การเลือกประเภทบัญชีเทรดที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ตลาดด้วยความเสี่ยงต่ำ หรือมืออาชีพที่กำลังมองหาบัญชีที่มีเงื่อนไขการเทรดที่เหนือกว่า Exness มีโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณ
Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำของโลก โดดเด่นด้วยบริการอันยอดเยี่ยม ฝ่ายบริการลูกค้า และประเภทบัญชีที่หลากหลายที่เหมาะกับทุกระดับ บทความนี้มุ่งหวังที่จะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทบัญชีที่มีให้บริการ และเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณมากที่สุด
ภาพรวมบริษัท Exness
Exness ก่อตั้งขึ้นเมื่อใด?
Exness ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์อย่างรวดเร็ว ด้วยความโปร่งใสสูง แพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง และบริการที่หลากหลาย Exness ได้สร้างฐานลูกค้าทั่วโลกจำนวนมาก
หน่วยงานกำกับดูแลและใบอนุญาต
Exness มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัยและความโปร่งใส บริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง เช่น:
● FCA (Financial Conduct Authority – สหราชอาณาจักร)
● CySEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งไซปรัส)
● FSCA (สำนักงานบริการทางการเงินของแอฟริกาใต้)
เหตุใดจึงควรเลือก Exness?
● ความโปร่งใสสูง: บริษัทให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม สเปรด และเงื่อนไข
● การดำเนินการซื้อขายที่รวดเร็ว: เหมาะสำหรับนักเก็งกำไรและผู้ค้ารายวัน
● เครื่องมือนวัตกรรม เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูงและแพลตฟอร์มการซื้อขายอันทรงพลัง
● ความปลอดภัยที่เชื่อถือได้: แยกเงินของลูกค้าออกจากเงินของบริษัท ปกป้องบัญชีจากการโจมตี
Exness เสนอประเภทบัญชีอะไรบ้าง?
1. บัญชีมาตรฐาน
บัญชีมาตรฐานเป็นประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่
คุณสมบัติของมัน:
● ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
● สเปรดต่ำเริ่มต้นจาก 0.3 pips
● ฝากเงินเริ่มต้นเพียง $10
● เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากเรียนรู้ตลาดโดยไม่ต้องใช้เงินมากนัก
เหมาะกับใคร?
ผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีประสบการณ์น้อยที่ต้องการการซื้อขายที่เรียบง่ายและยืดหยุ่น
2. สแตนดาร์ดเซ็นต์
บัญชีนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ค้ารายใหม่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ตลาดด้วยทุนเพียงเล็กน้อย
คุณสมบัติของมัน:
● อนุญาตให้ซื้อขายแบบเซ็นต์ล็อต (ขนาดการซื้อขายเล็กมาก)
● เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขาย
● เงื่อนไขเดียวกับบัญชีมาตรฐาน แต่มีทุนน้อยกว่า
เหมาะกับใคร?
ผู้เริ่มต้นที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ตลาดในรูปแบบปฏิบัติจริงโดยไม่ต้องเสี่ยงมากเกินไป
3. บัญชีมืออาชีพ
ประเภทบัญชีนี้มีเงื่อนไขการซื้อขายขั้นสูงและมีสามประเภทหลัก:
3.1. บัญชีสเปรดดิบ
คุณสมบัติของมัน:
● สเปรดเริ่มต้นจาก 0 pips
● ค่าคอมมิชชั่นคงที่แบบแข่งขัน
● เหมาะสำหรับนักเก็งกำไรที่ต้องการซื้อขายอย่างรวดเร็ว
3.2. บัญชีศูนย์
คุณสมบัติของมัน:
● สเปรด 0 บนเครื่องมือ 95%
● คณะกรรมการจะต้องชัดเจนและเฉพาะเจาะจง
● เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการความโปร่งใสด้านราคา
3.3. บัญชี Pro
คุณสมบัติของมัน:
● ทำธุรกรรมได้ทันที
● สเปรดต่ำเริ่มต้นจาก 0.1 pip
● ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
เหมาะกับใคร?
ผู้ค้ามืออาชีพต้องมีการดำเนินการซื้อขายที่รวดเร็วและเครื่องมือวิเคราะห์ที่แม่นยำ
เปรียบเทียบประเภทบัญชีที่ Exness
การเปรียบเทียบต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างประเภทบัญชีที่แตกต่างกัน:
● ระดับประสบการณ์: บัญชี Standard และ Standard Cent ต้องใช้ประสบการณ์เพียงเล็กน้อย บัญชี Pro เหมาะสำหรับทั้งผู้ค้าระดับกลางและมืออาชีพ ส่วนบัญชี Raw Spread และ Zero เหมาะสำหรับผู้ค้ามืออาชีพ
● เลเวอเรจ: บัญชีทั้งหมด 5 ประเภท สูงสุด 1:2000
● ค่าคอมมิชชั่น: บัญชี Standard, Standard Cent และ Pro ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ส่วนบัญชี Raw Spread และ Zero มีค่าคอมมิชชั่นคงที่
● สเปรด: บัญชี Standard และ Standard Cent เริ่มต้นที่ 0.3 pips, บัญชี Raw Spread เริ่มต้นที่ 0 pips, บัญชี Pro เริ่มต้นที่ 0.1 pips, บัญชี Zero Spread คือ 0 pips
● เงินฝากขั้นต่ำ: บัญชี Standard และ Standard Cent เริ่มต้นที่ $10 บัญชี Raw Spread, Zero และ Pro เริ่มต้นที่ $200
จะเลือกบัญชีที่เหมาะกับคุณอย่างไร?
ขึ้นอยู่กับระดับของคุณ:
● หากคุณเป็นมือใหม่: เริ่มต้นด้วยบัญชี Standard หรือ Standard Cent เพื่อทำความคุ้นเคยกับตลาดด้วยความเสี่ยงที่น้อยที่สุด
● หากคุณมีประสบการณ์ปานกลาง: บัญชีมาตรฐานหรือ Pro ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
● หากคุณเป็นมืออาชีพ: เลือกระหว่าง Raw Spread หรือ Zero ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณ
ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณ:
● สำหรับการเก็งกำไรหรือการเก็งกำไรระยะสั้น: ขอแนะนำ Raw Spread หรือ Zero สำหรับต้นทุนการดำเนินการที่ต่ำ
● สำหรับการซื้อขายระยะยาว: บัญชี Pro มีค่าสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชัน
ตามทุน:
● ทุนน้อย : Standard Cent หรือ Standard.
● ทุนขนาดใหญ่: บัญชีมืออาชีพเช่น Raw Spread หรือ Zero Pro
ฟีเจอร์ของ Exness สำหรับทุกบัญชีมีอะไรบ้าง?
ไม่ว่าคุณจะเลือกประเภทบัญชีใด คุณจะได้รับประโยชน์จาก:
● อัตราเลเวอเรจที่ยืดหยุ่น: สูงสุด 1:ไม่จำกัด ช่วยให้คุณสามารถคูณทุนของคุณเพื่อให้ได้กำไรที่มากขึ้น
● ฝากและถอนเงินได้ทันที: ไม่มีความล่าช้า ด้วยหลากหลายช่องทาง ทั้งการโอนเงินผ่านธนาคาร บัตรธนาคารทุกประเภท อีแบงก์กิ้ง และคริปโทเคอร์เรนซี การถอนเงินทำได้ทันทีและอัตโนมัติ
● การสนับสนุนลูกค้าหลายภาษา: ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านทางแชทสดและอีเมล
● เครื่องมือวิเคราะห์ฟรี เช่น ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและรายงานรายวัน
● สภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัย: ด้วยระดับการปกป้องเงินทุนของลูกค้าสูง
จะเริ่มต้นการซื้อขายกับ Exness ได้อย่างไร?
1. เยี่ยมชมเว็บไซต์: คลิกที่ที่อยู่เว็บไซต์ Exness เพื่อเริ่มต้นการเดินทางของคุณ
2. สร้างบัญชี: ลงทะเบียนด้วยอีเมลของคุณ
3. เลือกประเภทบัญชี: ตามเป้าหมายและประสบการณ์ของคุณ
4. ยืนยันบัญชี: อัปโหลดเอกสารที่จำเป็นเพื่อยืนยันตัวตนของคุณ
5. เริ่มต้นการซื้อขาย: เลือกตราสารทางการเงินที่เหมาะกับคุณ
เริ่มต้นกับ Exness ทันทีและรับผลประโยชน์จากสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ฉันสามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีหลังจากการลงทะเบียนได้หรือไม่?
คุณไม่สามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีได้ แต่สามารถเปิดบัญชีใหม่ด้วยประเภทบัญชีอื่นได้ Exness อนุญาตให้คุณเปิดบัญชีได้หลายบัญชีสำหรับแต่ละประเภทในพื้นที่ส่วนตัว 1 พื้นที่
2. ฉันสามารถลองใช้บัญชีประเภทใดได้บ้าง?
เริ่มต้นใช้งานบัญชีทดลองใช้งานเพื่อทดลองใช้บัญชีและกลยุทธ์การซื้อขายทุกประเภท
จากการวิเคราะห์ข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าโลกของการเทรดเต็มไปด้วยโอกาสมากมาย เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ให้เต็มที่ คุณสามารถเปิดบัญชีได้หลากหลายประเภทที่ Exness และใช้แต่ละบัญชีสำหรับกลยุทธ์การเทรดที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้บัญชี Standard เพื่อทดลองเทรดต้นทุนต่ำ ในขณะที่คุณสามารถใช้บัญชี Raw Spread, Pro หรือ Zero เพื่อการเก็งกำไรระยะสั้น (scalping) ที่รวดเร็ว หรือเทรดระยะยาวที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ข้อดีของการมีบัญชีมากกว่าหนึ่งบัญชี
ความหลากหลายของกลยุทธ์
ใช้บัญชีหนึ่งสำหรับการซื้อขายรายวันและอีกบัญชีหนึ่งสำหรับการซื้อขายระยะยาว
ทดสอบกลยุทธ์ใหม่โดยไม่กระทบต่อการดำเนินการซื้อขายหลักของคุณ
การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิผล
แบ่งเงินทุนออกเป็นหลายบัญชีเพื่อลดความเสี่ยง
ใช้ประโยชน์จากประเภทบัญชีแต่ละประเภทเพื่อสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนและกำไร
เพิ่มความยืดหยุ่น
ใช้ประโยชน์จากบัญชีทดลองใช้เพื่อทดสอบกลยุทธ์ใหม่ๆ
การซื้อขายในขนาดที่แตกต่างกัน (จาก Cent ถึง Pro) ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด
ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม
ประเมินผลลัพธ์กลยุทธ์ของคุณผ่านการคำนวณที่แตกต่างกัน
มุ่งเน้นไปที่บัญชีที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่คุณ
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ Exness ก็มีเครื่องมือและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมาย เปิดบัญชีวันนี้และค้นพบประเภทบัญชีที่เหมาะกับกลยุทธ์ของคุณ
ประเภทบัญชี Exness ปี 2025 และประเภทบัญชีใดที่เหมาะกับคุณ?
Exness เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ชั้นนำของโลก โดดเด่นด้วยบริการอันยอดเยี่ยม ฝ่ายบริการลูกค้า และประเภทบัญชีที่หลากหลายที่เหมาะกับทุกระดับ บทความนี้มุ่งหวังที่จะช่วยให้คุณเข้าใจประเภทบัญชีที่มีให้บริการ และเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสมกับเป้าหมายของคุณมากที่สุด
ภาพรวมบริษัท Exness
Exness ก่อตั้งขึ้นเมื่อใด?
Exness ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์อย่างรวดเร็ว ด้วยความโปร่งใสสูง แพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง และบริการที่หลากหลาย Exness ได้สร้างฐานลูกค้าทั่วโลกจำนวนมาก
หน่วยงานกำกับดูแลและใบอนุญาต
Exness มีชื่อเสียงในด้านความปลอดภัยและความโปร่งใส บริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง เช่น:
● FCA (Financial Conduct Authority – สหราชอาณาจักร)
● CySEC (สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งไซปรัส)
● FSCA (สำนักงานบริการทางการเงินของแอฟริกาใต้)
เหตุใดจึงควรเลือก Exness?
● ความโปร่งใสสูง: บริษัทให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับค่าธรรมเนียม สเปรด และเงื่อนไข
● การดำเนินการซื้อขายที่รวดเร็ว: เหมาะสำหรับนักเก็งกำไรและผู้ค้ารายวัน
● เครื่องมือนวัตกรรม เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูงและแพลตฟอร์มการซื้อขายอันทรงพลัง
● ความปลอดภัยที่เชื่อถือได้: แยกเงินของลูกค้าออกจากเงินของบริษัท ปกป้องบัญชีจากการโจมตี
Exness เสนอประเภทบัญชีอะไรบ้าง?
1. บัญชีมาตรฐาน
บัญชีมาตรฐานเป็นประเภทบัญชีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่
คุณสมบัติของมัน:
● ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
● สเปรดต่ำเริ่มต้นจาก 0.3 pips
● ฝากเงินเริ่มต้นเพียง $10
● เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากเรียนรู้ตลาดโดยไม่ต้องใช้เงินมากนัก
เหมาะกับใคร?
ผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีประสบการณ์น้อยที่ต้องการการซื้อขายที่เรียบง่ายและยืดหยุ่น
2. สแตนดาร์ดเซ็นต์
บัญชีนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้ค้ารายใหม่ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ตลาดด้วยทุนเพียงเล็กน้อย
คุณสมบัติของมัน:
● อนุญาตให้ซื้อขายแบบเซ็นต์ล็อต (ขนาดการซื้อขายเล็กมาก)
● เหมาะสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การซื้อขาย
● เงื่อนไขเดียวกับบัญชีมาตรฐาน แต่มีทุนน้อยกว่า
เหมาะกับใคร?
ผู้เริ่มต้นที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ตลาดในรูปแบบปฏิบัติจริงโดยไม่ต้องเสี่ยงมากเกินไป
3. บัญชีมืออาชีพ
ประเภทบัญชีนี้มีเงื่อนไขการซื้อขายขั้นสูงและมีสามประเภทหลัก:
3.1. บัญชีสเปรดดิบ
คุณสมบัติของมัน:
● สเปรดเริ่มต้นจาก 0 pips
● ค่าคอมมิชชั่นคงที่แบบแข่งขัน
● เหมาะสำหรับนักเก็งกำไรที่ต้องการซื้อขายอย่างรวดเร็ว
3.2. บัญชีศูนย์
คุณสมบัติของมัน:
● สเปรด 0 บนเครื่องมือ 95%
● คณะกรรมการจะต้องชัดเจนและเฉพาะเจาะจง
● เหมาะสำหรับมืออาชีพที่ต้องการความโปร่งใสด้านราคา
3.3. บัญชี Pro
คุณสมบัติของมัน:
● ทำธุรกรรมได้ทันที
● สเปรดต่ำเริ่มต้นจาก 0.1 pip
● ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
เหมาะกับใคร?
ผู้ค้ามืออาชีพต้องมีการดำเนินการซื้อขายที่รวดเร็วและเครื่องมือวิเคราะห์ที่แม่นยำ
เปรียบเทียบประเภทบัญชีที่ Exness
การเปรียบเทียบต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างประเภทบัญชีที่แตกต่างกัน:
● ระดับประสบการณ์: บัญชี Standard และ Standard Cent ต้องใช้ประสบการณ์เพียงเล็กน้อย บัญชี Pro เหมาะสำหรับทั้งผู้ค้าระดับกลางและมืออาชีพ ส่วนบัญชี Raw Spread และ Zero เหมาะสำหรับผู้ค้ามืออาชีพ
● เลเวอเรจ: บัญชีทั้งหมด 5 ประเภท สูงสุด 1:2000
● ค่าคอมมิชชั่น: บัญชี Standard, Standard Cent และ Pro ไม่มีค่าคอมมิชชั่น ส่วนบัญชี Raw Spread และ Zero มีค่าคอมมิชชั่นคงที่
● สเปรด: บัญชี Standard และ Standard Cent เริ่มต้นที่ 0.3 pips, บัญชี Raw Spread เริ่มต้นที่ 0 pips, บัญชี Pro เริ่มต้นที่ 0.1 pips, บัญชี Zero Spread คือ 0 pips
● เงินฝากขั้นต่ำ: บัญชี Standard และ Standard Cent เริ่มต้นที่ $10 บัญชี Raw Spread, Zero และ Pro เริ่มต้นที่ $200
จะเลือกบัญชีที่เหมาะกับคุณอย่างไร?
ขึ้นอยู่กับระดับของคุณ:
● หากคุณเป็นมือใหม่: เริ่มต้นด้วยบัญชี Standard หรือ Standard Cent เพื่อทำความคุ้นเคยกับตลาดด้วยความเสี่ยงที่น้อยที่สุด
● หากคุณมีประสบการณ์ปานกลาง: บัญชีมาตรฐานหรือ Pro ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
● หากคุณเป็นมืออาชีพ: เลือกระหว่าง Raw Spread หรือ Zero ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณ
ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของคุณ:
● สำหรับการเก็งกำไรหรือการเก็งกำไรระยะสั้น: ขอแนะนำ Raw Spread หรือ Zero สำหรับต้นทุนการดำเนินการที่ต่ำ
● สำหรับการซื้อขายระยะยาว: บัญชี Pro มีค่าสเปรดต่ำและไม่มีค่าคอมมิชชัน
ตามทุน:
● ทุนน้อย : Standard Cent หรือ Standard.
● ทุนขนาดใหญ่: บัญชีมืออาชีพเช่น Raw Spread หรือ Zero Pro
ฟีเจอร์ของ Exness สำหรับทุกบัญชีมีอะไรบ้าง?
ไม่ว่าคุณจะเลือกประเภทบัญชีใด คุณจะได้รับประโยชน์จาก:
● อัตราเลเวอเรจที่ยืดหยุ่น: สูงสุด 1:ไม่จำกัด ช่วยให้คุณสามารถคูณทุนของคุณเพื่อให้ได้กำไรที่มากขึ้น
● ฝากและถอนเงินได้ทันที: ไม่มีความล่าช้า ด้วยหลากหลายช่องทาง ทั้งการโอนเงินผ่านธนาคาร บัตรธนาคารทุกประเภท อีแบงก์กิ้ง และคริปโทเคอร์เรนซี การถอนเงินทำได้ทันทีและอัตโนมัติ
● การสนับสนุนลูกค้าหลายภาษา: ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านทางแชทสดและอีเมล
● เครื่องมือวิเคราะห์ฟรี เช่น ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและรายงานรายวัน
● สภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัย: ด้วยระดับการปกป้องเงินทุนของลูกค้าสูง
จะเริ่มต้นการซื้อขายกับ Exness ได้อย่างไร?
1. เยี่ยมชมเว็บไซต์: คลิกที่ที่อยู่เว็บไซต์ Exness เพื่อเริ่มต้นการเดินทางของคุณ
2. สร้างบัญชี: ลงทะเบียนด้วยอีเมลของคุณ
3. เลือกประเภทบัญชี: ตามเป้าหมายและประสบการณ์ของคุณ
4. ยืนยันบัญชี: อัปโหลดเอกสารที่จำเป็นเพื่อยืนยันตัวตนของคุณ
5. เริ่มต้นการซื้อขาย: เลือกตราสารทางการเงินที่เหมาะกับคุณ
เริ่มต้นกับ Exness ทันทีและรับผลประโยชน์จากสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
1. ฉันสามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีหลังจากการลงทะเบียนได้หรือไม่?
คุณไม่สามารถเปลี่ยนประเภทบัญชีได้ แต่สามารถเปิดบัญชีใหม่ด้วยประเภทบัญชีอื่นได้ Exness อนุญาตให้คุณเปิดบัญชีได้หลายบัญชีสำหรับแต่ละประเภทในพื้นที่ส่วนตัว 1 พื้นที่
2. ฉันสามารถลองใช้บัญชีประเภทใดได้บ้าง?
เริ่มต้นใช้งานบัญชีทดลองใช้งานเพื่อทดลองใช้บัญชีและกลยุทธ์การซื้อขายทุกประเภท
จากการวิเคราะห์ข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าโลกของการเทรดเต็มไปด้วยโอกาสมากมาย เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ให้เต็มที่ คุณสามารถเปิดบัญชีได้หลากหลายประเภทที่ Exness และใช้แต่ละบัญชีสำหรับกลยุทธ์การเทรดที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้บัญชี Standard เพื่อทดลองเทรดต้นทุนต่ำ ในขณะที่คุณสามารถใช้บัญชี Raw Spread, Pro หรือ Zero เพื่อการเก็งกำไรระยะสั้น (scalping) ที่รวดเร็ว หรือเทรดระยะยาวที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ข้อดีของการมีบัญชีมากกว่าหนึ่งบัญชี
ความหลากหลายของกลยุทธ์
ใช้บัญชีหนึ่งสำหรับการซื้อขายรายวันและอีกบัญชีหนึ่งสำหรับการซื้อขายระยะยาว
ทดสอบกลยุทธ์ใหม่โดยไม่กระทบต่อการดำเนินการซื้อขายหลักของคุณ
การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิผล
แบ่งเงินทุนออกเป็นหลายบัญชีเพื่อลดความเสี่ยง
ใช้ประโยชน์จากประเภทบัญชีแต่ละประเภทเพื่อสร้างสมดุลระหว่างต้นทุนและกำไร
เพิ่มความยืดหยุ่น
ใช้ประโยชน์จากบัญชีทดลองใช้เพื่อทดสอบกลยุทธ์ใหม่ๆ
การซื้อขายในขนาดที่แตกต่างกัน (จาก Cent ถึง Pro) ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด
ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม
ประเมินผลลัพธ์กลยุทธ์ของคุณผ่านการคำนวณที่แตกต่างกัน
มุ่งเน้นไปที่บัญชีที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดแก่คุณ
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ Exness ก็มีเครื่องมือและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้คุณบรรลุเป้าหมาย เปิดบัญชีวันนี้และค้นพบประเภทบัญชีที่เหมาะกับกลยุทธ์ของคุณ