เรื่อง ขอความเป็นธรรมและขอทบทวนมาตรการอายัดบัญชีผู้ถือวีซ่าระยะสั้น วีซ่านักท่องเที่ยว วีซ่าดีทีวี และวีซ่านักเรียน

เรียน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ข้าพเจ้า ในนามของสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งให้คำปรึกษาแก่นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและถือครองทรัพย์สินในจังหวัดภูเก็ต ขอเรียนร้องและขอความเป็นธรรมต่อท่าน เกี่ยวกับมาตรการของธนาคารที่ได้ดำเนินการอายัดบัญชี หรือจำกัดสิทธิการใช้บัญชีของผู้ถือ วีซ่าระยะสั้น วีซ่านักท่องเที่ยว วีซ่าดีทีวี (DTV) และวีซ่านักเรียน (ED Visa) ทั้งที่บัญชีดังกล่าวได้เปิดโดยถูกต้องตามขั้นตอนและระเบียบของธนาคารแล้ว
สำนักงานฯ ได้รับการปรึกษาจากลูกค้านักลงทุนและชาวต่างชาติหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ถือวีซ่าประเภทดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่เข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ทั้งในด้านการลงทุน การศึกษา และการพำนักระยะยาวในประเทศไทย บางส่วนของผู้ถือ วีซ่าดีทีวี และ วีซ่านักเรียน ยังพำนักอยู่ในประเทศไทยเป็นประจำ มีถิ่นฐานหรือศูนย์กลางการดำเนินชีวิตในไทย และมีภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตลอดจนภาระทางภาษีและสัญญาทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินในประเทศ
อย่างไรก็ดี มาตรการอายัดหรือจำกัดสิทธิการใช้บัญชีของลูกค้ากลุ่มนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักลงทุนและผู้พำนักโดยชอบด้วยกฎหมาย โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้
กฎระเบียบใหม่ควรใช้กับลูกค้าใหม่ ไม่ควรมีผลย้อนหลังกับลูกค้าเดิม
ลูกค้าที่ได้เปิดบัญชีไปแล้วล้วนผ่านการตรวจสอบและอนุมัติจากธนาคารตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การนำกฎระเบียบใหม่มาใช้ย้อนหลังกับลูกค้าเดิมอาจก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม และกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างครบถ้วน
ลักษณะการเข้าพำนักที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้ถือวีซ่านักท่องเที่ยว วีซ่าดีทีวี และวีซ่านักเรียน ล้วนเข้ามาในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย โดยผู้ถือวีซ่าบางกลุ่ม เช่น ผู้ถือวีซ่าดีทีวี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ทำงานในรูปแบบดิจิทัล และผู้ถือวีซ่านักเรียนบางส่วน ได้พำนักอยู่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อประกอบอาชีพ การศึกษา หรือการใช้ชีวิตในระยะยาว ทั้งนี้ มิได้มีเจตนาหรือพฤติกรรมอันเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ความจำเป็นในการใช้บัญชีธนาคารไทย
การมีบัญชีธนาคารในประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตและการบริหารทรัพย์สิน เช่น การชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ภาษี หรือค่าเล่าเรียน การอายัดบัญชีโดยไม่พิจารณาเป็นรายกรณีทำให้ลูกค้าขาดช่องทางในการบริหารจัดการทางการเงินอย่างถูกต้องและโปร่งใส
ผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในการลงทุน
มาตรการที่มีลักษณะเหมารวมโดยไม่พิจารณาตามข้อเท็จจริงรายกรณี อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและชาวต่างชาติที่พำนักโดยชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะประเทศที่เปิดกว้างต่อการลงทุนและการอยู่อาศัยระหว่างประเทศ
ข้อเสนอแนะ
เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินกับการคุ้มครองสิทธิของลูกค้าผู้สุจริต สำนักงานฯ ขอเสนอแนวทางดังนี้
ให้ใช้กฎระเบียบใหม่กับลูกค้าที่เปิดบัญชีใหม่ โดยกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขให้ชัดเจนตั้งแต่ต้น
สำหรับลูกค้าเดิม ควรพิจารณาเป็นรายกรณี โดยหากมีเอกสารยืนยันการลงทุน การศึกษา หรือการพำนักในประเทศไทย เช่น สัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ หลักฐานการศึกษา หรือเอกสารยืนยันการใช้ชีวิตในประเทศ ควรอนุญาตให้สามารถใช้บัญชีได้ตามปกติ
จัดให้มีช่องทางให้ลูกค้าชี้แจงและยื่นเอกสารประกอบก่อนการอายัดบัญชี เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของธนาคาร
สำนักงานกฎหมายฯ เห็นว่า การกำหนดให้ผู้ถือบัญชีต้องถือวีซ่าระยะยาวเท่านั้นจึงจะสามารถใช้บัญชีได้ อาจไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงของนักลงทุนและชาวต่างชาติหลายกลุ่มที่มีเจตนาสุจริตและพำนักอยู่ในประเทศไทยโดยถูกต้อง
จึงใคร่ขอความกรุณาท่านผู้บริหารโปรดพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าว เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นธรรม ความเชื่อมั่นของนักลงทุน และภาพลักษณ์ที่ดีของธนาคารกรุงเทพ ในฐานะสถาบันการเงินที่มีมาตรฐาน โปร่งใส และสนับสนุนการลงทุนอย่างยั่งยืนในประเทศไทย
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
สำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่