คือ ถ้าพบว่าเราเป็นโรคอะไร เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคเก๊าท์ ก่อนจะตัดสินใจทำประกันสุขภาพ
ก็จะทำให้โรคที่ตรวจเจอและเป็นอยู่ก่อนการทำประกันสุขภาพ ไม่อยู่ในข่ายได้รับการคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์
ไม่ทราบว่า ความเข้าใจนี้ของผมเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพล่าช้า ถูกต้องหรือไม่ครับ
ส่วนตัวยังรู้สึกว่าสุขภาพดีอยู่ ยังไม่เป็นความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ และคิดว่าเอาอยู่ แม้ว่าตอนนี้จะอายุ 55 ปีแล้วก็ตาม
คิดว่า ถ้าเราหมั่นรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็จะยืดอายุการเป็นโรคประจำตัวของคนแก่ ออกไปให้ได้นานที่สุด มั่นใจว่าเราจะไม่เป็นโรคเหล่านี้ก่อนอายุ 65 ปีแน่นอน ก็เลยยังไม่อยากทำประกันสุขภาพ
รอไปก่อน เอาไว้ใกล้อายุจะ maximum สำหรับการทำประกันสุขภาพ เช่นอายุ 59 ปีแล้วถึงค่อยเริ่มไปทำประกันสุขภาพ จะได้ประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันในช่วงนี้ไปก่อน
ระหว่างนี้ยังทำงานบริษัท ยังมีประกันสุขภาพพนักงานกลุ่มของบริษัท ที่พอจะใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบ OPD ครั้งละ 1,800 บาท จำกัดที่ 30 ครั้งต่อปี IPD ค่าห้องวันละ 3,500 บาท ได้สูงสุด 365 วัน ค่าห้องไอซียู 7,000 บาท/วัน ได้สูงสุด 15 วัน ค่าเยี่ยมไข้ของแพทย์วันละ 1,500 บาท สูงสุด 365 วัน เป็นต้น
ส่วนตัวมองว่า ประกันสุขภาพของบริษัท มันก็น่าจะพอครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้ว
ไว้ตอนใกล้จะเกษียณอายุ ค่อยไปทำประกันสุขภาพ จ่ายเอง ดีกว่ามั้ย จะได้ประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันสุขภาพช่วง 4 ปีนี้ไปได้หลายแสนเลย
ข้อเสียของการทำประกันสุขภาพล่าช้า คือ .......
ก็จะทำให้โรคที่ตรวจเจอและเป็นอยู่ก่อนการทำประกันสุขภาพ ไม่อยู่ในข่ายได้รับการคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์
ไม่ทราบว่า ความเข้าใจนี้ของผมเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพล่าช้า ถูกต้องหรือไม่ครับ
ส่วนตัวยังรู้สึกว่าสุขภาพดีอยู่ ยังไม่เป็นความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ และคิดว่าเอาอยู่ แม้ว่าตอนนี้จะอายุ 55 ปีแล้วก็ตาม
คิดว่า ถ้าเราหมั่นรักษาสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็จะยืดอายุการเป็นโรคประจำตัวของคนแก่ ออกไปให้ได้นานที่สุด มั่นใจว่าเราจะไม่เป็นโรคเหล่านี้ก่อนอายุ 65 ปีแน่นอน ก็เลยยังไม่อยากทำประกันสุขภาพ
รอไปก่อน เอาไว้ใกล้อายุจะ maximum สำหรับการทำประกันสุขภาพ เช่นอายุ 59 ปีแล้วถึงค่อยเริ่มไปทำประกันสุขภาพ จะได้ประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันในช่วงนี้ไปก่อน
ระหว่างนี้ยังทำงานบริษัท ยังมีประกันสุขภาพพนักงานกลุ่มของบริษัท ที่พอจะใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลแบบ OPD ครั้งละ 1,800 บาท จำกัดที่ 30 ครั้งต่อปี IPD ค่าห้องวันละ 3,500 บาท ได้สูงสุด 365 วัน ค่าห้องไอซียู 7,000 บาท/วัน ได้สูงสุด 15 วัน ค่าเยี่ยมไข้ของแพทย์วันละ 1,500 บาท สูงสุด 365 วัน เป็นต้น
ส่วนตัวมองว่า ประกันสุขภาพของบริษัท มันก็น่าจะพอครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่เป็นอยู่ตอนนี้แล้ว
ไว้ตอนใกล้จะเกษียณอายุ ค่อยไปทำประกันสุขภาพ จ่ายเอง ดีกว่ามั้ย จะได้ประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันสุขภาพช่วง 4 ปีนี้ไปได้หลายแสนเลย