"พระราชวังแห่งชาติเปนา" สีสันแห่งซินตรา หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโปรตุเกส
🏰
#พระราชวังแห่งชาติเปนา
(Palácio Nacional da Pena) เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกส
🇵🇹
พระราชวังเปนาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของสถาปัตยกรรมโรแมนติก (Romanticism) ในโลก สร้างขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19
เดิมเป็นที่ตั้งของอารามเก่าที่เสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1755 ต่อมา พระเจ้าฟร์นันโดที่ 2 แห่งโปรตุเกส ได้ทรงซื้อที่ดินและริเริ่มการก่อสร้างพระราชวังใหม่ โดยมี วิลเฮล์ม ลุดวิจ ฟอน เอสท์เนอร์ สถาปนิกชาวเยอรมันเป็นผู้ออกแบบ
การผสมผสานสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์
สิ่งที่ทำให้พระราชวังนี้โดดเด่นอย่างยิ่งคือการหลอมรวมสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ได้แก่ กอธิก (Gothic), เรอเนสซองส์ (Renaissance), มานูเอลไลน์ (Manueline) (สไตล์โปรตุเกสเฉพาะที่มีความละเอียดอ่อนและได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินเรือ) และ มัวร์ (Moorish)
พระราชวังมีสีสันสดใสสะดุดตา ทั้งสีเหลือง สีแดง และสีฟ้า ทำให้โดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาและป่าไม้เขียวขจี
ได้รับการยกย่องให้เป็น หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโปรตุเกส และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO ในฐานะส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์วัฒนธรรมซินตรา (Cultural Landscape of Sintra)
พื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 200 เฮกตาร์ เป็นที่ตั้งของพืชพันธุ์ที่นำมาจากทั่วโลก ทั้งเฟิร์นจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมถึงต้นไม้จากประเทศญี่ปุ่นและอเมริกาใต้ ทำให้การเดินเล่นในสวนแห่งนี้เป็นประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกับความหลากหลายทางธรรมชาติที่งดงาม
พระราชวังแห่งชาติเปนาจึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความฝันและจินตนาการทางสถาปัตยกรรม ผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับความงามของธรรมชาติได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโปรตุเกส
The Earth
🇵🇹"พระราชวังแห่งชาติเปนา" สีสันแห่งซินตรา หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโปรตุเกส 🏰
🏰
#พระราชวังแห่งชาติเปนา
(Palácio Nacional da Pena) เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกส
🇵🇹
พระราชวังเปนาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของสถาปัตยกรรมโรแมนติก (Romanticism) ในโลก สร้างขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19
เดิมเป็นที่ตั้งของอารามเก่าที่เสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1755 ต่อมา พระเจ้าฟร์นันโดที่ 2 แห่งโปรตุเกส ได้ทรงซื้อที่ดินและริเริ่มการก่อสร้างพระราชวังใหม่ โดยมี วิลเฮล์ม ลุดวิจ ฟอน เอสท์เนอร์ สถาปนิกชาวเยอรมันเป็นผู้ออกแบบ
การผสมผสานสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์
สิ่งที่ทำให้พระราชวังนี้โดดเด่นอย่างยิ่งคือการหลอมรวมสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน ได้แก่ กอธิก (Gothic), เรอเนสซองส์ (Renaissance), มานูเอลไลน์ (Manueline) (สไตล์โปรตุเกสเฉพาะที่มีความละเอียดอ่อนและได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินเรือ) และ มัวร์ (Moorish)
พระราชวังมีสีสันสดใสสะดุดตา ทั้งสีเหลือง สีแดง และสีฟ้า ทำให้โดดเด่นเป็นพิเศษเมื่อตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขาท่ามกลางทิวทัศน์ภูเขาและป่าไม้เขียวขจี
ได้รับการยกย่องให้เป็น หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโปรตุเกส และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCO ในฐานะส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์วัฒนธรรมซินตรา (Cultural Landscape of Sintra)
พื้นที่สวนขนาดใหญ่กว่า 200 เฮกตาร์ เป็นที่ตั้งของพืชพันธุ์ที่นำมาจากทั่วโลก ทั้งเฟิร์นจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ รวมถึงต้นไม้จากประเทศญี่ปุ่นและอเมริกาใต้ ทำให้การเดินเล่นในสวนแห่งนี้เป็นประสบการณ์ที่ได้สัมผัสกับความหลากหลายทางธรรมชาติที่งดงาม
พระราชวังแห่งชาติเปนาจึงเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความฝันและจินตนาการทางสถาปัตยกรรม ผสมผสานประวัติศาสตร์เข้ากับความงามของธรรมชาติได้อย่างลงตัว ทำให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโปรตุเกส
The Earth