ติดดอย คืออะไร?

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ติดดอยคืออะไร?
คำว่า “ติดดอย” เอาง่าย ๆ ก็คือการซื้อของ (เช่น หุ้น, คริปโต ฯลฯ) ตอนที่ราคาสูงลิ่ว แต่พอซื้อเสร็จ ราคากลับดันร่วงลงเรื่อย ๆ เปรียบเหมือนเรายืนอยู่บนยอดเขาสูง แล้วราคาก็ค่อย ๆ ไหลลงเขา ทิ้งเราไว้ข้างบนคนเดียว
พอราคาตกแบบนี้ คนที่ซื้อไปก็จะขายไม่ได้ เพราะถ้าขายตอนนี้ก็จะขาดทุน ต้องรอให้ราคากลับขึ้นมาถึงจุดที่ซื้อไว้ก่อน ถึงจะเท่าทุนหรือลุ้นกำไรได้ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้แหละที่เรียกว่า “ติดดอย” หรือบางคนก็เรียกว่า “ของติดราคาแพง” นั่นเอง
ตัวอย่าง:
สมมติคุณซื้อ Bitcoin ตอนราคา 3,000,000 บาท แล้วอีกไม่กี่วันต่อมาราคาลงไปเหลือ 2,000,000 บาท แบบนี้ก็เรียกว่าคุณ "ติดดอย" เพราะซื้อแพงกว่าราคาตลาดตอนนี้ ถ้าจะขายตอนนี้ก็เจ็บตัว ต้องรอลุ้นให้ราคากลับมาที่ 3,000,000 บาทอีกครั้ง ถึงจะไม่ขาดทุนค่ะ

ทำไมนักลงทุนถึง "ติดดอย"?
หลายคนที่เพิ่งเริ่มเทรดหรือแม้แต่นักลงทุนที่มีประสบการณ์แล้ว ก็ยังเคยเจอเหตุการณ์ "ติดดอย" กันมาแทบทั้งนั้น มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคร้ายอย่างเดียว แต่จริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่ทำให้เราพลาดพลั้งได้ มาดูกันว่าอะไรคือสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้หลายคนต้องไปยืนอยู่บนยอดดอยแบบไม่ตั้งใจ

1. ซื้อช่วงราคาพีค เพราะกลัวตกขบวน (FOMO)
พอเห็นราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้นเร็ว หลายคนจะรู้สึกว่า "ต้องรีบซื้อ เดี๋ยวไม่ทันคนอื่น!" ซึ่งก็คืออาการ FOMO (Fear of Missing Out) นั่นเอง แต่พอรีบซื้อโดยไม่วิเคราะห์ให้ดีก่อน ก็อาจเผลอเข้าไปตอนราคามันขึ้นมาสูงสุดพอดี (หรือใกล้จะกลับตัวลง) แล้วพอร่วงปุ๊บ... ก็ติดดอยทันที

2. ไม่ได้วางแผน – ไม่วิเคราะห์ตลาดให้ดี
บางคนเทรดตามกระแส หรือฟังคนอื่นเชียร์ แล้วรีบซื้อเลยโดยไม่ได้ศึกษาว่าราคาตรงนี้มันโอเคมั้ย กราฟบอกอะไร ปัจจัยพื้นฐานดีหรือเปล่า ที่สำคัญคือลืมตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ไว้ด้วย พอราคาตกหนัก ๆ ก็ไม่รู้จะเอาไงต่อ สุดท้ายก็ปล่อยไว้ กลายเป็นติดดอยแบบยาว ๆ

3. ตัดสินใจด้วยอารมณ์ โดยเฉพาะความโลภ
เรื่องนี้เจอกันเยอะเลย! พอเห็นคนอื่นกำไรเยอะ ๆ ก็อยากได้บ้าง รีบเข้าไปซื้อเพราะหวังจะได้แบบนั้นบ้าง แต่บางทีพอใช้ "อารมณ์" มากกว่า "เหตุผล" ก็จะมองข้ามความเสี่ยงไป สุดท้ายก็ซื้อในจุดที่ไม่ควรซื้อ แล้วราคาก็สวนทางกับที่หวังไว้

4. ตลาดผันผวนแรง รับมือไม่ทัน
ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น คริปโต หรือ Forex ต่างก็มีความผันผวนสูงอยู่แล้ว ข่าวการเมือง นโยบายเศรษฐกิจ หรือวิกฤตต่าง ๆ ล้วนมีผลต่อราคาแบบฉับพลัน ถ้าเราไม่ได้ติดตามข่าวสาร หรือไม่มีแผนรับมือที่ดี ก็อาจเจอราคาดิ่งลงแบบตั้งตัวไม่ทัน แล้วก็ติดดอยแบบงง ๆ

5. อ่านกราฟพลาด ตีความผิดทิศ
เทรดเดอร์มือใหม่ (หรือแม้แต่มือเก๋าบางคน) ก็มีพลาดกันได้ บางทีก็อ่านกราฟผิด คิดว่าแนวโน้มยังจะขึ้นอยู่ แต่จริง ๆ แล้วมันใกล้จะกลับตัวลงแล้ว เข้าออเดอร์ไปก็เลยโดนสวนทันที กลายเป็นติดดอย ทั้งที่คิดว่ากำลังจะได้กำไรแบบปัง ๆ

สรุปสั้น ๆ:
การติดดอยส่วนใหญ่เกิดจากการ “รีบ” โดยไม่วิเคราะห์ให้ดี ทั้งเรื่องของราคา อารมณ์ และสถานการณ์ตลาด เพราะฉะนั้น ก่อนจะซื้ออะไรก็ลองหยุดคิดและวางแผนให้รอบคอบก่อน จะได้ไม่ต้องไปยืนหนาวบนดอยคนเดียว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่