สวัสดีครับทุกๆท่านที่มาอ่านกระทู้นี้ผมมีเรื่องอยากจะขอสอบถามทุกคนๆในกระทู้นี้หน่อยครับ คือตอนนี้ผมกำลังเรียนจบมหาลัยแห่งหนึ่ง
สาขาวิศวะกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง (ผมจบจากปวส.ไฟฟ้ากำลังและไปต่อ ป.ตรี วิศวะไฟฟ้า)
ซึ่ง ตอนนี้ผมเคว้งคว้างมากเลยครับ ผมขอเกริ่นก่อนที่จะเข้าเรื่องนะครับ ครอบครัวผม มีแม่เป็นลูกสาวคนโต และตามมาด้วยน้าสาวอีก3คน รวมเป็น4คน
และในครอบครัวผมไม่มีใครเรียนถึงป.ตรีเลย นอกจากพ่อผม และน้องสาวผมอีกคนที่กำลังจะจบมาเช่นกัน
เข้าเรื่องเลยนะครับ
เนื่องจากผมไม่รู้จะทำอะไรต่อดีเพราะกำลังจะจบจะไปสมัครงาน วุฒิก็ยังไม่ได้ ก็เลยอยู่ในช่วงที่ว่าง
ทั้งหลายๆปากจากญาติ ลูกพี่ลูกน้องผมจบ วุฒิ ปวส. แต่เค้าเริ่มมีบ้าน มีรถ แต่งงานและบวชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนผมหันมามองตัวเอง 4ปี ที่มาเรียนกับ 4ปี ที่ลูกพี่ลูกน้องผมเค้าทำงานและพอผมหันมามองตัวเองก็รู้สึกว่ายังไม่มีอะไรซักกะอย่างเลย แล้วเนื่องด้วยจากญาติผม(น้าสาว)เค้าชอบมาขิงใส่ผมว่าเนี้ยๆลูกชั้น
พึ่งออกรถมาใหม่ ทั้งชอบส่งรูปลูกชายตอนแต่งงานและต่างๆอีกมากมายมาในกลุ่มแชท ผมก็ยิ่งท้อใจ
และเนื่องจากแม่ผมก็ไม่ได้เรียนจบสูงอะไรมาก เค้าก็เห็นลูกพี่ลูกน้องผมเค้ามีบ้านมีรถบวชแต่งงานเรียบร้อย
บวกกับอิทธิพลจากน้าผมที่ชอบมาขิงใส่แม่ผมก็เลยมาพูดกับผมว่าจริงๆแล้วไม่จำเป็นเลยที่ต้องเรียนป.ตรีเลย
ถ้าจบ ปวส. มาทำงานป่านนี้มีตังค์เก็บเยอะแบบเค้าละ ผมก็ยิ่งท้อใจไปอีก...เห้อชีวิต
แต่พอผมหันมาปรึกษาพ่อที่จบ ป.ตรี เหมือนกัน เค้าก็บอกว่าแล้วเรียนจบหรือยัง มีงานทำหรือยัง ถ้ายังก็จงเอาวุฒิและความรู้ความสามารถที่มีไป
สมัครงานซะ แล้วส่วนที่เหลือมันจะตามมาเอง...พอผมฟังเท่านั้นแหละรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา
แต่ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมน้าผมคนนี้ถึงชอบมาพูดแบบนี้ใส่ผมด้วย
ไม่ว่าผมจะทำจะประสบความสำเร็จอะไรน้าผมคนนี้ก็มักจะมีคำพูดต่างๆนาๆเสมอทั้งดีและไม่ดีและชอบพูดว่าอยากให้ลูกพี่ลูกน้องผมเป็นแบบผมจังเลยแต่
ลูกพี่ลูกน้องผมเป็นคนที่เรียนไม่ค่อยเก่งไม่กล้าแสดงออกต่างกับผมที่มีแนวคิดว่าชีวิตมีครั้งเดียวต้องไปให้สุดถ้ามีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ก่อน
ตอนสมัยที่ลูกพี่ลูกน้องผมกำลังจบ ม.3 ผมก็ชวนมาเรียนสายอาชีพ แต่น้าผมก็เค้าบอกว่าโอ้ยกลัวเรียนไม่จบ แต่พอลูกพี่ลูกน้องผมเรียนจบ ม.6 สายสามัญ
มากลับไม่ไปมหาลัยเพราะเรียนไม่ไหว แต่น้าผมกลับให้มามาเรียน ปวส.ที่เป็นสายอาชีพที่ผมเคยชวนละไม่ยอมมาตั้งแต่ทีแรกผมก็งงว่าตอนชวนไม่ยอมมาแต่พอถึงเวลาแบบนี้กลับมาเรียน ปวส.เพื่อเอาวุฒิปวส.ไปสมัครงาน เพราะเขากลัววุฒิ ม.6 ที่ไม่ได้ไปต่อมหาลัยจะหางานทำยากเลยให้ลูกพี่ลูกน้องผม กลับมาเรียน ปวส.แทน
สมัยที่ผมเรียนต่อ รด.ปี 4 - 5 แต่ลูกพี่ลูกน้องผมจบปี 3 น้าผมก็มาพูดว่าอยากให้ลูกพี่ลูกน้องผมเรียนต่อแบบผมจังเลย
(ที่ผมเรียนต่อก็เพราะเป็นว่าที่ ร.ต. และจริงๆแล้วผมเรียนเผื่อเลือกเส้นทางในอนาคต) และสมัยผมแข่งทักษะต่างๆสมัย ปวช. และ ปวส. น้าผมก็ชอบมาพูดว่าโอ้ยเก่งจังเลยอยากใหู้กพี่ลูกน้องผมเป็นแบบผมจัง จนกระทั่งผมเริ่มมีเเนวคิดอยากจะเรียนต่อ ป.ตรี น้าผมคนนี้เค้าก็เริ่มพูดว่าโอ้ยอย่าเรียนเลยมันยากเดี๊ยวก็เรียนไม่จบ แต่ผมก็ไม่เชื่อถ้าผมยังไม่ได้ลองกับตัวเอง จนผมจะจบอยู่แล้วก็ยังมาพูด ต่างๆนาๆ (ในบางครั้งผมก็คิดนะว่าน้าผมคนนี้ขี้อิจฉา)
จนกระทั้ง ผมส่งตารางรับปริญญาไปให้ดูในกลุ่มแชท ก็มีท่าที ที่ดูออกเลยว่าอิจฉาผม น้าๆคนอื่นเค้ายินดีกับผมแต่น้าผมคนนี้มีท่าทีที่มองออกอย่างชัดเจนเลยว่ามีเจตนาที่ไม่ดีและไม่ได้ยินดีกับผม แต่ผมก็งงว่าเราก็เป็นญาติกันแท้ๆทำไมต้องมาอิจฉากันด้วยและหลายๆคนก็เตือนผมว่าน้าผมคนนี้ไม่ได้คิดดีกับผมซักเท่าไหร่...ผมควรทำตัวยังไงต่อดีครับ ?
ปล.ถ้าผมเขียนผิดพลาดประการใดหรือไม่เข้าใจตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ
ปวส. ในอนาคตจะดีกว่า ป.ตรี จริงๆหรอ ?
สาขาวิศวะกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์กำลัง (ผมจบจากปวส.ไฟฟ้ากำลังและไปต่อ ป.ตรี วิศวะไฟฟ้า)
ซึ่ง ตอนนี้ผมเคว้งคว้างมากเลยครับ ผมขอเกริ่นก่อนที่จะเข้าเรื่องนะครับ ครอบครัวผม มีแม่เป็นลูกสาวคนโต และตามมาด้วยน้าสาวอีก3คน รวมเป็น4คน
และในครอบครัวผมไม่มีใครเรียนถึงป.ตรีเลย นอกจากพ่อผม และน้องสาวผมอีกคนที่กำลังจะจบมาเช่นกัน
เข้าเรื่องเลยนะครับ
เนื่องจากผมไม่รู้จะทำอะไรต่อดีเพราะกำลังจะจบจะไปสมัครงาน วุฒิก็ยังไม่ได้ ก็เลยอยู่ในช่วงที่ว่าง
ทั้งหลายๆปากจากญาติ ลูกพี่ลูกน้องผมจบ วุฒิ ปวส. แต่เค้าเริ่มมีบ้าน มีรถ แต่งงานและบวชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนผมหันมามองตัวเอง 4ปี ที่มาเรียนกับ 4ปี ที่ลูกพี่ลูกน้องผมเค้าทำงานและพอผมหันมามองตัวเองก็รู้สึกว่ายังไม่มีอะไรซักกะอย่างเลย แล้วเนื่องด้วยจากญาติผม(น้าสาว)เค้าชอบมาขิงใส่ผมว่าเนี้ยๆลูกชั้น
พึ่งออกรถมาใหม่ ทั้งชอบส่งรูปลูกชายตอนแต่งงานและต่างๆอีกมากมายมาในกลุ่มแชท ผมก็ยิ่งท้อใจ
และเนื่องจากแม่ผมก็ไม่ได้เรียนจบสูงอะไรมาก เค้าก็เห็นลูกพี่ลูกน้องผมเค้ามีบ้านมีรถบวชแต่งงานเรียบร้อย
บวกกับอิทธิพลจากน้าผมที่ชอบมาขิงใส่แม่ผมก็เลยมาพูดกับผมว่าจริงๆแล้วไม่จำเป็นเลยที่ต้องเรียนป.ตรีเลย
ถ้าจบ ปวส. มาทำงานป่านนี้มีตังค์เก็บเยอะแบบเค้าละ ผมก็ยิ่งท้อใจไปอีก...เห้อชีวิต
แต่พอผมหันมาปรึกษาพ่อที่จบ ป.ตรี เหมือนกัน เค้าก็บอกว่าแล้วเรียนจบหรือยัง มีงานทำหรือยัง ถ้ายังก็จงเอาวุฒิและความรู้ความสามารถที่มีไป
สมัครงานซะ แล้วส่วนที่เหลือมันจะตามมาเอง...พอผมฟังเท่านั้นแหละรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา
แต่ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมน้าผมคนนี้ถึงชอบมาพูดแบบนี้ใส่ผมด้วย
ไม่ว่าผมจะทำจะประสบความสำเร็จอะไรน้าผมคนนี้ก็มักจะมีคำพูดต่างๆนาๆเสมอทั้งดีและไม่ดีและชอบพูดว่าอยากให้ลูกพี่ลูกน้องผมเป็นแบบผมจังเลยแต่
ลูกพี่ลูกน้องผมเป็นคนที่เรียนไม่ค่อยเก่งไม่กล้าแสดงออกต่างกับผมที่มีแนวคิดว่าชีวิตมีครั้งเดียวต้องไปให้สุดถ้ามีโอกาสก็ต้องคว้าไว้ก่อน
ตอนสมัยที่ลูกพี่ลูกน้องผมกำลังจบ ม.3 ผมก็ชวนมาเรียนสายอาชีพ แต่น้าผมก็เค้าบอกว่าโอ้ยกลัวเรียนไม่จบ แต่พอลูกพี่ลูกน้องผมเรียนจบ ม.6 สายสามัญ
มากลับไม่ไปมหาลัยเพราะเรียนไม่ไหว แต่น้าผมกลับให้มามาเรียน ปวส.ที่เป็นสายอาชีพที่ผมเคยชวนละไม่ยอมมาตั้งแต่ทีแรกผมก็งงว่าตอนชวนไม่ยอมมาแต่พอถึงเวลาแบบนี้กลับมาเรียน ปวส.เพื่อเอาวุฒิปวส.ไปสมัครงาน เพราะเขากลัววุฒิ ม.6 ที่ไม่ได้ไปต่อมหาลัยจะหางานทำยากเลยให้ลูกพี่ลูกน้องผม กลับมาเรียน ปวส.แทน
สมัยที่ผมเรียนต่อ รด.ปี 4 - 5 แต่ลูกพี่ลูกน้องผมจบปี 3 น้าผมก็มาพูดว่าอยากให้ลูกพี่ลูกน้องผมเรียนต่อแบบผมจังเลย
(ที่ผมเรียนต่อก็เพราะเป็นว่าที่ ร.ต. และจริงๆแล้วผมเรียนเผื่อเลือกเส้นทางในอนาคต) และสมัยผมแข่งทักษะต่างๆสมัย ปวช. และ ปวส. น้าผมก็ชอบมาพูดว่าโอ้ยเก่งจังเลยอยากใหู้กพี่ลูกน้องผมเป็นแบบผมจัง จนกระทั่งผมเริ่มมีเเนวคิดอยากจะเรียนต่อ ป.ตรี น้าผมคนนี้เค้าก็เริ่มพูดว่าโอ้ยอย่าเรียนเลยมันยากเดี๊ยวก็เรียนไม่จบ แต่ผมก็ไม่เชื่อถ้าผมยังไม่ได้ลองกับตัวเอง จนผมจะจบอยู่แล้วก็ยังมาพูด ต่างๆนาๆ (ในบางครั้งผมก็คิดนะว่าน้าผมคนนี้ขี้อิจฉา)
จนกระทั้ง ผมส่งตารางรับปริญญาไปให้ดูในกลุ่มแชท ก็มีท่าที ที่ดูออกเลยว่าอิจฉาผม น้าๆคนอื่นเค้ายินดีกับผมแต่น้าผมคนนี้มีท่าทีที่มองออกอย่างชัดเจนเลยว่ามีเจตนาที่ไม่ดีและไม่ได้ยินดีกับผม แต่ผมก็งงว่าเราก็เป็นญาติกันแท้ๆทำไมต้องมาอิจฉากันด้วยและหลายๆคนก็เตือนผมว่าน้าผมคนนี้ไม่ได้คิดดีกับผมซักเท่าไหร่...ผมควรทำตัวยังไงต่อดีครับ ?
ปล.ถ้าผมเขียนผิดพลาดประการใดหรือไม่เข้าใจตรงไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ