สุดสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม ได้เวลาหนังสยองอย่าง Black Phone 2 เปิดตัวรับก่อนวัน Halloween ประกบด้วย Good Fortune ที่มาพร้อม Keanu Reeves กับบทบาทเทวดาจอมยุ่ง และ After the Hunt หนัง Psychological Thriller รวมดาราจาก MGM อีกเรื่อง
Black Phone 2 (Universal)
ได้เวลาขนพองสยองเกล้ารับเดือนตุลาคมสำหรับสายหลอนซ่อนวิญญาณ 2 ภาคต่อของภาพยนตร์สยองขวัญม้ามืดยอดฮิตเมื่อปี 2023 ที่ยังได้ทีมงานเดิมทั้ง Scott Derrickson กลับมารับหน้าที่ผู้กำกับ ไหนจะได้ Ethan Hawke, Mason Thames, Madeleine McGrawม Jeremy Davies กลับมารับบทเดิมกันทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับพล็อตเรื่องของ Black Phone 2 อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้สูงว่าพล็อตเรื่องจะเน้นไปที่เรื่องราวของ Gwen และพลังของเธอในการติดต่อกับวิญญาณและนิมิตต่างๆ ซึ่งเธอจะต้องใช้พลังนี้เพื่อช่วยชีวิตเด็กคนอื่นที่ตกเป็นเหยื่อ หรือเพื่อสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับ The Grabber และแม้ว่า The Grabber จะเสียชีวิตไปแล้วในภาคแรก แต่ความน่ากลัวของเขาอาจยังคงอยู่ อาจจะมาในรูปแบบของวิญญาณหรือความทรงจำที่หลอกหลอน รวมทั้งโทรศัพท์สีดำที่ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างคนเป็นกับคนตายอาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในภาคนี้ อาจมีการเปิดเผยที่มาของโทรศัพท์หรือความลับที่ซ่อนอยู่
ซึ่งจากรอบทดลองฉาย มีข่าวหลุดออกมาว่าผลตอบรับอยู่ในระดับที่ดีมากๆๆ จน Universal มั่นใจว่าจะมีหนังสยองทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำในปีนี้อีก 1 เรื่อง โดยจากการคะวิจารณ์ล่าสุด Black Phone 2 ทำคะแนน Tomatometer ไป 79% จาก 58 รีวิว และ Metascore = 73 จาก 10 รีวิว จัดว่าทำคะแนนได้ค่อนข้างดีสำหรับหนังสยองขวัญ โดยคาดว่า Black Phone 2 จะทำรายได้รอบพรีวิววันพฤหัสประมาณ 2-3 ล้านเหรียญ และทำรายได้เปิดตัวราว 22-27 ล้านเหรียญ
Tron: Ares (Disney)
ยังคงฟุบสำหรับแวดวงหนังไซไฟที่ดูเหมือนหลังจากเริ่มตกต่ำในปี 2019 ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาได้อีกเลย ซึ่งแฟรนไชส์ Tron ที่ปกติก็ดูจะเป็นหนังเฉพาะกลุ่มอยู่แล้วก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก โดย Tron: Ares ทำรายได้เปิดตัวไป 33.2 ล้านเหรียญต่ำกว่า Tron: Legacy ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้เกิน 10 ปีอีก ไม่เพียงเท่านั้นคะแนนฝั่งคนดูคือ CinemaScore นั้นยังได้เกรดเพียง B+ ซึ่งถือว่าแย่สำหรับหนัง Blockbuster เพราะเกรดนี้ก็เท่ากับว่าคนดูทั่วไปไม่ได้ชื่นชอบจนบอกต่อๆกันว่าต้องไปดู และประมาณว่า Tron: Ares จะทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 2 นี้ไปอีกราว 12-15 ล้าน รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 55-60 ล้านเหรียญ
Good Fortune (Lionsgate)
ยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหาหนังฮิตของตัวเองให้ได้ซักเรื่องในปีนี้สำหรับ Lionsgate หลังจาก The Long Walk สามารถทำกำไรได้เป็นเรื่องแรกสำเร็จไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงคิวของภาพยนตร์ฟอร์มเล็กที่ชื่อดาราไม่เล็ก นอกจาก Seth Rogen และ Sandra Oh ที่รู้จักกันดีในหนัง Comedy แล้ว Good Fortune ยังได้ Keanu Reeves ที่พักบทบาท John Wick ยอดนักบู๊มาแปลงร่างเป็น Gabriel เทวดาชั้นผู้น้อยที่ได้รับมอบหมายหน้าที่อันน่าเบื่อหน่าย คือการป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เขาเบื่อหน่ายกับภารกิจเดิมๆ และอยากพิสูจน์ตัวเองให้หัวหน้า (รับบทโดย Sandra Oh) เห็นว่าเขาสามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นได้ ในขณะเดียวกัน เขาได้พบกับ Arj (รับบทโดย Aziz Ansari) ชายหนุ่มผู้ทำงานหลายอย่างและกำลังประสบปัญหาชีวิตอย่างหนักจนต้องนอนในรถยนต์ กาเบรียลเห็นว่า Arj กำลังจะสิ้นหวัง จึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต
Good Fortune ทำคะแนนวิจารณ์ได้ในระดับที่ดีพอใช้ Tomatometer = 85% จาก 39 รีวิว และ Metascore = 70 จาก 17 รีวิว ไม่แน่ว่ามันอาจจะกลายเป็นหนังที่ทำกำไรให้ Lionsgate ในปีนี้แบบไม่คาดหมายมาก่อนก็ได้ โดยคาดว่า Good Fortune จะทำรายได้รอบพรีวิวประมาณ 1 ล้านเหรียญ และรายได้เปิดตัวราว 7-10 ล้านเหรียญ
One Battle After Another (WB)
ยังคงมีหนังอยู่ใน Top 5 แทบทุกสัปดาห์สำหรับ WB โดยสุดสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 4 ของ OBAA แล้ว คาดว่าหนังจะยังสามารถยืนระยะได้ดีอยู่และจะทำเงินไปอีก 4-5.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมขึ้นไปที่ 62-64 ล้านเหรียญ ใกล้เคียงที่จะแซง Killers of the Flower Moon ได้สำเร็จ
Roofman (Paramount)
หน้าหนังอาจจะเล็กแต่ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่ดีก็ทำให้ Roofman ยืนระยะทำรายได้มาตลอดสัปาดห์เปิดตัว และแม้ว่าจะได้เกรด CinemaScore = B+ ซึ่งถือว่าต่ำสำหรับหนังสายดราม่าและมุ่งไปทางคุณภาพ แต่ดูเหมือนว่าเกรดคราวนี้มันจะผิดพลาดคล้ายๆกับเกรดของ Jurassic World Rebirth เพราะ Roofman เป็นหนังเพียง 1 ใน 2 เรื่องจาก Top 10 เมื่อวันอังคารที่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ซึ่งเป็นวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในประเทศแคนาดา แสดงให้เห็นว่ามันมีความแข็งแกร่งและมีพลังบอกเล่าปากต่อปากหรือ WoM ในหมู่คนดูทั่วไป โดยคาดว่า Roofman จะทำรายได่ในสุดสัปดาห์ที่ 2 ไปอีก 4-5 ล้านเหรียญ และรายได้รวมประมาณ 15-17 ล้านเหรียญ
สายหลอนซ่อนวิญญาณ Black Phone 2 สยองเปิด 22-27 ล้าน Tron: Ares กับสัปดาห์ต่อมา 12-15 ล้าน คีนูพา Good Fortune 7-10 ล้าน
Black Phone 2 (Universal)
ได้เวลาขนพองสยองเกล้ารับเดือนตุลาคมสำหรับสายหลอนซ่อนวิญญาณ 2 ภาคต่อของภาพยนตร์สยองขวัญม้ามืดยอดฮิตเมื่อปี 2023 ที่ยังได้ทีมงานเดิมทั้ง Scott Derrickson กลับมารับหน้าที่ผู้กำกับ ไหนจะได้ Ethan Hawke, Mason Thames, Madeleine McGrawม Jeremy Davies กลับมารับบทเดิมกันทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับพล็อตเรื่องของ Black Phone 2 อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้สูงว่าพล็อตเรื่องจะเน้นไปที่เรื่องราวของ Gwen และพลังของเธอในการติดต่อกับวิญญาณและนิมิตต่างๆ ซึ่งเธอจะต้องใช้พลังนี้เพื่อช่วยชีวิตเด็กคนอื่นที่ตกเป็นเหยื่อ หรือเพื่อสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับ The Grabber และแม้ว่า The Grabber จะเสียชีวิตไปแล้วในภาคแรก แต่ความน่ากลัวของเขาอาจยังคงอยู่ อาจจะมาในรูปแบบของวิญญาณหรือความทรงจำที่หลอกหลอน รวมทั้งโทรศัพท์สีดำที่ใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างคนเป็นกับคนตายอาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในภาคนี้ อาจมีการเปิดเผยที่มาของโทรศัพท์หรือความลับที่ซ่อนอยู่
ซึ่งจากรอบทดลองฉาย มีข่าวหลุดออกมาว่าผลตอบรับอยู่ในระดับที่ดีมากๆๆ จน Universal มั่นใจว่าจะมีหนังสยองทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำในปีนี้อีก 1 เรื่อง โดยจากการคะวิจารณ์ล่าสุด Black Phone 2 ทำคะแนน Tomatometer ไป 79% จาก 58 รีวิว และ Metascore = 73 จาก 10 รีวิว จัดว่าทำคะแนนได้ค่อนข้างดีสำหรับหนังสยองขวัญ โดยคาดว่า Black Phone 2 จะทำรายได้รอบพรีวิววันพฤหัสประมาณ 2-3 ล้านเหรียญ และทำรายได้เปิดตัวราว 22-27 ล้านเหรียญ
Tron: Ares (Disney)
ยังคงฟุบสำหรับแวดวงหนังไซไฟที่ดูเหมือนหลังจากเริ่มตกต่ำในปี 2019 ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาได้อีกเลย ซึ่งแฟรนไชส์ Tron ที่ปกติก็ดูจะเป็นหนังเฉพาะกลุ่มอยู่แล้วก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก โดย Tron: Ares ทำรายได้เปิดตัวไป 33.2 ล้านเหรียญต่ำกว่า Tron: Legacy ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้เกิน 10 ปีอีก ไม่เพียงเท่านั้นคะแนนฝั่งคนดูคือ CinemaScore นั้นยังได้เกรดเพียง B+ ซึ่งถือว่าแย่สำหรับหนัง Blockbuster เพราะเกรดนี้ก็เท่ากับว่าคนดูทั่วไปไม่ได้ชื่นชอบจนบอกต่อๆกันว่าต้องไปดู และประมาณว่า Tron: Ares จะทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 2 นี้ไปอีกราว 12-15 ล้าน รายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 55-60 ล้านเหรียญ
Good Fortune (Lionsgate)
ยังคงพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะหาหนังฮิตของตัวเองให้ได้ซักเรื่องในปีนี้สำหรับ Lionsgate หลังจาก The Long Walk สามารถทำกำไรได้เป็นเรื่องแรกสำเร็จไปแล้ว คราวนี้ก็มาถึงคิวของภาพยนตร์ฟอร์มเล็กที่ชื่อดาราไม่เล็ก นอกจาก Seth Rogen และ Sandra Oh ที่รู้จักกันดีในหนัง Comedy แล้ว Good Fortune ยังได้ Keanu Reeves ที่พักบทบาท John Wick ยอดนักบู๊มาแปลงร่างเป็น Gabriel เทวดาชั้นผู้น้อยที่ได้รับมอบหมายหน้าที่อันน่าเบื่อหน่าย คือการป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เขาเบื่อหน่ายกับภารกิจเดิมๆ และอยากพิสูจน์ตัวเองให้หัวหน้า (รับบทโดย Sandra Oh) เห็นว่าเขาสามารถทำอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นได้ ในขณะเดียวกัน เขาได้พบกับ Arj (รับบทโดย Aziz Ansari) ชายหนุ่มผู้ทำงานหลายอย่างและกำลังประสบปัญหาชีวิตอย่างหนักจนต้องนอนในรถยนต์ กาเบรียลเห็นว่า Arj กำลังจะสิ้นหวัง จึงตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต
Good Fortune ทำคะแนนวิจารณ์ได้ในระดับที่ดีพอใช้ Tomatometer = 85% จาก 39 รีวิว และ Metascore = 70 จาก 17 รีวิว ไม่แน่ว่ามันอาจจะกลายเป็นหนังที่ทำกำไรให้ Lionsgate ในปีนี้แบบไม่คาดหมายมาก่อนก็ได้ โดยคาดว่า Good Fortune จะทำรายได้รอบพรีวิวประมาณ 1 ล้านเหรียญ และรายได้เปิดตัวราว 7-10 ล้านเหรียญ
One Battle After Another (WB)
ยังคงมีหนังอยู่ใน Top 5 แทบทุกสัปดาห์สำหรับ WB โดยสุดสัปดาห์นี้ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 4 ของ OBAA แล้ว คาดว่าหนังจะยังสามารถยืนระยะได้ดีอยู่และจะทำเงินไปอีก 4-5.5 ล้านเหรียญ รายได้รวมขึ้นไปที่ 62-64 ล้านเหรียญ ใกล้เคียงที่จะแซง Killers of the Flower Moon ได้สำเร็จ
Roofman (Paramount)
หน้าหนังอาจจะเล็กแต่ด้วยคะแนนวิจารณ์ที่ดีก็ทำให้ Roofman ยืนระยะทำรายได้มาตลอดสัปาดห์เปิดตัว และแม้ว่าจะได้เกรด CinemaScore = B+ ซึ่งถือว่าต่ำสำหรับหนังสายดราม่าและมุ่งไปทางคุณภาพ แต่ดูเหมือนว่าเกรดคราวนี้มันจะผิดพลาดคล้ายๆกับเกรดของ Jurassic World Rebirth เพราะ Roofman เป็นหนังเพียง 1 ใน 2 เรื่องจาก Top 10 เมื่อวันอังคารที่สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นจากวันจันทร์ซึ่งเป็นวันหยุดขอบคุณพระเจ้าในประเทศแคนาดา แสดงให้เห็นว่ามันมีความแข็งแกร่งและมีพลังบอกเล่าปากต่อปากหรือ WoM ในหมู่คนดูทั่วไป โดยคาดว่า Roofman จะทำรายได่ในสุดสัปดาห์ที่ 2 ไปอีก 4-5 ล้านเหรียญ และรายได้รวมประมาณ 15-17 ล้านเหรียญ