JJNY : คน80% ยังไม่ได้เงินเยียวยา│เลขาฯ สมช.ยันไทยหนุนมนุษยธรรม│ฮุนมาเนตจี้ไทย│เตือน กลาง ตอ.และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง

ศุภณัฐ ชี้ 6 เดือนแผ่นดินไหว คน 80% ยังไม่ได้เงินเยียวยา ซัดระบบราชการ ต้นตอทำอืด
.
.
ศุภณัฐ เผย แผ่นดินไหวผ่านมา 6 เดือน แต่คน 80% ยังไม่ได้เงินค่าซ่อมบ้าน
.
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. เขต 9 พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความ ดังนี้
.
6 เดือน แผ่นดินไหว แต่คนกว่า 80% ยังไม่ได้เงินค่าซ่อมบ้าน 
.
จากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อ 28 มีนาคม 2568 ที่มีบ้าน-คอนโด ในกทม.เสียหายจำนวนมาก และยื่นขอเงินช่วยเหลือค่าซ่อมบ้านไป โดยแบ่งเป็น ยื่นขอเงิน 45,762 เคส ไม่เข้าเกณฑ์ 1,730 เคส
.
• มีสิทธิได้รับเงิน 44,032 เคส (100%)
• ได้รับอนุมัติเงิน 8,644 เคส (19.6%)
.
ยังไม่ได้อนุมัติเงิน 35,388 เคส (80.4%)
.
*คาดว่า ยอดเงินที่ยังรอ มีมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท 
.
แต่ผ่านมา 6 เดือน คนจำนวนมากก็ยังไม่ได้รับเงิน เรียกว่า #รอแล้ว #รออยู่ #รอต่อ แบบไม่รู้อนาคต
.
โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ยังไม่อนุมัติเงิน คือ ปัญหางานด้านเอกสาร และนี่คือ ปัญหา “red tape” ในระบบราชการไทยที่ถ่วงระบบเศรษฐกิจ การกำหนดขั้นตอนมากมาย, ขอเอกสารเกินจำเป็น, จัดตั้งหลายหน่วยงานมาตรวจสอบ แต่นำมาใช้กับเรื่องหยุมหยิมจนล่าช้าไปหมด
.
กลับกันทุกปีหน่วยงานจะของบพัฒนาระบบใหม่ ผลิตเว็บ ผลิตแอพพ์ ทำ data center แต่สุดท้ายก็ทำงานแบบ analog ใช้ระบบเอกสารเหมือนเดิม ส่วนคนที่ได้เงินแล้ว เฉลี่ยได้แค่คนละ 2,000 บาท ไม่พอค่าเอกสาร ค่าน้ำมัน ค่าเสียเวลาด้วยซ้ำ
.
ทั้งนี้ ที่พวกเราเคยเรียกร้องการเพิ่มเงินช่วยเหลือค่าที่อยู่อาศัยเสียหาย ซึ่งทางกระทรวงการคลังก็รับลูกและยอมแก้ระเบียบเตรียมปรับจาก 49,500 เป็น 80,000 บาท แต่จนแล้วจนรอด รมต.คลังก็ยังไม่รีบเซ็นอนุมัติ
.
และการที่ระเบียบออกช้า ก็จะเสี่ยงกับพี่น้องที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันและบ้านเรือนเสียหาย ถ้าระเบียบเก่ายังบังคับใช้ ก็จะได้เงินน้อยมาก ๆ ครับ
.
.

.
เลขาฯ สมช. กล่าวถ้อยแถลงเวที UNHCR ยัน ไทยหนุนมนุษยธรรม ช่วยเหลือผู้พลัดถิ่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5403491
.
เลขาฯ สมช. กล่าวถ้อยแถลง เวที UNHCR ExCom ยัน ไทย หนุนช่วยเหลือมนุษยธรรมผู้พลัดถิ่น
.
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทย กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมคณะกรรมการบริหารของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาติ (UNHCR ExCom) สมัยที่ 76 ระหว่างวันที่ 6 – 10 ต.ค สำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
.
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ในนามของคณะผู้แทนประเทศไทย ขอแสดงความชื่นชมอย่างจริงใจต่อบทบาทเชิงรุกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ในการให้การสนับสนุนด้านมนุษยธรรมแก่ผู้พลัดถิ่นและผู้ที่ต้องการการคุ้มครองระหว่างประเทศ โดยความขัดแย้งและความไม่มั่นคง ยังคงดำรงอยู่ในหลายภูมิภาคของโลก ส่งผลให้ผู้คนนับล้านต้องละทิ้งถิ่นฐานของตนเองและนำไปสู่จำนวนผู้พลัดถิ่นที่สูงเป็นประวัติการณ์ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้พลัดถิ่นเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า หลักการเรื่องการแบ่งปันภาระและความรับผิดชอบระหว่างประเทศ มีความสำคัญยิ่ง ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความเห็นสอดคล้องกับข้อกังวลของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยฯ เกี่ยวกับแนวโน้มการลดลงของงบประมาณด้านมนุษยธรรมในระดับโลก ซึ่งนโยบายดังกล่าวบั่นทอนจิตวิญญาณแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และจะส่งผลกระทบในวงกว้างต่อผู้พลัดถิ่นนับล้านทั่วโลก
.
สำหรับประเทศไทย ตลอดปีที่ผ่านมา ได้บรรลุความก้าวหน้าที่สำคัญหลายประการในการบรรเทาความทุกข์ยากของผู้พลัดถิ่น ในฐานะประเทศที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา กว่า 77,000 คน เป็นเวลากว่า 4 ทศวรรษ และในวันที่ 26 ส.ค.68 ประเทศไทยได้อนุญาตให้บุคคลกลุ่มดังกล่าวสามารถทำงานนอกพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาได้ การตัดสินใจครั้งนี้ได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบบนพื้นฐานของหลักมนุษยธรรม ความมั่นคงของชาติ และผลประโยชน์แห่งชาติในภาพรวม โดยนโยบายนี้เป็นหมุดหมายสำคัญในการมุ่งสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและการพึ่งพาตนเอง ตอบสนองต่อบริบทด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
.
ทั้งนี้ ประเทศไทยจะดำเนินการตามนโยบายนี้โดยยึดหลักการและมาตรฐานระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด และขอบคุณ UNHCR ประเทศผู้บริจาค องค์กรภาคประชาสังคม ที่ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้พลัดถิ่นดังกล่าวมาโดยตลอด การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะและเตรียมความพร้อมด้านอาชีพ สำหรับการดำรงชีวิตนอกพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ รวมทั้งยินดีที่จะรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมากลุ่มเปราะบางที่ยังจำเป็นต้องพำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวฯ ต่อไปโดยเมื่อวันที่ 29 ต.ค.2567 คณะรัฐมนตรี มีมติเร่งรัดกระบวนการพิจารณาให้สถานะผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรและสัญชาติแก่บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ ประมาณ 480,000 คน นับเป็นความก้าวหน้าของนโยบายว่าด้วยการแก้ไขปัญหาความไร้รัฐไร้สัญชาติของประเทศไทย และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในฐานะประเทศผู้ร่วมก่อตั้งพันธมิตรสากลเพื่อยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ จนถึงปัจจุบัน มีผู้ยื่นคำขอประมาณ 60,000 คนที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการใหม่นี้
.
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้ พ.ศ. 2562 เพื่อให้การคุ้มครองแก่ผู้ที่จำเป็นต้องได้รับ นับตั้งแต่เริ่มดำเนินการในปี 2566 มีผู้ได้รับสถานะ ผู้ได้รับการคุ้มครองแล้ว จำนวน 7 คน และอยู่ระหว่างการพิจารณาอีก 205 คน ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างการประเมินผลการดำเนินงานของ NSM เพื่อระบุแนวทางการปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพของกลไกดังกล่าว และมุ่งมั่นดำเนินมาตรการทางเลือกแทนการกักตัวเด็กต่างด้าว ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการเมื่อ 7 ปีก่อน มีเด็กและครอบครัวกว่า 2,000 คน ได้รับการปล่อยตัวจากสถานกักตัวคนต่างด้าว และได้รับการดูแลทั้งในชุมชนและสถานคุ้มครองของรัฐ สะท้อนถึงความตั้งใจของไทยในการให้ความคุ้มครองและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เด็กทุกคน สอดคล้องกับการถอนข้อสงวนของไทยต่อมาตรา 22 แห่งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก
.
เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ประเทศไทย ห่วงใยสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงของชาวโรฮีนจา และสนับสนุนการหารือเชิงปฏิสัมพันธ์ในการประชุมระดับสูงเกี่ยวกับสถานการณ์ชาวโรฮีนจาและชนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นในเมียนมา เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ นครนิวยอร์ก และยังคงบทบาทในการปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ในการประชุมผู้ลี้ภัยโลก (Global Refuge Forum – GRF) ครั้งที่สอง เมื่อปี2566 เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ชาวโรฮีนจาในบังกลาเทศ และสนับสนุนการพัฒนาในรัฐยะไข่ ทั้งนี้ ในปีนี้ประเทศไทยได้บริจาคเงินจำนวน 700,000 บาท ให้แก่โครงการอาหารโลก เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารของชาวโรฮีนจาในบังกลาเทศ และจะรักษาความสัมพันธ์อันดีกับ UNHCR และประชาคมระหว่างประเทศ พร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมทบทวนความก้าวหน้าการดำเนินงานในการประชุม GRF ในเดือนธ.ค.นี้ อย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ขอบคุณข้า
.
หลวงใหญ่ฯ สำหรับความทุ่มเทและความเป็นผู้นำช่วยเหลือและคุ้มครองผู้พลัดถิ่นทั่วโลก ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ดำรงตำแหน่ง
.

.
ฮุนมาเนต จี้ไทยเร่งถกจีบีซี ม็อบ2ประเทศ จ่อบ้านหนองจาน
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5403574
.
ฮุนมาเนต จี้ไทยเร่งถกจีบีซี ม็อบ2ประเทศ จ่อบ้านหนองจาน
.
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม สมเด็จฯฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม โดยมีการอ้างถึงบันทึกประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 ที่ จ.เกาะกง กัมพูชาลงนามโดย พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย ระบุชัดเจนว่า ในส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นการบริหารจัดการชายแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์ในพื้นที่ระหว่างบ้านภูมิโชคชัย ตำบลโอไบจวน อำเภอโอเจริว จังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา กับบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ประเทศไทย ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทย (เจบีซี) เป็นกลไกแก้ปัญหาเกี่ยวข้องกับการสำรวจและกำหนดเขตแดนร่วมกัน และเห็นพ้องจะนำเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมเจบีซีครั้งต่อไปเป็นวาระเร่งด่วน และทั้งสองฝ่ายได้มอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) หารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการเรื่องนี้ สอดคล้องกับผลการหารือภายใต้เจบีซี
.
ความล่าช้าในการประชุมเจบีซี เดิมกำหนดไว้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเจบีซีของไทย กัมพูชาหวังว่าจะจัดการประชุมเจบีซีเพื่อหารือเรื่องนี้ในอนาคตอันใกล้นี้ที่ จ.สระแก้ว
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านหนองจาน และหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เริ่มทวีความตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเหลือเวลาเพียง 2 วันจะถึงวันที่ 10 ตุลาคม จ.สระแก้ว กำหนดผลักดันชาวกัมพูชาออกไปจากแผ่นดินไทยใน 2 พื้นที่ดังกล่าวให้หมด โดยในช่วงเช้า มีกลุ่มพลังมวลชนจากหลายจังหวัดทยอยเดินทางไปที่บ้านหนองจานเพื่อแสดงพลังขับไล่ชาวกัมพูชาออกไป พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และช่วยกันประกอบอาหารให้เจ้าหน้าที่ ขณะที่บ้านเปรยจันของเขมร หลังนายอุม เรียเตร็ย ผู้ว่าฯบันเตียเมียนเจย นำรถบัสขนคนเขมร ส่วนใหญ่เป็นเด็ก คนแก่คนพิการ และผู้หญิง จากพื้นที่อื่นเข้ามาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมทั้งพักแรมในพื้นที่ และเดินทางเข้ามาสมทบ คาดว่ากลุ่มมวลชนจะพักอยู่ในพื้นที่จนถึงวันที่ 10 ตุลาคม เพื่อเป็นโล่มนุษย์ โดยชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านที่ถูกกัมพูชายึดครองที่ดินต่างยืนยันว่าต้องการให้เรื่องจบในวันที่ 10 ตุลาคม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่