โรม ไม่ระทึก คดี 44 ส.ส.ก้าวไกล จ่อชี้รายคน ย้อนถ้าคิดว่าโดนแน่ เท่ากับป.ป.ช.มีธงหรือไม่?
https://www.matichon.co.th/politics/news_5404336
.
.
“โรม” ไม่กังวล คดี 44 สส. รู้ผลธันวาคมนี้ ชี้ อย่าเพิ่งคิดว่าไม่รอด ย้อนถาม ป.ป.ช.มีธงหรือไม่ ยัน ไร้ดีลสีน้ำเงินช่วย ล้านเปอร์เซ็นต์ ลั่น ปชน.ไม่สะท้าน หากโดนนิติสงคราม
.
เมื่อเวลา 12.40 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โฆษกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า คดี 44 ส.ส.อดีตพรรคก้าวไกล กรณีลงชื่อแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 จะสามารถสรุปได้ในเดือนธันวาคมนี้ ว่า เรายืนยันเรื่องความบริสุทธิ์ของเรา ว่าการทำหน้าที่ของ ส.ส.ของพรรคก้าวไกลเดิมไม่ได้ผิดกฎหมาย และจริยธรรม ยืนยันว่า ทุกสิ่งไม่ได้ไปแอบทำ แต่เป็นเรื่องความโปร่งใส ที่พยายามทำหน้าที่ ส.ส.ในอำนาจนิติบัญญัติ เมื่อเราดำเนินการแล้ว ไม่ได้หมายความว่า จะสำเร็จทันที แต่ต้องมีการถกเถียงกันในสภา และมีขั้นตอนอีกพอสมควร ซึ่งยังไปไม่ถึงขั้นนั้น เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้น มองว่า ไม่สามารถบรรจุวาระดังกล่าวได้
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า ในเรื่องการสู้คดีเราทำอย่างเต็มที่ มีบุคคลที่ถูกกล่าวหาเยอะ ซึ่งทาง ป.ป.ช.ก็ให้เวลาชี้แจงพอสมควร เราก็ดำเนินการไป ทั้งนี้อย่าเพิ่งไปตั้งธงว่าเราจะโดนแน่นอน เชื่อว่าการที่เราทำหน้าที่พิสูจน์ตัวเอง จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้กลไกนิติสงครามกับ ส.ส.พรรคประชาชน ดังนั้นตนหวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ป.ป.ช.จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรือกลั่นแกล้งใคร
.
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ ป.ป.ช.จะไต่สวนเป็นรายบุคคล นายรังสิมันต์กล่าวว่า ไม่กังวลอะไร เราอยู่กับเรื่อง 44 ส.ส.มานาน ตนก็พยายามสู้คดีอย่างเต็มที่ ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจ เราก็ทำหน้าที่ ส.ส. และเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะทุกอย่างอยู่บนโต๊ะมีความโปร่งใส และยืนยันว่าประชาชนจะสนับสนุนพรรคประชาชนอย่างแน่นอน
.
เมื่อถามว่า การที่คดีนี้จะรู้ผลช่วงใกล้เลือกตั้ง จะกระทบกับยุทธศาสตร์พรรคหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า อย่าเพิ่งตั้งธงว่าจะโดนฟันแน่ หากเชื่อว่ามีธง แสดงว่าเรารู้คำตอบล่วงหน้า กระบวนการยุติธรรมก็ไม่มีอยู่จริง จึงอยากให้สื่อมวลชนถาม ป.ป.ช.ว่ามีธงหรือไม่
.
เมื่อถามว่า หากรอดจะถูกมองว่า เป็นการดีลกับการเมืองสีน้ำเงินหรือไม่ นายรังสิมันต์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ยืนยันว่าเราไม่เคยมีการสนทนาทั้งซีเรียสและไม่ซีเรียสกับทางพรรคภูมิใจไทย ในการช่วยเหลือทั้ง 44 คน เราเห็นบทเรียนการสร้างดีลต่างๆ แล้ว ดังนั้น เมื่อมีข้อกล่าวหา เราก็ต้องว่าตามกระบวนการ ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีว่า เราไม่มีดีลกับสีน้ำเงินหรือค่ายไหนทั้งสิ้น
.
.
กมธ.อัดผู้รับจ้างไม่ให้เกียรติ ส่งจนท.ความปลอดภัยแจงถนนสามเสนทรุด กังวลไม่รีบตรวจสอบ หลักฐานหาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5405023
.
‘กมธ.วิสามัญยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง’ แฉหน่วยงานถนนสามเสนทรุด ส่งจนท.ความปลอดภัยเข้าแจงแทนระดับบริหาร ถือไม่ให้เกียรติ จี้เพิ่มสัดส่วนภาค ปชช.เข้าร่วมกก.ตรวจสอบ อ้างทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น เหน็บหากมัวอ้อยอิ่งหลักฐานจะหายไปกับสายน้ำ
.
เมื่อเวลา 16.20 น. วันที่ 9 ตุลาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะรองประธาน กมธ. แถลงผลการประชุม กมธ.กรณีถนนหน้าถนนสามเสนทรุด
.
นายศุภณัฐกล่าวว่า หน่วยงานที่มาให้ข้อมูลกับ กมธ.ยังไม่ได้ให้รายละเอียดมากพอ แต่ที่สำคัญคือผู้รับจ้าง ตั้งแต่เกิดเหตุมาผู้รับจ้างได้มีการแถลงข่าวให้ประชาชนได้รับทราบบ้างแล้วหรือไม่ ซึ่ง กมธ.ได้มีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงแล้ว 3 ครั้ง โดยมีการส่งตัวแทนเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยที่ไม่ได้อยู่ในระดับผู้บริหารมาชี้แจง เมื่อไม่ได้เป็นระดับบริหารก็ไม่สามารถตอบอะไรได้มากและครบถ้วนมากพอ เป็นการแสดงถึงความไม่ให้เกียรติกับ กมธ.เป็นอย่างมาก
.
นายศุภณัฐกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน หน่วยงานผู้ว่าจ้างที่มีอำนาจในการบังคับผู้รับจ้างให้ต้องมาชี้แจงก็กลับไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อบังคับให้ผู้รับจ้างหรือผู้รับเหมามาชี้แจง จึงอยากให้ติดตามว่าเมื่อไหร่บริษัทผู้รับเหมาจะมาชี้แจงกับ กมธ.และตอบคำถามกับสังคม อย่างไรก็ตาม เรามีความกังวลหลายเรื่องที่สุดคือเรื่องของการสื่อสารที่ยังไม่มีความชัดเจนมากพอ ถามว่าความคืบหน้าของโครงการนี้อยู่ที่ไหน ผู้คนทราบแล้วหรือไม่ รายละเอียดของการประกันที่บอกว่ามีวงเงินประกัน 1.94 หมื่นล้าน จะครอบคลุมแบบใดบ้าง และตึก สน.สามเสนที่ต้องรื้อถอนใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
.
นายศุภณัฐกล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน หน่วยงานต่างๆ เช่น การประปานครหลวง หรือประชาชนที่อยู่รอบบริเวณเขตดุสิต หากเขามีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นเขาจะวางบิลที่ใคร ระหว่างผู้รับเหมาหรือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ซึ่งก็ไม่มีความชัดเจน ส่วนการบริหารจัดการในพื้นที่หน้างาน ตั้งแต่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาจนถึงวันนี้ คณะกรรมการยังไม่มีการลงพื้นที่เลย และการบริหารจัดการหน้างานทั้งหมดก็ยกไปเป็นคณะกรรมการที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตั้งขึ้นมา แต่หลังบ้านเขาชี้แจงชัดเจนว่าหลักๆ คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจว่าจะทำอะไรคือ รฟม.กับผู้รับจ้าง และหลักฐานต่างๆ เราจะเห็นหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนี้การตัดสินใจทุกอย่างอยู่ในมือของผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง
.
ด้านนายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ส.ส.กทม. พรรค ปชน. ในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ กล่าวว่า ได้เข้าร่วมกับกมธ.ชุดนี้ โดยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เสนอและเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่โปร่งใส และมีสัดส่วนจากภาคประชาชนมากเพียงพอที่จะให้น้ำหนัก แต่สัดส่วนที่มีคือ 2 ใน 11 คำถามคือนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบในเรื่องนี้เพียงพอ และเมื่อดูรายชื่อแล้ว ผู้แทนจาก 9 หน่วยงานใน 11 หน่วยงานภาครัฐ ตนรู้สึกผิดหวัง
.
นายปารเมศกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธาน กมธ.ชุดนี้ได้กล่าวในที่ประชุมว่าจะมีการทำหนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เสนอรายชื่อผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างอุโมงค์ใต้ดินโดยเฉพาะเพิ่มขึ้นอีก 3 ท่านที่จะมาจาก 3 มหาวิทยาลัย เพราะหากเรายิ่งมีสัดส่วนจากภาคประชาชนเยอะ ก็จะมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น
.
“สิ่งที่เราต้องกู้คืนโดยเร็วคือความเชื่อมั่นของประชาชน เพราะหากกรรมการการตรวจสอบในเหตุการณ์นี้ไม่โปร่งใส เชื่อว่าประชาชนจะไม่ให้ความไว้วางใจ โครงการนี้ในอนาคต แม้ว่าจะมีการแก้ไขในการก่อสร้าง และประชาชนยังมีความหวั่นเกรงว่าจะใช้โครงการสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงใต้หรือไม่ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการการตรวจสอบของเหตุการณ์นี้อีกครั้ง” นายปารเมศกล่าว
.
เมื่อถามว่า หากเอกชนยืนยันว่าจะไม่มาชี้แจง กมธ.จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายพชร จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษก กมธ. กล่าวว่า เราต้องมีการบี้ไปที่ รฟม. ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง แต่พวกเราจะทำเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลหลายอย่างที่ กมธ.รู้ ส่วนใหญ่พวกเราทราบจากแหล่งข่าว ไม่ใช่จากราชการเป็นผู้ชี้แจง และเป็นที่น่าสงสัยเพราะหลังจากวันเกิดเหตุประมาณ 2 สัปดาห์คณะกรรมการที่มีการตั้งขึ้นมา ทราบมาว่ายังไม่มีการประชุม จึงเป็นที่กังวลของ กมธ.เป็นอย่างมาก
.
นายศุภณัฐกล่าวเสริมว่า เราพร้อมตรวจสอบเต็มที่ แต่ขณะเดียวกันต้องให้กระแสสังคมกดดันด้วยเช่นกัน เพราะทราบกันดีว่าผู้รับเหมาท่านนี้เป็นใคร และอาจมีความเชื่อมโยงอย่างไรกับพรรคการเมือง รวมถึงพรรคการเมืองใดกำกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนที่ส่งมาจากหน่วยงานภายใต้สังกัดของกระทรวงมหาดไทย ที่เหลือเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดของกระทรวงคมนาคม และเจ้ากระทรวงคมนาคมเป็น สังกัดของพรรคการเมืองใด ชัดเจนอยู่แล้ว
.
“เมื่อเทียบกับตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่มีการรีบตั้งคณะกรรมการสอบสวน ยังถือว่าไวกว่ากรณีนี้ แต่กรณีนี้อ้อยอิ่ง คาดว่าน่าจะประชุมครั้งแรกในวันศุกร์ ถามว่าหลักฐานจะเหลืออะไร ผมทราบมาว่าในสถานีน่าจะมีกล้อง CCTV ติดอยู่ แต่ถามว่าวันนี้เราได้เห็นภาพจาก CCTV แล้วหรือไม่ ก็เพราะยังไม่เห็น เพราะเหตุใดทำไมจึงไม่เปิด นี่ถือเป็นความกังวล หากกระแสสังคมยังอยู่ที่การเปิดหรือไม่เปิดถนนเท่านั้น ไม่ได้โฟกัสเรื่องการตรวจสอบ สุดท้ายหลักฐานต่างๆ จะหายไปกับสายน้ำ และเราอาจจะไม่ได้เจอกับความจริงที่เป็นความจริง อาจจะเกิดมวยล้มตู้ได้
.
อย่างไรก็ตาม กระบวนการการตรวจสอบจะสะท้อนความจริงใจของรัฐบาลในเรื่องนี้ ซึ่งผมมีความกังวลว่าคณะกรรมการการตรวจสอบชุดนี้จะมีการเมืองแทรกแซงได้ เนื่องจากมีภาคประชาชนน้อยมาก ฉะนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียกร้องให้เพิ่มสัดส่วนคณะกรรมการ เพราะยิ่งมากคน โอกาสในการล็อบบี้ก็จะย่อมเกิดได้ยากขึ้น” นายศุภณัฐกล่าว
.
นายศุภณัฐกล่าวต่อว่า ในกระทู้ถามสดของนายปารเมศ นายกรัฐมนตรีเป็นคนตอบเองว่าเป็นปัญหาด้านวิศวกรรม และเมื่อมาคุยกันใน กมธ.ก็ค่อนข้างเชื่อว่าเป็นด้านวิศวกรรม แต่เราจะเห็นหลักฐานได้อย่างไรที่จะพิสูจน์ว่าเป็นหรือไม่เป็นวิศวกรรม ซึ่งจะสามารถพิสูจน์ได้ หากเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ถามว่าประชาชนจะไว้ใจโครงการที่เหลือของภาครัฐได้หรือไม่ ใครจะกล้าใช้
.
.
‘เขมร-บ้านหนองจาน’ เมินคำสั่งไม่ย้ายออก ด้านทางการไทย ยังไร้การเคลื่อนไหว-ผลักดัน
https://www.dailynews.co.th/news/5190225/
.
สถานการณ์พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ใกล้ถึงกำหนด 10 ต.ค. 68 ที่ให้ชาวกัมพูชาย้ายออกจากพื้นที่ แต่ปรากฏว่า ฝ่ายชาวบ้านยังไม่มีใครย้ายออกไปแต่อย่างใด ขณะที่การดำเนินการด้านการทหารและปกครอง ยังไร้การเคลื่อนไหวในการผลักดันเช่นเดียวกัน
.
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ยังคงมีประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจทหารประจำจุดตรวจ หน้าแนวชายแดนกัน แต่พบว่ามีจำนวนน้อยบางตากว่าช่วงแรกๆ ที่ผ่านมา มีพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ มาจอดรถขายของกันประมาณ 4-5 ร้านค้า
.
ทั้งนี้ ในส่วนของการครบกำหนดบังคับให้ชาวกัมพูชา ออกไปจากพื้นที่รุกล้ำบ้านหนองจาน ซึ่งจะครบในวันที่ 10 ตุลาคม ต้องย้ายออกไปทั้งหมด 170 หลังคาเรือนนั้น ซึ่งต้องมารอดูว่าทางการไทยจะดำเนินการอย่างไร อย่างเช่นในวันนี้ ก็ยังไม่มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายเข้ามาเติมในพื้นที่ดังกล่าว
JJNY : 5in1 โรมไม่ระทึกคดี│กมธ.อัดผู้รับจ้าง│‘เขมร-บ้านหนองจาน’เมินไม่ย้ายออก│ทัพบกพร้อม!ผลักดันเขมร│ไต้ฝุ่นถล่มญี่ปุ่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5404336
.
.
กมธ.อัดผู้รับจ้างไม่ให้เกียรติ ส่งจนท.ความปลอดภัยแจงถนนสามเสนทรุด กังวลไม่รีบตรวจสอบ หลักฐานหาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5405023
.
.
.
.
.
.
‘เขมร-บ้านหนองจาน’ เมินคำสั่งไม่ย้ายออก ด้านทางการไทย ยังไร้การเคลื่อนไหว-ผลักดัน
https://www.dailynews.co.th/news/5190225/
.
สถานการณ์พื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ใกล้ถึงกำหนด 10 ต.ค. 68 ที่ให้ชาวกัมพูชาย้ายออกจากพื้นที่ แต่ปรากฏว่า ฝ่ายชาวบ้านยังไม่มีใครย้ายออกไปแต่อย่างใด ขณะที่การดำเนินการด้านการทหารและปกครอง ยังไร้การเคลื่อนไหวในการผลักดันเช่นเดียวกัน
.