Dassault Balzac V เมื่อฝรั่งเศสสร้างเครื่องบิน VTOL

Dassault Balzac V เมื่อฝรั่งเศสสร้างเครื่องบิน VTOL
ดาโซ บัลซัค V (Dassault Balzac V)
บทความนี้เล่าเรื่องราวการกำเนิดและจุดจบของเครื่องบินทดสอบ ดาโซ บัลซัค V ซึ่งเป็นความพยายามของฝรั่งเศสในการพัฒนาเครื่องบินรบที่สามารถขึ้น-ลงทางดิ่งได้ (VTOL) ในช่วงสงครามเย็น

1. ความจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์: เหตุผลเบื้องหลังการพัฒนา
ในช่วงสงครามเย็น ความกังวลเรื่องการโจมตีทางอากาศแบบไม่ทันตั้งตัว (Decapitation Strike) ที่จะทำลายรันเวย์ของกองทัพอากาศได้ในพริบตา ทำให้ฝรั่งเศสต้องหาทางแก้ปัญหาเพื่อความอยู่รอดทางยุทธศาสตร์ จึงเกิดแนวคิดการสร้างเครื่องบินรบที่บินขึ้นจากที่ใดก็ได้โดยไม่ต้องพึ่งพารันเวย์ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1960 กองทัพอากาศฝรั่งเศสจึงออกข้อกำหนดให้มีการพัฒนาเครื่องบินรบความเร็วเหนือเสียงแบบ VTOL เพื่อมาทดแทนเครื่องบินรบ มิราจ III E

2. การออกแบบและนวัตกรรม
บริษัท ดาโซ อาเวียซียง และ ซูด-อาวิอาซียง ร่วมกันพัฒนาเครื่องบินทดสอบ บัลซัค V ขึ้นมาเพื่อพิสูจน์แนวคิดและระบบ VTOL ก่อนจะพัฒนาไปสู่เครื่องบินรบจริง มิราจ III V ที่มีความเร็วเหนือเสียง 2 มัค ตัวเครื่องถูกดัดแปลงมาจากต้นแบบ มิราจ III แต่มีจุดเด่นสำคัญคือ:

ระบบเครื่องยนต์แบบผสม: ใช้เครื่องยนต์รวม 9 ตัว แบ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนไปข้างหน้า 1 ตัว (Bristol Siddeley Orpheus 3) และเครื่องยนต์ยกตัวในแนวดิ่งอีก 8 ตัว (Rolls-Royce RB 108) ซึ่งติดตั้งเป็นคู่รอบจุดศูนย์ถ่วง

โครงสร้างที่ดัดแปลง: ลำตัวเครื่องบินถูกขยายให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับเครื่องยนต์ยกตัวและท่อไอพ่น

นวัตกรรมล้ำสมัย: บัลซัค V เป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยี ระบบควบคุมการบินไฟฟ้า (electrical flight controls) และเป็นเครื่องบินลำแรกที่สามารถ ส่งข้อมูลการบินแบบเรียลไทม์ สู่ภาคพื้นดินด้วยระบบเทเลเมตรี (telemetering)

3. ความสำเร็จในช่วงแรก
การทดสอบเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จเกินคาด โดยเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นคือ:

12 ตุลาคม 1962: การบินลอยตัวนิ่งอยู่กับที่ (Hovering) ครั้งแรก

18 ตุลาคม 1962: การบินลอยตัวอิสระ (Free hover) ได้สำเร็จ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดถึงสองเดือน

18 มีนาคม 1963: บินเปลี่ยนผ่านจาก VTOL สู่การบินในแนวระดับได้สำเร็จ

29 มีนาคม 1963: ทำการบินครบวงจร ตั้งแต่บินขึ้น ลง และกลับมาลงจอดทางดิ่งได้อย่างสมบูรณ์

นักบินทดสอบระบุว่าการควบคุมเครื่องในโหมดลอยตัวนั้นง่ายดาย ทำให้โครงการก้าวหน้าไปสู่ขั้นตอนที่ท้าทายมากขึ้น

4. โศกนาฏกรรมและจุดจบของโครงการ
นวัตกรรมต้องแลกมาด้วยความเสี่ยง และโครงการนี้ต้องเผชิญกับอุบัติเหตุร้ายแรงถึงสองครั้ง:

อุบัติเหตุครั้งที่ 1 (10 มกราคม 1964): เครื่องสูญเสียการควบคุมระหว่างการบินลอยตัวที่ระดับต่ำเนื่องจากระบบรักษาเสถียรภาพอัตโนมัติทำงานเกินขีดจำกัด ทำให้นักบิน ฌาคส์ ปินิเยร์ เสียชีวิต แต่ตัวเครื่องบินได้รับความเสียหายไม่มากนัก

อุบัติเหตุครั้งที่ 2 (8 กันยายน 1965): เครื่องยนต์ทั้ง 9 ตัวดับขณะทำการบินลอยตัวที่ระดับต่ำ คาดว่าเกิดจากภาวะเชื้อเพลิงขาดแคลน ทำให้นักบิน นาวาอากาศตรี พี. อี. นีล ดีดตัวไม่สำเร็จและเสียชีวิต อุบัติเหตุครั้งนี้ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้โครงการต้องยุติลง

5. สรุปบทเรียนและมรดกที่ทิ้งไว้
โครงการบัลซัค V ถูกยุติลงในปี ค.ศ. 1966 ด้วยหลายสาเหตุ เช่น ความซับซ้อนทางเทคนิค, ข้อจำกัดด้านสมรรถนะ (น้ำหนักบรรทุกและพิสัยทำการต่ำ), และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูง แต่แม้จะล้มเหลว โครงการนี้ก็ได้มอบข้อมูลอันมีค่าที่นำไปสู่การพัฒนา มิราจ III V และเป็นบทเรียนสำคัญให้กับวงการการบินเกี่ยวกับความท้าทายของการออกแบบเครื่องบิน VTOL

ดาโซ บัลซัค V คือสัญลักษณ์ของความกล้าหาญในการบุกเบิกทางเทคโนโลยีที่ต้องแลกมาด้วยความสูญเสีย ซึ่งทิ้งมรดกแห่งความรู้ไว้ให้กับการบินในยุคต่อมา

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่