silver บุภายในสีน้ำเงิน ช่วยปกป้องตัวกีต้าร์ระหว่างเดินทาง เหมาะกับงานทัวร์และสตูดิโอที่ต้องขนย้ายบ่อย

เหตุผลที่คุ้มค่าสำหรับนักดนตรี
     รุ่น American Professional II ไม่ได้ให้เพียงหน้าตาที่สวยและแบรนด์ดัง แต่ให้คุณภาพเสียงที่สม่ำเสมอ การใช้งานที่เชื่อถือได้ และรายละเอียดยิบย่อยที่คิดมาเพื่อผู้เล่นจริง ๆ เช่น ปุ่ม Push‑Push ระบบ Micro‑Tilt และลูกบิดล็อกสาย ทั้งหมดนี้ทำให้ดูแลรักษาง่าย ตั้งค่าเร็ว และพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์

เหมาะกับใครและแนวเพลงไหน
     เหมาะกับทั้งผู้เล่นที่เริ่มจริงจังและมืออาชีพที่ต้องการ Strat ที่พร้อมใช้งานทันที แนวเพลงที่เข้ากันได้ดี ได้แก่ Blues, Pop, Rock, Funk และ Fusion ผู้ที่ต้องการเสียงใส คมชัด แต่ยังควบคุมความหนาบางของโทนได้ง่าย จะชอบบุคลิกของรุ่นนี้เป็นพิเศษ

     กีต้าร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ไม่ได้โดดเด่นเพียงแค่ดีไซน์หรือชื่อเสียงของ Fender เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงพลังแห่งนวัตกรรมและความคลาสสิกในเวลาเดียวกัน หากคุณกำลังมองหาเครื่องดนตรีที่จะอยู่กับคุณไปได้ทุกยุคทุกแนวเพลง รุ่นนี้คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม

การตั้งค่าเสียงและตำแหน่งปิกอัพ 5 ทาง
- ตำแหน่งที่ 1 (Bridge): โทนแหลมคม เสียงพุ่งและได้ยินชัดใน mix เหมาะกับ rhythm ที่ต้องการความคมชัดและการดีดสายแบบเน้น attack ให้คมชัด
- ตำแหน่งที่ 2 (Bridge+Middle): ให้โทน “quack” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Strat เหมาะกับ funk และ pop
- ตำแหน่งที่ 3 (Middle): โทนสมดุล คอร์ดชัด ไม่บาง
- ตำแหน่งที่ 4 (Middle+Neck): โทนใสโปร่งแบบ glassy เหมาะกับ arpeggio
- ตำแหน่งที่ 5 (Neck): โทนอุ่น หนา เหมาะกับ blues และ solo แนวเมโลดิก

ทิปการปรับโทน: ปุ่ม Volume ควบคุมไดนามิกได้มาก ลองตั้งไว้ประมาณ 7–8 เพื่อ headroom แล้วหมุนขึ้นเมื่อจะ solo ปุ่ม Tone 1 (คอ/กลาง) ใช้ลดความแหลมสำหรับโทนคลีน ส่วน Tone 2 (บริดจ์) ช่วยให้เสียงบริดจ์ไม่บาดหูเวลาเล่น rhythm หรือ solo ยาว ๆ

เทคนิคใช้ Push-Push Tone Control
- ทำหน้าที่: เปิดให้ปิกอัพคอทำงานร่วมในตำแหน่งสวิตช์ที่ปกติไม่มีปิกอัพคอ (เช่น Bridge หรือ Bridge+Middle)
- คอมโบที่ได้:
     - Bridge → Bridge+Neck (โทนใกล้ Tele)
     - Bridge+Middle → Bridge+Middle+Neck (ทั้งสามปิกอัพพร้อมกัน)
- ผลของเสียง: โทนหนาขึ้น มีเนื้อเสียงมากขึ้น และกระจายเสียงกว้างขึ้น
- ใช้เมื่อ: rhythm แนว country, alt-rock หรือท่อน hook ที่ต้องการความเด่นชัด

คำแนะนำการตั้งค่า: เมื่อเปิดให้ปิกอัพคอทำงานร่วมกับตำแหน่งสวิตช์ที่ใช้อยู่ ให้ลดปุ่ม Tone ของปิกอัพ Bridge ลงเล็กน้อย (ประมาณ 5–6) เพื่อให้น้ำเสียงในย่านความถี่สูงนุ่มขึ้น ไม่แหลมจัด

คู่แอมป์/เอฟเฟคที่เข้ากันกับ กีต้าร์ไฟฟ้า Fender American Professional II
     ถ้าต้องการโทนคลีนใสและไดนามิกสูง ให้ใช้กับแอมป์โทนอเมริกัน (เช่น Blackface) หากอยากได้ความหนาและการบีบอัดตามธรรมชาติ ให้ใช้กับแอมป์โทนอังกฤษ (British) เอฟเฟคที่เข้ากัน ได้แก่ Overdrive ที่ดันย่านกลางให้โน้ตเด่นขึ้น Compressor สำหรับ rhythm คลีนแนว funk และ country Delay แบบดิจิทัลสั้น ๆ ราว 300–350 มิลลิวินาทีเพื่อเพิ่มมิติ และ Chorus/Vibrato โดยตั้ง Rate ช้าและ Depth ต่ำ เพื่อคงความใสของ single‑coil

การตั้งต้นที่แนะนำ: ตั้ง Overdrive ที่ Gain ต่ำ–กลาง แล้วเพิ่ม Level สูงกว่าระดับเดิมเล็กน้อย; ตั้ง Delay ให้ผสมสัญญาณประมาณ 15–20% และ Feedback ต่ำ; ตั้ง Chorus ที่ Rate ช้าและ Depth ต่ำ เพื่อรักษาความใสและความชัดของโทน ไม่ให้เสียงพร่าหรือขุ่น

การดูแลรักษาและการปรับตั้ง
     หลังเล่นทุกครั้งให้เช็ดสายและชิ้นส่วนโลหะด้วยผ้านุ่ม เพื่อลดคราบเหงื่อและป้องกันสนิม ขนาดสาย .009–.042 ให้สัมผัสเบา เล่นสบาย หากต้องการโทนแน่นขึ้นสามารถเปลี่ยนเป็น .010 แล้วปรับ intonation และความสูงสาย (action) เล็กน้อย fingerboard ควรทำความสะอาดเป็นระยะ และใช้น้ำมันดูแลไม้เพียงเล็กน้อยปีละไม่กี่ครั้ง

     สำหรับสะพานสาย (bridge) แบบสองจุด ให้ตรวจแรงตึงสปริงด้านหลังให้สมดุลกับแรงสาย หากต้องการให้การลอยของสะพานสายลดลง (เสถียรมากขึ้นเวลาโยก) ให้เพิ่มสปริงหรือขันสกรูที่เพลตด้านหลังเข้าเล็กน้อย ค่าตั้งต้นที่แนะนำ: ความโค้งคอ (neck relief) ประมาณ 0.25 มม. ที่เฟรต 7–9 ความสูงสายที่เฟรต 12 ประมาณ 1.6–2.0 มม. และตั้ง intonation ให้ตรงโดยเทียบกับฮาร์โมนิกที่เฟรต 12

สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่

🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee

สินค้าอื่นๆ ของ WolverineX

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  การเล่นดนตรี เครื่องดนตรี กีต้าร์ Amplifier บทความ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่