JJNY : 5in1 อินฟลูฯ เกาหลีมองกัมพูชา│จี้ปิดด่าน สร้างกำแพง│เจออีก 2 ลูก PMN ใหม่│ภาษีทรัมป์ดันราคาทองพุ่ง│ฝนถล่มเม็กซิโก

อินฟลูฯ เกาหลี มองกัมพูชาไม่เคยรักษาคำพูด เผยรัฐมองเป็นประเทศอันตราย
.
.
"ปาร์คแทโฮ" อินฟลูฯ หนุ่มเกาหลี มอง "กัมพูชา" ไม่เคยรักษาคำพูด ไม่แปลกใจไม่ออกจากบ้านหนองจาน เผยเกาหลีใต้แจ้งเตือนระดับ 2 วอนคนเกาหลีไม่ไปกัมพูชา มองเป็นประเทศอันตราย
.
ปาร์คแทโฮ” อินฟลูเอนเซอร์ชาวเกาหลีใต้ เดินทางมาที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว อีกครั้ง เพื่อมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ มาช่วยผลักดันชาวกัมพูชา และเมื่อสัปดาห์ก่อนเคยบอกไว้ว่าหากวันที่ 10 ตุลาคม ชาวกัมพูชายังไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง วันนี้จึงกลับมาตามคำสัญญา ส่วนที่ชาวกัมพูชาไม่ยอมทำตามสัญญาเพราะเป็นคนไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาสัญญาอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจที่จะไม่ย้ายออกจากพื้นที่
.
ส่วนความรู้สึกของคนเกาหลีใต้ตอนนี้ ไม่สนใจว่าฝ่ายไหนเริ่มก่อน แต่จะนำเสนอข่าวคนเกาหลีใต้ถูกแก๊งสแกมเมอร์หรือแก๊งคอลเซนเตอร์ชาวกัมพูชาหลอกลวง ซึ่งส่วนใหญ่มองว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่อันตราย ไม่ให้เดินทางไปที่นั่น
.
เหมือนข่าวล่าสุดที่นักศึกษาชาวเกาหลีใต้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงไปที่กัมพูชาและถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวจนเสียชีวิต ปาร์คแทโฮ บอกว่าข่าวดังกล่าวทำให้เกาหลีใต้ต้องแจ้งเตือนในระดับที่ 2 เตือนชาวเกาหลีใต้ไม่ให้เดินทางไปที่กัมพูชาเพราะเป็นประเทศที่อันตราย
.
หลังให้สัมภาษณ์ ปาร์คแทโฮยังทำท่าวันทยหัตถ์ ที่เป็นการแสดงความเคารพของทหาร และร้องเพลงชาติไทยตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเพลงด้วยความแม่นยำ ล่ามแปลภาษาบอกว่า ปาร์คแทโฮฝึกร้องเพลงชาติไทยบนรถก่อนมาถึงบ้านหนองจานเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
.

.
ชาวบ้านจี้นายกฯ ปิดด่านถาวร สร้างกำแพงไทย-กัมพูชา ตามรับปากโดยเร็ว
https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/259059
.
ชาวบ้านชายแดนไทย-กัมพูชา จ.บุรีรัมย์ จี้นายกฯ ปิดด่านถาวร สร้างกำแพงกั้นไทย-กัมพูชา ตามที่รับปากโดยเร็ว ลั่นทำคอนกรีตปิดตายเหมือนกำแพงเมืองจีนได้ยิ่งดี เพราะกัมพูชาเชื่อแต่ AI ไม่ซื่อสัตย์สำนึกบุญคุณไทย
.
12 ต.ค. 68 ชาวบ้านในหมู่บ้านแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ต่างสุดทนกับพฤติกรรมทั้งของผู้นำ ทหาร และประชาชนกัมพูชา ที่แสดงพฤติกรรมยั่วยุไทย ทั้งในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคอีสาน รวมถึงหมู่บ้านหนองจาน หนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว แบบไม่หยุดหย่อน ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดเสี่ยงที่จะสู้รบกัน  
.
ล่าสุด ชาวบ้านในพื้นที่พบโดรนปริศนา 3 - 4 ลำบินว่อนแถวชายแดน คาดว่าเป็นของฝั่งกัมพูชาที่ต้องการยั่วยุ หรือสอดแนมไทย ทั้งยังมีคนแปลกหน้าเข้ามาถ่ายรูปในหมู่บ้าน สร้างความหวาดระแวงให้กับชาวบ้าน
.
จึงอยากเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งปิดด่านแบบถาวร รวมถึงจุดผ่อนช่องสายตะกู ของ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ด้วย
.
และเร่งสร้างกำแพงกั้นระหว่างไทยกับพูชาโดยเร็ว ตามที่นายกรัฐมนตรีรับปากไว้ตอนที่เดินทางมาเยี่ยมชาวบ้านชายแดน เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา เพราะยืดเยื้อมานานแล้วไม่ดำเนินการให้เด็ดขาดสักที  ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ชายแดนต้องเดือดร้อน
.
นายกฤษวี ชาวบ้านชายแดน อ.บ้านกรวด บอกว่า ช่วงนี้ยังมีคนเห็นโดรนปริศนาบินว่อนอยู่แถวชายแดนไทย-กัมพูชา 3 – 4 ลำ คาดว่าน่าจะเป็นของฝ่ายกัมพูชาที่บินก่อกวน หรือพยายามสอดแนมไทย นอกจากนั้นยังมีคนแปลกหน้าเข้ามาถ่ายรูปในพื้นที่ด้วย ยิ่งสร้างความกังวลใจให้กับชาวบ้าน เพราะช่วงนี้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาไมปกติไม่รู้จะรบกันอีกตอนไหน  ทำให้ชาวบ้านต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงทุกวัน
.
ส่วนที่นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่มาเยี่ยมชาวบ้านชายแดนอำเภอบ้านกรวด เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา แล้วรับปากว่าจะสร้างกำแพงตามแนวชายแดน และปิดด่าน ก็รู้สึกดีใจและมีความหวังว่ามากขึ้น เพราะชาวบ้านจะได้ใช้ชีวิตและทำมาหากินเป็นปกติสักที ไม่ใช่ต้องคอยระแวง 
.
นายกฤษวี กล่าวต่อว่า ส่วนตัวอยากให้ปิดด่านถาวรไปเลย และอยากให้สร้างกำแพงเป็นลักษณะคอนกรีตปิดตาย ใหญ่เหมือนกำแพงเมืองจีนไปเลยยิ่งดี เพราะกัมพูชาไม่เคยซื่อสัตย์หรือสำนึกบุญคุณประเทศไทยที่เคยช่วยเหลือเขาเลย  ดังนั้น ก็ควรตัดขาดความสัมพันธ์ไม่ต้องญาติดีกันเลย  ไม่ต้องช่วยเหลืออะไรกัมพูชาอีกเลย มนุษยธรรมเอาไว้ใช้กับคนดี แต่ไม่ใช่กับเขมรเพราะเขาเชื่อแต่ AI ไม่เคยรับฟังความจริงเลย
.
ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า  สำหรับอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์  เมื่อช่วงที่มีการสู้รบระหว่างวันที่ 24 – 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา มีคนบาดเจ็บ 3 ราย วัว สุกร ตาย 8 ตัว รถยนต์เสียหาย 3 คัน บ้านเรือนพัง 15 หลัง พืชผลการเกษตร 67 ไร่
.

.
เจออีก 2 ลูก ทุ่นระเบิด PMN ของใหม่ พร้อมทำงาน ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ่อลุยต่อบ้านหนองจาน
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9975123
.
เจออีก 2 ลูก ทุ่นระเบิด PMN ของใหม่ พร้อมทำงาน ทหารช่างเข้าสแกนพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เผยคืนพื้นที่ปลอดภัยแล้ว 15,042 ตร.ม. เตรียมลุยต่อบ้านหนองจาน
.
วันที่ 12 ต.ค.68 กองกำลังบูรพา โดย ฉก.12 รายงานการตรวจพบทุ่นระเบิดในพื้นที่ปฏิบัติการ บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการตรวจและเก็บกู้วัตถุระเบิดที่บ้านหนองหญ้าแก้ว พบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอีก 2 ทุ่น เป็นชนิดระเบิดอยู่กับที่ PMN จำนวน 1 ทุ่น สภาพพร้อมทำงาน ใกล้กันพบทุ่นระเบิดเดียวกัน อีก 1 ทุ่น สภาพพร้อมทำงานเช่นกัน เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้อย่างปลอดภัย สรุปการปฏิบัติภารกิจ ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. จนถึงปัจจุบัน ตรวจพบทุ่นระเบิด PMN รวม 5 ทุ่น สภาพพร้อมใช้งาน
.
พ.ท.ราวุธ สระทองเทียน ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจ 12 กองกำลังบูรพา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ระบุว่า แผนดำเนินการในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่หนองหญ้า อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จะถางป่าหญ้าเพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้ และใช้กําลังเดินตาม คาดว่าจะทําให้พบทุ่นระเบิดที่ตกค้างเพิ่มเติม
.
สําหรับพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยที่หนองหญ้าแก้ว ที่จํากัดวงเป็นพื้นที่สีแดงมีประมาณ 102,874 ตารางเมตร ในจํานวนนี้ได้แบ่งเป็น 4 โซน ซึ่งโซนเอมีอยู่ประมาณ 29,726 ตารางเมตร ในการตรวจค้นทุ่นระเบิดและทําพื้นที่ให้ปลอดภัย
.
ปัจจุบันสามารถคืนพื้นที่ได้เรียบร้อยแล้ว 15,042 ตารางเมตร ส่วนที่เหลือคาดว่า จะใช้ระยะเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากมีอุปสรรคของสภาพอากาศเข้ามาเป็นปัจจัยสําคัญในการทำงาน ซึ่งการดําเนินการทั้งหมด ต้องอยู่ภายใต้ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้วย
.
พ.อ.ภิชฌ์ยุทธ พรหมโท รองเสนาธิการกองทัพภาค1 ระบุว่า พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ที่เก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้างนั้น เป็นแผนประจําปีของ นปท. หรือ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดทางด้านมนุษยธรรม เป็นหนึ่งในแผนปฏิบัติการเก็บกู้ระเบิดด้านมนุษยธรรมของประเทศไทย ซึ่งเราได้ส่งแผนไปที่ออตตาวาอยู่แล้ว แต่ในหลายปีที่ผ่านมา ไทยไม่สามารถปฏิบัติการพื้นที่ดังกล่าวได้ ถูกกัมพูชาขัดขวางมาโดยตลอด
.
แต่พอฝ่ายความมั่นคงไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ดังกล่าวกลับขึ้นมาได้เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถึงเพิ่งเข้ามาเคลียร์พื้นที่ อุปสรรคสําคัญ คือฝน ที่ส่งผลต่อการทํางาน ซึ่งหากจะให้ครบทั้ง 4 โซน คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ส่วนพื้นที่บ้านหนองจานจะอยู่ในแผนต่อไปหลังเสร็จสิ้นที่พื้นที่หนองหญ้าแก้วแล้ว
.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ภารกิจในครั้งนี้ถือเป็นการคืนพื้นที่อธิปไตยไทยได้หรือไม่ พ.อ.ภิชฌ์ยุทธ ระบุว่า ถือว่าได้เป็นการนับหนึ่ง และเป็นไปตามขั้นตอน ขณะเดียวกันก็จะเห็นว่าทางจังหวัดก็เริ่มซักซ้อมแผนอพยพแล้วเช่นเดียวกัน
.
ส่วนทุ่นระเบิดที่พบนั้นยืนยันได้หรือไม่ว่าที่ผ่านมากัมพูชาไม่เคยดําเนินการตามข้อตกลง รองเสนาธิการกองทัพภาค 1 ระบุว่า ก็เป็นส่วนหนึ่ง ทั้งนี้พื้นที่อธิปไตยไทย เราสามารถทำได้เลยไม่ต้องขออนุญาต เราแค่ทําหนังสือแจ้งเท่านั้น เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด เพียงแต่ที่ผ่านมากัมพูชาจะอ้างว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ผ่านมาฝ่ายไทยก็ไม่อยากจะให้มีปัญหา แต่ตอนนี้เราเห็นว่าทําได้ เราก็ทําทันที..
.

.
ภาษีทรัมป์ 100% ตอบโต้จีนคุมแร่หายาก ดันราคาทองพุ่งต่อ
.
กรุงเทพฯ 12 ต.ค.-ภาษีทรัมป์ 100% ตอบโต้จีนควบคุมแร่หายากกระทบตลาดการเงิน-เศรษฐกิจโลกรุนแรง ดันราคาทองพุ่งต่อ ลุ้นทองมีโอกาสทดสอบ 65,000 บาทปลายปีนี้ แนะทางการไทยผ่อนคลายการเงิน รับมือเศรษฐกิจชะลอตัวปลายปี
.
รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ (DEIIT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อจีนได้ออกมาตรการควบคุมแร่หายาก เพราะจีนสามารถควบคุมอุปทานของแร่หายากเหล่านี้ถึง 70% โดยเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสินค้าเทคโนโลยีทั้งหลาย รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า เรดาห์ทหารและเครื่องบิน
.
การออกมาตรการเข้มงวดในการควบคุมส่งออกแร่หายากมายังสหรัฐอเมริกาก่อให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมทางการทหารของสหรัฐฯ รัฐบาลทรัมป์ได้ตอบโต้ด้วยการขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 100% ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินไม่ได้คาดการณ์ไว้ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มองว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯและจีนเริ่มดีขึ้นแล้วพร้อมกับความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างผู้นำของสองมหาอำนาจ นอกจากนี้ยังมีกำหนดการที่จะพบปะกันในการประชุมสุดยอดของกลุ่มเอเปกปลายเดือนนี้ การตอบโต้อย่างรุนแรงด้วยกำแพงภาษี 100% ย่อมทำให้มีผลกระทบต่อตลาดการเงินอย่างรุนแรง
.
โดยมูลค่าของตลาดหุ้นสหรัฐฯเสียหายภายในวันเดียวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ปรับตัวลดลงแรงสุดในรอบครึ่งปี และ คาดว่าปัจจัยนี้จะส่งผลกระทบกดดันให้ตลาดหุ้นดิ่งลงทั่วโลกในสัปดาห์หน้า ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกจะมีความผันผวนรุนแรงมากหากรัฐบาลทรัมป์ดำเนินเก็บภาษี 100% จริงตามที่ขู่ไว้ ตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกยังเผชิญความเสี่ยงและความไม่แน่นอนอีกว่า จีนจะตอบโต้ด้วยกำแพงภาษีหรือไม่ สำหรับประเทศไทย ภาคส่งออกไทยจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกเพิ่มเติมจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนระลอกใหม่ แต่จะมีสินค้าส่งออกบางส่วนของไทยจะได้ประโยชน์จากการนำเข้าทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ
.
อย่างไรก็ตาม การประเมินผลกระทบตรงนี้ยังไม่ชัดเจนเนื่องจากเรายังไม่ทราบว่าพลวัตของสงครามการค้าสหรัฐฯจีนระลอกใหม่จะเป็นอย่างไรในอนาคต ส่วนภาคการผลิตของไทยอาจต้องเผชิญสินค้าทะลักจากจีนเพิ่มเติมอย่างแน่นอน ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ ยิ่งทำให้นักลงทุนโยกเม็ดเงินจากสินทรัพย์เสี่ยง มายัง สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและพันธบัตร ดันราคาทองพุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ ทำให้ราคาทองรูปพรรณในประเทศขายออกบาทละ 62,100 บาท และ มีโอกาสทดสอบ 65,000 บาทปลายปีนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่