“Mother Buddha” หรือแม่พระพุทธะ / 母佛คือสิ่งสมมุติที่ดัดแปลงจากหลายศาสนา
คุณผู้กำกับ Kevin Ko เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาและทีมงาน “ประดิษฐ์คำสาปและเทพเจ้าในเรื่องขึ้นมาเองทั้งหมด” แต่ต้องการให้ดูเหมือนพิธีกรรมที่มีอยู่จริงในไต้หวันและจีน เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกว่าเรื่องนี้อาจเกิดขึ้นได้จริง
Mother Buddha จึงเป็นการผสมผสานของภาพลักษณ์ศาสนา 3 สายหลักในวัฒนธรรมไต้หวัน
พุทธศาสนา (ฝ่ายมหายาน) : ชื่อ “Buddha” และสัญลักษณ์รูปปั้นคล้ายพระโพธิสัตว์ แต่มีลักษณะผิดรู
ลัทธิเต๋า / ผีบรรพบุรุษ : แนวคิดเรื่องเทพเจ้าผู้คุ้มครองแต่เรียกสังเวย, และพิธีห้ามผู้คนนอกลัทธิเข้าถึง
ความเชื่อพื้นบ้าน (Folk religion): การบูชาผีหญิง, “แม่มด” หรือ “แม่ใหญ่ผู้ให้พรและคำสาป” ซึ่งพบได้ในวัฒนธรรมพื้นถิ่นจีนตอนใต้
ดังนั้น Mother Buddha เป็นเทพที่ไม่มีอยู่จริงในคัมภีร์หรือศาสนาใดโดยตรง แต่ถูก ประกอบสร้าง (constructed)ให้เหมือนของจริง เป็น “เทพจำลอง” (fictional deity) ที่สะท้อนความศรัทธาแบบบิดเบี้ยวของมนุษย์
เหตุผลที่หนังสร้าง “Mother Buddha” ขึ้นมาเอง
เพื่อหลีกเลี่ยงการลบหลู่ศาสนาจริง
หากทีมผู้สร้างใช้เทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์จริง ๆ จากศาสนา หนังอาจถูกประณามว่าดูหมิ่นศาสนา ดังนั้นพวกเขาจึง “สร้างเทพปลอม” ที่ใกล้เคียงแต่ไม่เหมือนจริง เพื่อคงพลังความศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ล่วงละเมิด
เพื่อสร้าง “ศาสนาเทียมที่น่าเชื่อ”
หนังตั้งใจให้คนดูสงสัยว่า “นี่ของจริงหรือของปลอม?” นี่คือหัวใจของความสยองใน Incantation (มนตรา) Mother Buddha ถูกออกแบบให้มีรายละเอียดครบเหมือนศาสนาจริง:
มีคำสวด, ท่ามือ, เครื่องบูชา, รูปปั้น, และพิธีกรรมเฉพาะตัว สิ่งเหล่านี้สร้างความรู้สึกสมจริงจนผู้ชมเชื่อโดยไม่ต้องพิสูจน
เพื่อสะท้อน “การบิดเบือนศรัทธา”
Mother Buddha คือภาพแทนของความศรัทธาที่หลุดจากแก่น ผู้คนเชื่อว่ากำลังบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่แท้จริงแล้วกำลังกราบไหว้ “สิ่งชั่วร้ายที่ปลอมตัวเป็นความดี” นี่เป็นสัญลักษณ์ของการตั้งคำถามว่า เรารู้หรือไม่ว่าศรัทธาที่เรายึดถืออยู่ นำเราไปทางไหนกันแน่
รูปปั้นและท่ามือของ “Mother Buddha” = การบิดเบือนพระโพธิสัตว์
ในเชิงภาพลักษณ์ Mother Buddha มีใบหน้าและร่างกายที่คล้ายพระโพธิสัตว์ เช่น พระกวนอิม แต่ใบหน้าถูกปิดบังบางส่วน และมีรูปร่าง “มากเกินจริง” (มือหลายชั้น, ดวงตาหลายดวง) ซึ่งทำให้รู้สึกทั้งศักดิ์สิทธิ์และน่ากลัวพร้อมกัน
การที่รูปปั้นดู “เกือบจะเป็นพระ แต่ไม่ใช่” คือจุดสำคัญ เพราะนี่คือการเล่นกับแนวคิด “ศักดิ์สิทธิ์กลับด้าน” (Inverted Sacredness)
สัญลักษณ์ทางพุทธที่ถูกบิดเล็กน้อยให้กลายเป็นของปีศาจ สะท้อนธีมของหนังทั้งหมดที่ว่าความศักดิ์สิทธิ์และความสาปแช่งอยู่ห่างกันแค่เส้นบาง ๆ เท่านั้น
ความเชื่อท้องถิ่นที่อาจเป็นแรงบันดาลใจทางอ้อม
แม้ Mother Buddha จะเป็นสิ่งแต่งขึ้น แต่บางนักวิจารณ์ชี้ว่าอาจได้รับแรงบันดาลใจจากเทพท้องถิ่นจริง ๆ เช่น
“馬祖媽祖” (Mazu หรือ เจ้าแม่มาจู่) เทพีแห่งทะเล ผู้คุ้มครองชาวประมงไต้หวัน มักถูกเรียกว่า “แม่” หรือ “Mother” เช่นกัน
“地母” (Di Mu / Mother Earth Goddess) เทพีแห่งแผ่นดินในศาสนาเต๋า มีร่างคล้ายพระโพธิสัตว์หญิง
เทพีในลัทธิผีบรรพบุรุษ บางหมู่บ้านในภาคใต้ของจีนบูชา “แม่ผี” ที่ให้พรแก่ผู้บูชา แต่ลงโทษคนที่ละเมิดข้อห้าม
อย่างไรก็ตาม Mother Buddha ในหนัง โหดร้ายกว่าทุกเทพเหล่านี้มาก เพราะเป็นเทพที่ไม่เพียงต้องการการสักการะ แต่ต้องการให้ “ผู้บูชากลายเป็นเหยื่อ” ด้วย นั่นคือคำสาปสูงสุดของศรัทธาที่บิดเบี้ยว
ความหมายเชิงสัญญะของ “Mother Buddha”
ในระดับสัญลักษณ์ Mother Buddha คือภาพแทนของ “แม่ผู้ให้กำเนิดและทำลาย”
เธอมีทั้งด้านเมตตาและด้านทำลาย เป็นการรวมกันของแนวคิด Yin-Yang ที่สุดโต่ง
ในทางหนึ่ง เธอ “ให้พร” (ถ้าบูชาอย่างถูกต้อง)
แต่ในอีกทาง เธอ “ลงโทษ” (ถ้าเปิดเผยความลับ)
สิ่งนี้สะท้อนความขัดแย้งของศรัทธามนุษย์ ที่ทั้งแสวงหาความคุ้มครองและยอมสละชีวิตเพื่อมันโดยไม่ตั้งคำถาม
สรุป : Mother Buddha คือ “เทพปลอมที่จริงที่สุด“
Mother Buddha ไม่มีตัวตนในศาสนาใดจริง ๆแต่เธอถูกออกแบบอย่างชาญฉลาดให้ “เหมือนจริง” ในสายตาของผู้ชม ด้วยการผสมองค์ประกอบจากศาสนาพุทธ เต๋า และความเชื่อพื้นบ้าน เธอเป็นสัญลักษณ์ของ “ศรัทธาที่ถูกบิดเบือน” และ “การล้ำเส้นความศักดิ์สิทธิ์ด้วยความอยากรู้อยากเห็น” การทำท่ามือและสวดมนตราให้เธอ คือพิธีที่แฝงการทำลายตนเอง เพราะในจักรวาลของ Incantation การบูชาที่ผิดทาง คือการเปิดประตูคำสาป
Mother Buddha ในเรื่อง Incantation (มนตรา)