ทริปนี้ เป็นอีกทริปในความตั้งใจ นานแล้ว และ Build ตัวเอง พร้อมศึกษาการเดินทางจาก clip video หลาย ๆ influencer
ในทริปนี้ เราเดินทาง โดย รถไฟ ขบวนที่ 37 กรุงเทพ - สุไหง โกลก เป็นรถด่วนขบวนพิเศษ ออกเวลา 16:15
เพื่อไม่ลำบากจนเกินไป ก็จองล่วงหน้า เป็นที่นั่งชั้น 2 ปรับอากาศ เตียงล่าง ( เราอยาก ดูวิวหน้าต่าง )
สุไหง โกลก เป็น อำเภอหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส ติดกับชายแดนไทย - มาเลเซีย ที่อำเภอ รันเตาปันยัง ( Rantual Panyang )
ที่สุไหงโกลก นี้ทำให้นึกถึงภาพยนต์ในอดีตเรื่องหนึ่งของผู้กำกับคุณภาพ ยุทธนา มุกดาสนิท ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ ได้รับรางวัล ภาพยนต์นานาชาติ ที่ฮาวาย
ปี 2528 และ กวาดรางวัลตุ๊กตาทอง ( ในสมัยนั้น ) จนหนังเรื่องอื่น แทบแข่งไม่ได้ กับเพลง ผีเสื้อ และ ดอกไม้ ที่ได้รางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม
" เกิดสงครามพันครั้ง เด็กก็ยังสวยงาม เป็นเพียงแค่สงคราม ความเดียงสาเท่าเดิม "
จากสถานีรถไฟ เราเดินออกมา ข้ามฝั่งตรงข้าม เข้าโรงแรมที่พัก ห่างจากสถานีรถไฟ เพียว 350 เมตร ( ก็ไม่แนะนำให้มาก แล้วแต่ท่านผู้อ่านสะดวก เพราะโรงแรมที่สุไหงโกลกมีเยอะ ระดับราคา และคุณภาพต่างกัน แต่ถ้าให้เป็นแนวทางก็จะมี โรงแรมเก็นติ้ง อันนี้ใกล้มาก คุณภาพ ดี ใกล้ตลาด และมีแหล่งบันเทิงให้เที่ยวชม ต่อมาก็ โรงแรมเมอริน อันนี้ก็คือโรงแรมที่เราพัก แอร์ + พัดลม เปิดเย็นฉ่ำ ถึงหนาว ใกล้กับศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ ฝั่งตรงข้ามมีของกินมากมาย โรงแรมอินเตอร์ ไกลหน่อย ราคาถูก คุณภาพดี มีอาหารเช้า )
โปรแกรมที่ 1 Graphite และ สวนสาธารณะ ในสุไหงโกลก
ถ้าเดินกลับมาตั้งต้นที่สถานีรถไฟ ก็เดินไปทางขวา ก็จะเจอสวนรถไฟ ชื่อ สวนภูมินทร์ ยาวตลอด 400 เมตร มีรางรถไฟอยู่กลางสวน ติดกับสนามกีฬาสุไหงโกลก และ เทศบาล มีถนน คั่นและก็ต่อไปก็เป็น Graphite ของสวนเทศบาลสุไหงโกลก อีก ประมาณ 300 เมตร มีทางรถไฟตรงกลางต่อเนื่องมา
ด้านหลังเป็นโรงพยาบาลสุไหงโกลก เหนื่อยร้อนก็แวะ อเมซอนได้ หน้าโรงพบาบาล
แล้วเดินมาก็จะเจอ ป้าย สุดเขตแดนสยาม ฝั่งตรงข้ามเป็น สวนสิรินธร
ข้าง ๆ สวนก็เป็น ด่านพรมแดน สุไหงโกลก ใครมีพาสปอร์ต พกไป เดินเข้าไป ข้ามไปมาเลเซียได้เลย สวนสิรินธร เป็นสวนมีรั้วเลียบทางรถไฟข้ามไปมาเลเซีย แต่ปัจจุบันปิดใช้งาน และติดกับแม่น้ำโกลก ข้างในมีสถานีอุทกศาสตร์ มีหลักเขต ไทย - มาเลเซีย รอบสวนก็ประมาณ 700 เมตร
ใครอยากมาออกกำลังกาย วิ่ง ก็ได้อยู่
โปรแกรมที่ 2 กินอาหารชื่อดัง ครั้งนี้ โชคไม่ดี ร้านส่วนใหญ่ปิดหมด เพราะ ส่วนใหญ่ขายตอนเช้า ร้านแรก ก็อ้วนบักกุตเด๋ น่ากิน สมราคา
ร้านที่2 ข้าวหมกไก่จิระพันธ์ อันนี้คนตรึม ขายข้าวหมกไก่ และ ข้าวแกง
ส่วนร้านอาหารพื้นเมือง ก็ต้องไปหน้า มัสยิดกลาง หรือมัสยิด อะห์มาดิยะห์
ส่วนนี่เป็นอาคารเก่าระหว่างทางเดินไป ร้านข้าวหมกไก่
โปรแกรมที่ 3 ในทริปนี้ คือ ไหว้เจ้า
จากโรงแรม เราเดินมาทาง ซ้าย ประมาณ 200 เมตร มาศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะต้องไป
จบทริปสั้น ๆ เดินทางไกล ๆ ขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพ ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 38
แนะนำสำหรับคนที่อยากมาสุไหงโกลก ที่ไม่อยากนั่งรถไฟนาน ๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวแบบ Budget ที่ไม่อยากนั่งรถไฟนาน ๆ ท่านอาจจะนั่งรถไฟมาที่หาดใหญ่ แล้ว จับรถวินไปลง สถานีขนส่งหาดใหญ่ 60 บาท ก็ได้
หรือนักท่องเที่ยวที่อยากดื่มด่ำกับการเดินทางแต่เวลาน้อย ก็อาจจะเลือก นั่งรถไฟขบวนที่ 37 ยาว ๆ ส่วนขากลับ นั่งรถไฟไปลงหาดใหญ่ แล้วขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพ ก็ได้ หรือ พอจะจ่ายตังได้ก็ เครื่องบิน จากสถานีรถไฟ ไปสนามบิน จะมีรถมินิบัสไป ราคา 60 บาท แต่ถ้าโชคร้าย รถไม่วิ่งหรือ รถหมด ก็เหมา แท๊กซี่ 240 บาท
EP5 : เที่ยวไปคนเดียว - สุไหงโกลก ใต้สุดชายแดนไทย
ในทริปนี้ เราเดินทาง โดย รถไฟ ขบวนที่ 37 กรุงเทพ - สุไหง โกลก เป็นรถด่วนขบวนพิเศษ ออกเวลา 16:15
เพื่อไม่ลำบากจนเกินไป ก็จองล่วงหน้า เป็นที่นั่งชั้น 2 ปรับอากาศ เตียงล่าง ( เราอยาก ดูวิวหน้าต่าง )
สุไหง โกลก เป็น อำเภอหนึ่งในจังหวัดนราธิวาส ติดกับชายแดนไทย - มาเลเซีย ที่อำเภอ รันเตาปันยัง ( Rantual Panyang )
ที่สุไหงโกลก นี้ทำให้นึกถึงภาพยนต์ในอดีตเรื่องหนึ่งของผู้กำกับคุณภาพ ยุทธนา มุกดาสนิท ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ ได้รับรางวัล ภาพยนต์นานาชาติ ที่ฮาวาย
ปี 2528 และ กวาดรางวัลตุ๊กตาทอง ( ในสมัยนั้น ) จนหนังเรื่องอื่น แทบแข่งไม่ได้ กับเพลง ผีเสื้อ และ ดอกไม้ ที่ได้รางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม
" เกิดสงครามพันครั้ง เด็กก็ยังสวยงาม เป็นเพียงแค่สงคราม ความเดียงสาเท่าเดิม "
จากสถานีรถไฟ เราเดินออกมา ข้ามฝั่งตรงข้าม เข้าโรงแรมที่พัก ห่างจากสถานีรถไฟ เพียว 350 เมตร ( ก็ไม่แนะนำให้มาก แล้วแต่ท่านผู้อ่านสะดวก เพราะโรงแรมที่สุไหงโกลกมีเยอะ ระดับราคา และคุณภาพต่างกัน แต่ถ้าให้เป็นแนวทางก็จะมี โรงแรมเก็นติ้ง อันนี้ใกล้มาก คุณภาพ ดี ใกล้ตลาด และมีแหล่งบันเทิงให้เที่ยวชม ต่อมาก็ โรงแรมเมอริน อันนี้ก็คือโรงแรมที่เราพัก แอร์ + พัดลม เปิดเย็นฉ่ำ ถึงหนาว ใกล้กับศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ ฝั่งตรงข้ามมีของกินมากมาย โรงแรมอินเตอร์ ไกลหน่อย ราคาถูก คุณภาพดี มีอาหารเช้า )
โปรแกรมที่ 1 Graphite และ สวนสาธารณะ ในสุไหงโกลก
ถ้าเดินกลับมาตั้งต้นที่สถานีรถไฟ ก็เดินไปทางขวา ก็จะเจอสวนรถไฟ ชื่อ สวนภูมินทร์ ยาวตลอด 400 เมตร มีรางรถไฟอยู่กลางสวน ติดกับสนามกีฬาสุไหงโกลก และ เทศบาล มีถนน คั่นและก็ต่อไปก็เป็น Graphite ของสวนเทศบาลสุไหงโกลก อีก ประมาณ 300 เมตร มีทางรถไฟตรงกลางต่อเนื่องมา
ด้านหลังเป็นโรงพยาบาลสุไหงโกลก เหนื่อยร้อนก็แวะ อเมซอนได้ หน้าโรงพบาบาล
แล้วเดินมาก็จะเจอ ป้าย สุดเขตแดนสยาม ฝั่งตรงข้ามเป็น สวนสิรินธร
ข้าง ๆ สวนก็เป็น ด่านพรมแดน สุไหงโกลก ใครมีพาสปอร์ต พกไป เดินเข้าไป ข้ามไปมาเลเซียได้เลย สวนสิรินธร เป็นสวนมีรั้วเลียบทางรถไฟข้ามไปมาเลเซีย แต่ปัจจุบันปิดใช้งาน และติดกับแม่น้ำโกลก ข้างในมีสถานีอุทกศาสตร์ มีหลักเขต ไทย - มาเลเซีย รอบสวนก็ประมาณ 700 เมตร
ใครอยากมาออกกำลังกาย วิ่ง ก็ได้อยู่
โปรแกรมที่ 2 กินอาหารชื่อดัง ครั้งนี้ โชคไม่ดี ร้านส่วนใหญ่ปิดหมด เพราะ ส่วนใหญ่ขายตอนเช้า ร้านแรก ก็อ้วนบักกุตเด๋ น่ากิน สมราคา
ร้านที่2 ข้าวหมกไก่จิระพันธ์ อันนี้คนตรึม ขายข้าวหมกไก่ และ ข้าวแกง
ส่วนร้านอาหารพื้นเมือง ก็ต้องไปหน้า มัสยิดกลาง หรือมัสยิด อะห์มาดิยะห์
ส่วนนี่เป็นอาคารเก่าระหว่างทางเดินไป ร้านข้าวหมกไก่
โปรแกรมที่ 3 ในทริปนี้ คือ ไหว้เจ้า
จากโรงแรม เราเดินมาทาง ซ้าย ประมาณ 200 เมตร มาศาลเจ้าแม่โต๊ะโม๊ะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่จะต้องไป
จบทริปสั้น ๆ เดินทางไกล ๆ ขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพ ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 38
แนะนำสำหรับคนที่อยากมาสุไหงโกลก ที่ไม่อยากนั่งรถไฟนาน ๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวแบบ Budget ที่ไม่อยากนั่งรถไฟนาน ๆ ท่านอาจจะนั่งรถไฟมาที่หาดใหญ่ แล้ว จับรถวินไปลง สถานีขนส่งหาดใหญ่ 60 บาท ก็ได้
หรือนักท่องเที่ยวที่อยากดื่มด่ำกับการเดินทางแต่เวลาน้อย ก็อาจจะเลือก นั่งรถไฟขบวนที่ 37 ยาว ๆ ส่วนขากลับ นั่งรถไฟไปลงหาดใหญ่ แล้วขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพ ก็ได้ หรือ พอจะจ่ายตังได้ก็ เครื่องบิน จากสถานีรถไฟ ไปสนามบิน จะมีรถมินิบัสไป ราคา 60 บาท แต่ถ้าโชคร้าย รถไม่วิ่งหรือ รถหมด ก็เหมา แท๊กซี่ 240 บาท