เราเคยไปหาหมอ หมอวินิจฉัยว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าเรื้อรัง เนื่องด้วยครอบครัวเราเป็นข้าราชการ พ่อเราดุมาก ตีเราและพี่สาวเกือบทุกวัน จนค้องเข้าโรงพยาบาลเย็บแผลกันเลยทีเดียว ปัจจุบันพ่อเราเสียชีวิตแล้ว แต่เวลาเราเข้าสังคมในปัจจุบันเราเป็นคนแคร์ความรู้สึกคนมากๆจนเก็บมาคิดเดียวว่าเค้าจะโกรธเราไหมถ้าเราพูดแบบนี้ไป หรือได้ยินคนพูดถึงเราไม่ดีเราก็จะเศร้าใจมาก อ่อนไหวง่ายที่สุด จนกระทั่งเศรษฐกิจย้ำแย่ช่วงโควิทรายได้จากเกือบหลักแสนมาสิบปี ตอนนี้รายได้เหลือสามหมื่น เงินที่ลุงทุนค้าขายขาดทุนต่อเนื่องหลายล้าน เลยต้องหยุดกิจการลง และหันมาทำอาชีพเสริม ทำสองสามอาชีพได้ ทำไปกลับมาบ้านก็ร้องไห้ ตอนนี้ผ่านเวลามา3ปีแล้ว เรารู้สึกว่าเราดีขึ้น เลยอยากจะมาแชร์ 1.หากิจกรรมที่ชอบและทำ เราชอบร้องเพลง เราค้นพบเลยว่า การร้องเพลงช่วยฮีลใจเราได้ แต่เราต้องร้องในที่ส่วนตัวไปรบกวนคนอื่นนะคะ 2.ศึกษาธรรมมะอาจจะไม่ได้รู้ถึงแก่นแท้ หรือพระอาจารย์ดังๆชอบเป็นข่าวในช่วงนี้แต่เราก็เลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เช่น เรื่องสัจธรรมของมนุษย์ เกิดแก่เจ็บตาย สุขทุกมักเป็นของคู่กัน รวมถึงการกำหนดลมหายใจใช้สมาธิฝึกกายหายใจของตัวเอง 3.ออกกำลังกาย ในวันที่เราท้อและเศร้าเราจะหมดแรงแทบอยากนิรทั้งวันและเหนื่อยแบยไม่รู้สาเหตุ ทำให้เราเลือดหนืด การออกกำลังกายเหมือนสูบฉีดพลังของเรา 4. เราชอบดูรายการสำรวจผีแบบไลฟฺสดเขาชอบพาไปบ้านที่มีคน ฆตต ทำให้เรารู้เลยว่า ชีวิตเราไม่ได้จบที่ความตุย เราต้องทนทุข ทรมานตลอดไป 5.สิ่งที่ช่วยได้คือการทำอาสาจิตกุศล เวลามีงานอะไรเราก็ไป พร้อมกลับมาได้คำขอบคุณเป็นกำลังใจเสมอ 5.เวลาเราเจอคำหรือคำพูดที่แย่ๆ เราจะค้นโซเชี่ยลว่าจะแก้ไขยังไง มีใครเจอแบบเราบ้าง อย่างน้อยเราก็ไม่โดดเดี่ยว แต่โซเซี่ยลก็ต้องระมัดระวังคน บางทีก็ทำให้แย่กว่าเดิมได้เช่นกัน ค้นหาอะไรที่ตลกๆดู 6.แมว เราเลี้ยงแมว เราค้นพบว่าแมวฮีลใจเรามากๆ 7. ช่วงเวลาที่เราเริ่มรู้สึกว่าอาการมันมา ควรปรึกษาแพทย์ อย่าเก็บไว้คนเดียว พอเวลาผ่านไปมองย้อนไปคิดว่ามันเป็นความคิดสั้นๆไม่น่าทำทั้งที่ถึงแม้ช่วงขณะ นั้นคิดว่าคิดดีแล้ว แต่ถ้าเราผ่านมาได้เราจะขอบคุณตัวเองทุกครั้ง
เราจะมาแชร์ทริคแก้ปัญหา ซึมเศร้าด้วยวิธีของเราเอง