ไขข้อสงสัย ร้านค้าใหม่เข้าร่วม "คนละครึ่งพลัส" มีขั้นตอนอย่างไร ลงทะเบียนในฐานะผู้ซื้อได้หรือไม่
ภายหลัง ครม.ไฟเขียว “คนละครึ่งพลัส” อัดงบ 4.4 หมื่นล้าน เติมกำลังซื้อ ปลุกเศรษฐกิจปลายปี 2568 โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผยเปิดให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไปลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 20-26 ตุลาคม 2568 ใช้สิทธิ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568 ย้ำให้ใช้สิทธิครั้งแรกก่อนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 และก่อนเวลา 23:00 น. รัฐอุดหนุน 2,000-2,400 บาทต่อคน ครอบคลุม 20 ล้านคน นั้น
ไทยรัฐออนไลน์ ไขข้อสงสัยและข้อข้องใจสำหรับร้านค้า เกี่ยวกับกรณีคำถามที่ว่า “ถ้าร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว จะสามารถเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสในฐานะผู้ซื้อด้วยได้หรือไม่?” ล่าสุด กระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุว่า “ได้สิครับ ถ้าเป็นประชาชนเป็นคนไทย ก็มีสิทธิ์ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็สามารถที่จะมาเป็นกลุ่มคนไทยเหมือนกัน อายุเกิน 16 ปีตามสิทธิ์ มีบัตรประชาชนมาลงทะเบียนได้”
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิลงทะเบียน คนละครึ่งพลัส
1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. มีบัตรประจำตัวประชาชน
4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
5. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่ (1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
ขั้นตอนการลงทะเบียน คนละครึ่งพลัส
ดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง และเปิดใช้บริการ G Wallet
กดลงทะเบียนรับสิทธิได้ตั้งแต่ วันที่ 20 ตุลาคม - 26 ตุลาคม 2568 เวลา 06.00 - 22.00 น.
ผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่านแอปฯ เป๋าตัง
ผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ปี 2565) ตรวจสอบผลการลงทะเบียนผ่าน SMS และแอปฯ เป๋าตัง
ผู้ได้รับสิทธิเข้าแอปฯ เป๋าตัง และกดแบนเนอร์โครงการคนละครึ่งพลัส เพื่อเริ่มใช้จ่าย วันที่ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00 - 23.00 น.
ร้านค้าใหม่ หากต้องการเข้าร่วมโครงการ มีขั้นตอนอย่างไร
1. มีบัญชีธนาคารกรุงไทย และสมัครเป็นร้านค้าถุงเงินสำเร็จ
2. เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ
3. ตรวจสอบประเภทกิจการและดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัคร ไปยื่นสมัครกับหน่วยงานดังนี้
3.1 หน่วยงานกระทรวงมหาดไทย (แบบฟอร์ม สำหรับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย)
- ร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป
- ร้านค้า/บริการของวิสาหกิจชุมชน และ OTOP
- สามล้อถีบ
- ร้านทำผม ทำเล็บ
3.2 หน่วยงานธนาคารกรุงไทย (แบบฟอร์ม สำหรับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย)
- ผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ (เช่น TAXI-METER รถตู้โดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นต้น)
- ร้านให้บริการนวดสปา ที่มีใบอนุญาตสถานประกอบการ
- ร้านค้านิติบุคคลขนาดเล็ก (ภ.ง.ด. 50) รอบบัญชีปี 2567 ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568*
4. นำเอกสารที่ได้รับการรับรองเรียบร้อยแล้ว ติดต่อ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ: * เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
ร้านค้าเข้าร่วม "คนละครึ่งพลัส" ลงทะเบียนในฐานะผู้ซื้อเพื่อใช้สิทธิ์ได้หรือไม่ ร้านค้าใหม่ ลงทะเบียนอย่างไร
ภายหลัง ครม.ไฟเขียว “คนละครึ่งพลัส” อัดงบ 4.4 หมื่นล้าน เติมกำลังซื้อ ปลุกเศรษฐกิจปลายปี 2568 โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผยเปิดให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไปลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 20-26 ตุลาคม 2568 ใช้สิทธิ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568 ย้ำให้ใช้สิทธิครั้งแรกก่อนวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 และก่อนเวลา 23:00 น. รัฐอุดหนุน 2,000-2,400 บาทต่อคน ครอบคลุม 20 ล้านคน นั้น
ไทยรัฐออนไลน์ ไขข้อสงสัยและข้อข้องใจสำหรับร้านค้า เกี่ยวกับกรณีคำถามที่ว่า “ถ้าร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอยู่แล้ว จะสามารถเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสในฐานะผู้ซื้อด้วยได้หรือไม่?” ล่าสุด กระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุว่า “ได้สิครับ ถ้าเป็นประชาชนเป็นคนไทย ก็มีสิทธิ์ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า ก็สามารถที่จะมาเป็นกลุ่มคนไทยเหมือนกัน อายุเกิน 16 ปีตามสิทธิ์ มีบัตรประชาชนมาลงทะเบียนได้”
2. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. มีบัตรประจำตัวประชาชน
4. ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568
5. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่ (1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5
1. มีบัญชีธนาคารกรุงไทย และสมัครเป็นร้านค้าถุงเงินสำเร็จ
2. เตรียมบัตรประจำตัวประชาชน และรูปถ่ายร้านค้าที่มีรูปเจ้าของขณะประกอบกิจการ
3. ตรวจสอบประเภทกิจการและดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัคร ไปยื่นสมัครกับหน่วยงานดังนี้
3.1 หน่วยงานกระทรวงมหาดไทย (แบบฟอร์ม สำหรับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย)
- ร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป
- ร้านค้า/บริการของวิสาหกิจชุมชน และ OTOP
- สามล้อถีบ
- ร้านทำผม ทำเล็บ
3.2 หน่วยงานธนาคารกรุงไทย (แบบฟอร์ม สำหรับเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย)
- ผู้ประกอบการขนส่งที่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่สาธารณะ (เช่น TAXI-METER รถตู้โดยสารสาธารณะ รถจักรยานยนต์สาธารณะ เป็นต้น)
- ร้านให้บริการนวดสปา ที่มีใบอนุญาตสถานประกอบการ
- ร้านค้านิติบุคคลขนาดเล็ก (ภ.ง.ด. 50) รอบบัญชีปี 2567 ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2568*
4. นำเอกสารที่ได้รับการรับรองเรียบร้อยแล้ว ติดต่อ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ
หมายเหตุ: * เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567 ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย