ทำไมเซียนพระใช้คำพูดว่า ... เหรียญพระจบที่ขอบตัด

ทำไมนักเล่นเหรียญพระเครื่องจึงมีประโยคหรือวรรคทองที่ว่า ... จบที่ขอบตัด
อธิบายยังไงก็สู้เอาภาพขอบตัดเหรียญมาเป็นตัวอย่างให้ทุกท่านได้เรียนรู้ไปพร้อมกันดีกว่า

ภาพแรก เหรียญอนุสรณ์ 100 ปีชาตกาล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ปี พ.ศ.2514 ออกวัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่
- จากภาพจะเห็นได้ว่าขอบตัดเหรียญทั้ง 3 เนื้อ มีลักษณะหรือ Pattern ตรงกัน
- ทำไมรอยตัดขอบเหรียญจึงสามาถใช้ตัดสินเก๊แท้ได้  เพราะมันสามรถพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นเหรียญที่ปั๊มตัดขอบมาจากตัวตัดขอบตัวเดียวกัน วิธีคิดแบบเดียวกันกับการพิสูจน์ว่าลูกปืนถูกยิงออกจากปินกระบอกเดียวกัน
- ปกติตัวตัดขอบ 1 ตัวจะใช้ตัดขอบเหรียญจนกว่าจะหมดหรือสึกหรอแตกเสียหายหมดสภาพก่อน พระเครื่องบางรุ่นจึงมีตัวตัดขอบหลายตัว (2 ตัว ขึ้นไป)
- ส่วนใหญ่เหรียญที่สร้างใน 2500-2530 (ยุคเดียวกับเหรียญหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ที่กำลังเป็นข่าว) จะสร้างหลักพันเหรียญขึ้นไปไปจนถึงหลักหลายๆ หมื่นเหรียญ

เชื่อว่าหลายท่านเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คงมีคำถามผุดขึ้นมาว่า แล้วเราจะมีวิธีแยกแยะ/พิจารณาขอบตัดอย่างไร ในเมื่อทุกเหรียญ (แม้กระทั่งในภาพตัวอย่าง) ขอบตัดมันดูไม่ตรงกันเป๊ะ 100% ... ติดตามตอนต่อไปได้ครับ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เกร็ดความรู้ เหรียญ 25 พุทธศตวรรษเนื้อชิน มีจำนวนสร้างรวมทั้งสิ้น 2,421,250 เหรียญ ใช่ครับ ผมไม่ได้พิมพ์ผิด
ดังนั้นเหรียญชุดนี้จึงมีแม่พิมพ์นับ 10 และ ตัวตัดขอบอีกจำนวนมาก
อ่า...แล้วเบบนี้จะดูเก๊แท้กันได้ไง มันแปลกแต่จริงครับ สายตรงหรือเซียนพระตัวจริงเขาดูเขาส่องกันทุกวัน+มีจำนวนเหรียญผ่านมือเป็นจำนวนมากจนจดจำธรรมชาติพิมพ์พระและผิวเหรียญ ได้ บางคนแค่ดูด้วยตาเปล่าก็บอกได้เลยว่าเก๊แท้อย่างไร
ปล...มันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เหมือนคุณเห็นพ่อแม่พี่น้องตัวเอง เพื่อนสนิท จนสามารถจดจำทรงผม ลักษณะการแต่งตัว ท่าเดิน จนขึ้นใจ เห็น 100 เมตรก็จำได้ครับ ไม่ใช่เรื่องวิจิตรพิศดารอะไร ขนาดเขาเล่นเกมโชว์ปิดหมดให้ดูแค่ตาดารา เซียนดารายังดูออกเลยครับว่าเป็นใคร