ถ้าไหนๆจะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและคานอำนาจนักการเมือง ที่ใครๆก็รู้ว่า พวกนี้แหละตัวร้ายที่แท้จริง
ขอเสนอการแก้ไข 3 จุดสำคัญ
1.แต่งตั้งคณะสภาประมุขแห่งชาติ
เป็นสภาที่ทำหน้าที่แทนประมุของประเทศ ทำการแต่งตั้งเท่านั้น มีอำนาจในการ
แต่งตั้งองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องกับความโปร่งใส ตรวจสอบเช่น สตง ปปช ศาลรัฐธรรมนูญ และมีอำนาจบริหารงานด้านความมั่นคง
2.แยกส่วนความมั่นคงออกจากสภาผู้แทนฯ
ดึงการจัดการและบริหารงานความมั่นคงให้อยู่ภายใต้อำนาจสภาประมุขแห่งชาติโดยตรง รวถึง การจะแก้กฎหมายใดๆที่เกี่ยวข้องกับส่วนความมั่นคง ต้องได้รับความยินยอมจากสภาประมุขแห่งขาติด้วย
หน้าที่เพื่ออธิปไตย และการบูรณาการชติไทยให้เป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกัน อันจะแยกมิได้
เช่นกรณีไทย-กัมพูชา สภาประมุขแห่งชาติ เข้าจัดการโดยตรง ประสานงานร่วมกับรัฐบาล โดยยึดหลักแนวคิดว่า ประมุข คือ จอมทัพไทย
3.สภาประมุขต้องสามารถตรวสอบได้
แน่นอนว่า แม้โดยนิยาม นี่คือสภาที่โปร่งใส และทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แต่ คน คือปัญหาสำคัญ ดังนั้น สภาประมุขอันทรงเกียรติสูงสุด ต้องสามารถถูกตรววจสอบได้ โดย สภาผู้แทนฯ และ วุฒิสภา สามารถยื่นมติด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ยื่นฎีกาได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ถอดถอนโดยตรง
4.อำนาจสูงสุดยังเป็นของประชาชน
อำนาจการบริหารและนิติบัญญัติ มาจากสภาผูแทนฯเช่นเดิม บริหารงานทุกอย่างยกเว้นงานด้านกลามโหมและความมั่นคงที่ถอดออกจากสภาผู้แทนฯ โดยมีสิทธิ์บริหารโดยใช้งบประมาณที่เหลือจากที่สภาประมุขนำไปใช้ในส่วนงานกลาโหมและความมั่นคงแล้ว
5.วุฒิสภา ที่มาจากประชาชนและอิสระ
ประชาชน เลือกตัวแทน"กรรมการคัดสรรวุฒิสภา" ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งจะไปรวมกับสภาประมุขแห่งชาติในสัดส่วน 1:1 ทั้งหมดทำหน้าที่คัดสรร"ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา" ที่มาจากกลุ่มอาชีพต่างๆ เปิดอภิปรายในการ"รับรอง"และเฟ้นหาจนเหลือ 200 คนเป็นสมาชิกวุฒิสภาในที่สุด
ดังนั้น สภาสูง จะไม่เป็นเครื่องมือของนักการเมืองภรรคใดพรรคหนึ่งอีกต่อไป แก้ปัญหาเผด็จการคุมสภาสิทธิ์ขาด
ทั้งหมดนี้ เพื่อความสง่บสุขของชาติ และ ปวงชนชาวไทย
เพื่อทำนุบำรุง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ให้รอดพ้นเงื้อมมือของนักการเมือง
แก้ไข รัฐธรรมนูญ แบบนี้ดีมั้ย
ขอเสนอการแก้ไข 3 จุดสำคัญ
1.แต่งตั้งคณะสภาประมุขแห่งชาติ
เป็นสภาที่ทำหน้าที่แทนประมุของประเทศ ทำการแต่งตั้งเท่านั้น มีอำนาจในการ
แต่งตั้งองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องกับความโปร่งใส ตรวจสอบเช่น สตง ปปช ศาลรัฐธรรมนูญ และมีอำนาจบริหารงานด้านความมั่นคง
2.แยกส่วนความมั่นคงออกจากสภาผู้แทนฯ
ดึงการจัดการและบริหารงานความมั่นคงให้อยู่ภายใต้อำนาจสภาประมุขแห่งชาติโดยตรง รวถึง การจะแก้กฎหมายใดๆที่เกี่ยวข้องกับส่วนความมั่นคง ต้องได้รับความยินยอมจากสภาประมุขแห่งขาติด้วย
หน้าที่เพื่ออธิปไตย และการบูรณาการชติไทยให้เป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกัน อันจะแยกมิได้
เช่นกรณีไทย-กัมพูชา สภาประมุขแห่งชาติ เข้าจัดการโดยตรง ประสานงานร่วมกับรัฐบาล โดยยึดหลักแนวคิดว่า ประมุข คือ จอมทัพไทย
3.สภาประมุขต้องสามารถตรวสอบได้
แน่นอนว่า แม้โดยนิยาม นี่คือสภาที่โปร่งใส และทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง แต่ คน คือปัญหาสำคัญ ดังนั้น สภาประมุขอันทรงเกียรติสูงสุด ต้องสามารถถูกตรววจสอบได้ โดย สภาผู้แทนฯ และ วุฒิสภา สามารถยื่นมติด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ยื่นฎีกาได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ถอดถอนโดยตรง
4.อำนาจสูงสุดยังเป็นของประชาชน
อำนาจการบริหารและนิติบัญญัติ มาจากสภาผูแทนฯเช่นเดิม บริหารงานทุกอย่างยกเว้นงานด้านกลามโหมและความมั่นคงที่ถอดออกจากสภาผู้แทนฯ โดยมีสิทธิ์บริหารโดยใช้งบประมาณที่เหลือจากที่สภาประมุขนำไปใช้ในส่วนงานกลาโหมและความมั่นคงแล้ว
5.วุฒิสภา ที่มาจากประชาชนและอิสระ
ประชาชน เลือกตัวแทน"กรรมการคัดสรรวุฒิสภา" ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งจะไปรวมกับสภาประมุขแห่งชาติในสัดส่วน 1:1 ทั้งหมดทำหน้าที่คัดสรร"ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา" ที่มาจากกลุ่มอาชีพต่างๆ เปิดอภิปรายในการ"รับรอง"และเฟ้นหาจนเหลือ 200 คนเป็นสมาชิกวุฒิสภาในที่สุด
ดังนั้น สภาสูง จะไม่เป็นเครื่องมือของนักการเมืองภรรคใดพรรคหนึ่งอีกต่อไป แก้ปัญหาเผด็จการคุมสภาสิทธิ์ขาด
ทั้งหมดนี้ เพื่อความสง่บสุขของชาติ และ ปวงชนชาวไทย
เพื่อทำนุบำรุง สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ให้รอดพ้นเงื้อมมือของนักการเมือง