การ์ตูนย์เรื่อง
โดราเอม่อน ตอน เรื่องราวในโลกภาพวาดของโนบิตะ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเรา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม แต่ผมไปดูวันที่ 13 ตุลาคม
รอบแรก 10.30 น. ในเครือ SF Cinema รอบนี้คนจะน้อยๆหน่อย
ไอเดียสร้างสรรค์
ใช้ “โลกของภาพวาด” เป็นฉากหลักๆเลย ทำให้เรื่องมีบรรยากาศออกแนวแฟนตาซี แปลกใหม่ดีเหมือนกัน และดึงดูดใจคนดู น่าจะได้ทุกวัยเลยแหละ
การนำภาพในจินตนาการของเด็กๆ อย่างเช่น “ถ้าเราเข้าไปอยู่ในรูปวาดได้จะเป็นยังไงบ้างหนอ?” แล้วเอามาขยายเป็นเรื่องราวยาวๆหน่อย ก็ถือว่าน่าสนใจมากๆเลยนะ
งานภาพและสีสัน
ภาพสวย สีสดใสเอามากๆ และมีความเป็นศิลปะผสมการ์ตูน ตัวละครโดราเอม่อนและเพื่อนๆ ดูมีชีวิตชีวาดีเหมือนกันนะ ตรงนี้ผมชอบมากๆ
แง่คิดและสาระ
สอดแทรกเรื่องของ “มิตรภาพ ความกล้าหาญ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์” ช่วยปลูกฝังให้เด็กๆ เห็นคุณค่าของศิลปะที่ไม่ต้องสวยงาม แต่ ใช้จินตนาการในการวาดเพื่อสื่อออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ความสนุก
มีทั้งฉากผจญภัย ตลก และ ฉากซึ้งกินใจแบบที่โดราเอม่อน ก็สามารถทำได้ดีเสมออีกเช่นเคย เด็กๆก็ดูสนุก ผู้ใหญ่อย่างผมก็ดูแล้วอบอุ่นใจมากๆครับ แต่รอบที่ผมไปดู ส่วนมากมีแต่คนใหญ่นะ เด็กเล็กๆ มีไม่กี่คนเอง สงสัยยังเช้าอยู่มั้ง...555
โครงเรื่องยังคงความเป็นสูตรสำเร็จ
ยังมีรูปแบบและกลิ่นอายความเป็นการ์ตูนโดราเอม่อนเหมือนเช่นหลายๆภาคที่ผ่านมา เช่น เริ่มต้นด้วยการเล่นสนุก ใช้ของวิเศษ แล้วหลุดเข้าไปในโลกใหม่ → เจอปัญหาใหญ่ → ต้องร่วมมือกันแก้ไข ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ที่โตมาหลายๆคนก็คงคุ้นเคยกับการ์ตูนโดราเอม่อน และคงจะเดาทางได้ไม่ยากมากนัก ใช่ไหม?
สุดท้ายนี้ผมอยากให้ครอบครัวที่มีลูกหลานชวนกันไปดูนะ ผมว่ามันอบอุ่นดีครับ
คะแนนเรื่องนี้ ผมให้ 9/10 คะแนน
สาเหตุที่หักคะแนนเพราะ หนังโดราเอม่อนเดอะมูฟวี่มักจะมีโครงเรื่องคล้ายกันตลอดครับ
แล้วใครที่ไปดูมาแล้ว เค้ามีแถมหนังสือการ์ตูนเล่มเล็กๆ เป็นตอนๆเดี่ยวกับของวิเศษในเรื่องนี้ให้อ่านเพลินๆด้วยนะครับ
[CR] รีวิว โดราเอม่อน ตอน เรื่องราวในโลกภาพวาดของโนบิตะ
รอบแรก 10.30 น. ในเครือ SF Cinema รอบนี้คนจะน้อยๆหน่อย
ไอเดียสร้างสรรค์
ใช้ “โลกของภาพวาด” เป็นฉากหลักๆเลย ทำให้เรื่องมีบรรยากาศออกแนวแฟนตาซี แปลกใหม่ดีเหมือนกัน และดึงดูดใจคนดู น่าจะได้ทุกวัยเลยแหละ
การนำภาพในจินตนาการของเด็กๆ อย่างเช่น “ถ้าเราเข้าไปอยู่ในรูปวาดได้จะเป็นยังไงบ้างหนอ?” แล้วเอามาขยายเป็นเรื่องราวยาวๆหน่อย ก็ถือว่าน่าสนใจมากๆเลยนะ
งานภาพและสีสัน
ภาพสวย สีสดใสเอามากๆ และมีความเป็นศิลปะผสมการ์ตูน ตัวละครโดราเอม่อนและเพื่อนๆ ดูมีชีวิตชีวาดีเหมือนกันนะ ตรงนี้ผมชอบมากๆ
แง่คิดและสาระ
สอดแทรกเรื่องของ “มิตรภาพ ความกล้าหาญ และการใช้ความคิดสร้างสรรค์” ช่วยปลูกฝังให้เด็กๆ เห็นคุณค่าของศิลปะที่ไม่ต้องสวยงาม แต่ ใช้จินตนาการในการวาดเพื่อสื่อออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ความสนุก
มีทั้งฉากผจญภัย ตลก และ ฉากซึ้งกินใจแบบที่โดราเอม่อน ก็สามารถทำได้ดีเสมออีกเช่นเคย เด็กๆก็ดูสนุก ผู้ใหญ่อย่างผมก็ดูแล้วอบอุ่นใจมากๆครับ แต่รอบที่ผมไปดู ส่วนมากมีแต่คนใหญ่นะ เด็กเล็กๆ มีไม่กี่คนเอง สงสัยยังเช้าอยู่มั้ง...555
โครงเรื่องยังคงความเป็นสูตรสำเร็จ
ยังมีรูปแบบและกลิ่นอายความเป็นการ์ตูนโดราเอม่อนเหมือนเช่นหลายๆภาคที่ผ่านมา เช่น เริ่มต้นด้วยการเล่นสนุก ใช้ของวิเศษ แล้วหลุดเข้าไปในโลกใหม่ → เจอปัญหาใหญ่ → ต้องร่วมมือกันแก้ไข ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ที่โตมาหลายๆคนก็คงคุ้นเคยกับการ์ตูนโดราเอม่อน และคงจะเดาทางได้ไม่ยากมากนัก ใช่ไหม?
สุดท้ายนี้ผมอยากให้ครอบครัวที่มีลูกหลานชวนกันไปดูนะ ผมว่ามันอบอุ่นดีครับ
คะแนนเรื่องนี้ ผมให้ 9/10 คะแนน
สาเหตุที่หักคะแนนเพราะ หนังโดราเอม่อนเดอะมูฟวี่มักจะมีโครงเรื่องคล้ายกันตลอดครับ
แล้วใครที่ไปดูมาแล้ว เค้ามีแถมหนังสือการ์ตูนเล่มเล็กๆ เป็นตอนๆเดี่ยวกับของวิเศษในเรื่องนี้ให้อ่านเพลินๆด้วยนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้