อังคณา ห่วงละเมิดสิทธิฯ ยันไม่ได้เข้าข้างเขมร แค่แปลหนังสือ กสม.กัมพูชา ถึง UN
.
.
อังคณา ยันไม่ได้ว่าใคร แค่แปลหนังสือ ‘กสม.กัมพูชา’ ฟ้องUN แจงเป็นการแสดงความห่วงใย–ตั้งคำถาม ควรปล่อยอินฟลูฯ เปิดเสียงผีไล่ ‘เขมร’ หรือไม่ เปรียบเทียบปราบม็อบกรุงเทพฯ ใช้เครื่องเสียงไล่เหมือนกัน แต่เป็นตามมาตรฐานสากลโดย คฝ. ไม่ได้ใช้พลเรือน ไม่แคร์ ‘เขมร’ เอาโพสต์ไปเพิ่มน้ำหนัก
.
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม นางอังคณา นีละไพจิตร ส.ว. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นภายหลัง กัน จอมพลัง อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เปิดเสียงผีและเครื่องบินรบที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ว่า ตนไม่ได้ตำหนิใคร ที่โพสต์เป็นการแปลหนังสือของประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) แห่งกัมพูชา ที่เขาทำหนังสือโดยตรงถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เป็นการแปลข้อความและกังวลว่าจะเป็นการทรมานทางจิตวิทยาตามที่เขาอ้างหรือไม่ เพราะเป็นการกระทำต่อพลเรือน เขาพูดถึงผลกระทบต่อผู้เปราะบาง เช่น ผู้หญิง ผู้สูงอายุ เด็ก เป็นต้น รวมถึงเป็นการตั้งคำถามว่าผู้แทนไทยจะตอบในเวทีสากลว่าอย่างไร
.
“ไม่ได้ว่าใครและตั้งคำถามด้วยว่าที่จริงพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก ก็สงสัยว่าทำไมบุคคลอินฟลูฯ ถึงได้เข้าไปในพื้นที่นั้นได้ ทั้งรถแห่ รถที่ติดเครื่องขยายเสียงที่เข้าไป เข้าไปได้อย่างไรแบบนี้ค่ะ ก็แค่นั้น” นางอังคณา กล่าว
.
นางอังคณา กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า ไม่ได้ไปส่งเสริมอะไรฝั่งกัมพูชา พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ขัดแย้ง ตนยกตัวอย่าง ที่ทางกองทัพบอกว่าเป็นปฏิกิริยาตอบโต้ ซึ่งตนมองว่าที่จริงถ้าเทียบกัน ในช่วงที่กรุงเทพฯมีการประท้วงกันเยอะๆ ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ก็ใช้เครื่องเสียง เพื่อที่จะให้มีการสลายการชุมนุม ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นปฏิบัติการเรื่องการสลายการชุมนุม ความถี่ของคลื่นเสียงมีมาตรมาตรฐานที่กำหนดโดย WHO อยู่แล้ว แต่หนังสือที่ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชาเขาระบุว่ามีการเปิดเสียง ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ตีสาม ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่พลเรือนพักผ่อน และเหตุการณ์ขณะนั้น เท่าที่ทราบ ไม่ได้มีการชุมนุมหรือปะทะกัน ก็เพียงแต่ห่วงใยว่าเป็นตามหนังสือที่เขาส่งถึงสหประชาชาติ จะเป็นไปตามสิ่งที่เขาร้องเรียนหรือไม่ ว่าอาจจะเป็นเรื่องของการทรมานทางจิตวิทยา
.
เมื่อถามว่าฝั่งกัมพูชาใช้โพสต์นี้ ไปเพิ่มน้ำหนักให้ตัวเอง นางอังคณา กล่าวว่า บอกตรงๆ ว่าไม่ว่าใครจะพูดอะไร เขาเอาไปหมด ส่วนตัวก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะโพสต์นี้เป็นโพสต์สาธารณะ ไม่ได้ปิดบังและเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตอยู่แล้ว แต่ถามว่า ในสิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูฯ ทำ เขาก็เอาไปฟ้องหมดเลย เขียนไปรายงานไปฟ้องหมดเลย เขาส่งหนังสือจนถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน
.
“ถ้ากลับไปอ่านโพสต์ใหม่ จะรู้ว่าเป็นความห่วงใยเป็นการตั้งคำถามว่าเราควรจะปล่อยให้ใครก็ได้เข้าไปหรือไม่ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยเปิดเผย สิ่งที่อยากจะพูดก็คือพื้นที่ตรงนั้น ช่วงนี้มันไม่ได้มีการปะทะ ไม่ได้มีการปฏิบัติการทางทหาร แต่มันเป็นพื้นที่พลเรือน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนกับเอาพลเรือนเข้าไปปะทะกับพลเรือนด้วยกันเอง ซึ่งต้องระมัดระวัง เพราะจะเป็นการทำลายพื้นที่ของความสัมพันธ์ของพลเรือนด้วยกัน และเรื่องนี้เป็นเรื่องมนุษยธรรมระหว่างประเทศด้วย” นางอังคณา กล่าว
.
.
ฉายหนังกลางแปลง กัมพูชาขอลี้ภัยเข้าไทย
.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - คนไทยจัดชุดใหญ่ ! เมื่อคืนที่ผ่านมา แม้จะไม่ได้เปิดเสียงผี แต่เปิดเสียงอื่นที่ทำเอาชาวกัมพูชาหลอนกว่าเดิม ! เปิดสารคดีชาวกัมพูชาที่ขอลี้ภัย เข้าดินแดนอธิปไตยไทย งานนี้ถึงกับเถียงแทบไม่ออก
.
ฟังดี ๆ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจของชาวกัมพูชา ถึงขั้นคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ หลังฝั่งไทยเปิดสารคดีเล่าเรื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ที่ชาวกัมพูชาขอลี้ภัยกลางเมือง มาพึ่งพาประเทศไทย โดยไทยให้การช่วยเหลือ ทั้งดูแลสภาพการเป็นอยู่ ช่วยต่อชีวิต แต่ใครจะคิดว่าชาวนาเลี้ยงงูเห่าจะเกิด ชาวกัมพูชากลับทรยศบุญคุณ หวังใช้ศูนย์พักพิงชั่วคราวของไทยกลายเป็นพื้นที่ถาวรของตนเอง
.
แต่ดูแล้วหนังกลางแปลงเรื่องนี้ คงไม่ได้ทำให้ชาวกัมพูชาสำนึกแต่อย่างใด ยังมีการด่าบอกว่า สารคดีที่ฉายเป็นเรื่องราวของแผ่นดินกัมพูชาที่คนไทยยึดไปเป็นพื้นของตนเอง
.
หลายคนสงสัย ทำไมเมื่อคืนที่ผ่านมาชาวกัมพูชาไม่เห็นพาคณะ IOT มาเยี่ยมชม รวมดูสารคดีกันบ้าง? ไม่เหมือนหลาย ๆ คืนที่ผ่านมา พอเป็นเรื่องความจริงไม่กล้าพามาดูหรือเปล่า ?
.
.
ชาวกาบเชิงผวา! พบโดรนปริศนาบินล้ำน่านฟ้าไทยต่อเนื่องทุกคืน วอนรัฐเร่งคลี่คลายสถานการณ์ชายแดน
.
วันที่ 13 ต.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังคงพบโดรนปริศนา บินเข้ามาในน่านฟ้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นแนวชายแดนสำคัญ โดยเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จิตอาสา และผู้นำชุมชนในหมู่บ้านด่าน ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง ที่ออกลาดตระเวนดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. พบโดรนปริศนาบินอยู่เหนือหมู่บ้านไม่ต่ำกว่า 4 ลำ
.
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พี่บำ บอร์เดอร์” ยังได้โพสต์คลิปวิดีโอที่ถ่ายได้ขณะโดรนบินอยู่บนท้องฟ้าในพื้นที่เดียวกันเมื่อเวลา 20.30 น. ซึ่งในคลิปปรากฏภาพแสงไฟกะพริบของโดรนชัดเจนถึง 2 ลำ สร้างความตื่นตัวให้กับชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เป็นอย่างมาก
.
ขณะเดียวกัน บรรยากาศในพื้นที่ชายแดนด้านช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง ยังคงเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดตัวลง เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวข้ามแดนเข้ามาเกิน 3 เดือนแล้ว เหลือเพียงร้านขายอาหารและของสดไม่กี่ร้านที่ยังเปิดให้บริการ
.
ชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมรับว่าอยู่ในภาวะ “ทำมาหากินด้วยความหวาดระแวง” ทั้งจากสถานการณ์ชายแดนที่ยังไม่ชัดเจน และข่าวลือเรื่องโดรนสอดแนมที่บินเข้ามาแทบทุกคืน จึงเรียกร้องให้รัฐบาลและฝ่ายทหารเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมหาทางคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้ง.
JJNY : อังคณาห่วงละเมิดสิทธิฯ ไม่ได้เข้าข้างเขมร│ฉายหนัง กัมพูชาขอลี้ภัย│กาบเชิงผวา! พบโดรนปริศนา│ทรัมป์เตือนรัสเซีย
.
ฟังดี ๆ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจของชาวกัมพูชา ถึงขั้นคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ หลังฝั่งไทยเปิดสารคดีเล่าเรื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 ที่ชาวกัมพูชาขอลี้ภัยกลางเมือง มาพึ่งพาประเทศไทย โดยไทยให้การช่วยเหลือ ทั้งดูแลสภาพการเป็นอยู่ ช่วยต่อชีวิต แต่ใครจะคิดว่าชาวนาเลี้ยงงูเห่าจะเกิด ชาวกัมพูชากลับทรยศบุญคุณ หวังใช้ศูนย์พักพิงชั่วคราวของไทยกลายเป็นพื้นที่ถาวรของตนเอง
.
แต่ดูแล้วหนังกลางแปลงเรื่องนี้ คงไม่ได้ทำให้ชาวกัมพูชาสำนึกแต่อย่างใด ยังมีการด่าบอกว่า สารคดีที่ฉายเป็นเรื่องราวของแผ่นดินกัมพูชาที่คนไทยยึดไปเป็นพื้นของตนเอง
.
หลายคนสงสัย ทำไมเมื่อคืนที่ผ่านมาชาวกัมพูชาไม่เห็นพาคณะ IOT มาเยี่ยมชม รวมดูสารคดีกันบ้าง? ไม่เหมือนหลาย ๆ คืนที่ผ่านมา พอเป็นเรื่องความจริงไม่กล้าพามาดูหรือเปล่า ?