คำถามสำเร็จแล้ว
ลองอีกครั้งโดยไม่ใช้แอป
ทั้ง
Mitsubishi Electric Mr. Slim และ
Mitsubishi Heavy Duty ต่างก็เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศคุณภาพดีที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย แต่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย
คนละบริษัท กัน แม้จะใช้ชื่อแบรนด์ "Mitsubishi" เหมือนกันก็ตาม:
Mitsubishi Electric (Mr. Slim): ผลิตและจัดจำหน่ายโดย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด (เรียกสั้นๆ ว่า มิตซูบิชิ อีเล็คทริค หรือ มิตซูบิชิ กันยงวัฒนา)
Mitsubishi Heavy Duty (Heavy Duty): ผลิตและจัดจำหน่ายโดย บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ และจัดจำหน่ายในไทยโดย บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด
การจะบอกว่า "อันไหนดีกว่า" ขึ้นอยู่กับความต้องการและรุ่นที่เลือกเป็นหลัก เพราะทั้งสองแบรนด์มีรุ่นมาตรฐาน, รุ่น Inverter, และรุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษที่แตกต่างกันไป
ข้อเปรียบเทียบเบื้องต้น (อาจแตกต่างไปตามรุ่น):
คุณสมบัติ
Mitsubishi Electric Mr. Slim
Mitsubishi Heavy Duty
ความเงียบ
โดยทั่วไปทำได้ดี และมักถูกกล่าวถึงว่าเงียบกว่าเล็กน้อย
ทำได้ดีเช่นกัน อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ความทนทาน
ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและเป็นที่ยอมรับในวงการแอร์ว่าซ่อมง่าย
ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานเช่นกัน มักจะกล่าวถึงเรื่องความแข็งแรง (Heavy Duty)
คอยล์ร้อน
ในรุ่นมาตรฐานบางรุ่น อาจใช้คอยล์อลูมิเนียม หรืออลูมิเนียมผสม Zinc (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
ในรุ่นมาตรฐานบางรุ่น มักใช้คอยล์ทองแดง (ซึ่งบางคนเชื่อว่าทนทานต่อการรั่วซึมได้ดีกว่า)
ฟังก์ชัน/ลูกเล่น
ในรุ่นมาตรฐาน ฟังก์ชันอาจจะพื้นฐานกว่า (เช่น ตั้งเวลา 12 ชม.)
ในรุ่นมาตรฐาน บางทีอาจมีลูกเล่นและฟังก์ชันมากกว่า (เช่น ตั้งเวลา 24 ชม., โหมด Hi Power เย็นเร็ว)
ราคา
โดยทั่วไปในรุ่นที่เทียบเท่ากัน ราคาอาจจะสูงกว่า Heavy Duty เล็กน้อย
โดยทั่วไปในรุ่นที่เทียบเท่ากัน ราคาอาจจะถูกกว่า Mr. Slim ประมาณ 1,000 บาท (โดยประมาณ)
เทคโนโลยีเด่น
มีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น 3D Move Eye KIWAMI
มีเทคโนโลยี Jet Flow (กระจายลมได้ไกลแบบเครื่องบินเจ็ต)
ส่งออกไปยังชีต
สรุปโดยรวม:
ถ้าเน้นเรื่อง
ความเงียบ และความเชื่อมั่นเรื่องการ
ซ่อมบำรุงที่ง่าย และภาพลักษณ์ที่คุ้นเคย
Mr. Slim มักเป็นตัวเลือกที่ดี
ถ้าเน้นเรื่อง
ความทนทานสูง, เย็นเร็ว (จากเทคโนโลยี Jet Flow), และอาจจะได้
ฟังก์ชันที่หลากหลายกว่าในราคาที่คุ้มค่ากว่า Heavy Duty มักเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
คำแนะนำที่ดีที่สุด:
ให้
เทียบเป็นรุ่นต่อรุ่น ที่อยู่ในงบประมาณและความต้องการใช้งานของคุณ (เช่น Inverter vs. Standard, BTU เท่ากัน) แล้วพิจารณาจากฟังก์ชันเสริม, ค่า SEER (ประสิทธิภาพการประหยัดไฟ), และการรับประกันของแต่ละรุ่นครับ
อันนี้ เป็นการหาข้อมูลได้จาก Gemini
ส่วนแอร์เดิมที่ใช้ เป็น แอร์ Mitsubishi Mr Slim ทุกเครื่อง แล้ว ดันมีเครื่องเล็กเสียค่ะ (12-13,000 บีทียู) ซึ่งเครื่องนี้ใช้มา 10 กว่าปี
เคยซ่อมคอยล์ร้อน 4,000บาท (โดนฟัน) เปลี่นนแคปรัน 990 , ล้างแอร์ ทุกๆ 6 เดือน ไม่เคยขาด อาการวันนี้ คือ คอมไม่ทำงาน
มีแต่ลมร้อนๆปล่อยออกมา
เลยคิดจะซื้อคเรื่องใหม่ค่ะ
ช่วยโหวตหน่อยนะคะ + พร้อมเหตุผลค่ะ (อ้อ Air ที่มี Inverter ดีจริงไหม) ส่วนตัวใช้ตู้เย็น Mitsubishi Invertor พังใน 7 ปี
เพราะที่บ้านไฟกระชาก ไฟดับ หม้อแปลงระเบิบ่อย (คิดเองว่าเป็นสาเหตุ)

ภาพจาก GOOGLE
*** ปิดโหวต วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2568 เวลา 08:20:38 น.
ถ้าจะเลือกซื้อแอร์ใหม่ในวันนี้ เพื่อนๆ จะเลือก Mitsubishi Electric Mr. Slim หรือ Mitsubishi Heavy Duty
ลองอีกครั้งโดยไม่ใช้แอป
ทั้ง Mitsubishi Electric Mr. Slim และ Mitsubishi Heavy Duty ต่างก็เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศคุณภาพดีที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย แต่ผลิตและจัดจำหน่ายโดย คนละบริษัท กัน แม้จะใช้ชื่อแบรนด์ "Mitsubishi" เหมือนกันก็ตาม:
Mitsubishi Electric (Mr. Slim): ผลิตและจัดจำหน่ายโดย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด (เรียกสั้นๆ ว่า มิตซูบิชิ อีเล็คทริค หรือ มิตซูบิชิ กันยงวัฒนา)
Mitsubishi Heavy Duty (Heavy Duty): ผลิตและจัดจำหน่ายโดย บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี่ อินดัสตรี่ส์ และจัดจำหน่ายในไทยโดย บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด
การจะบอกว่า "อันไหนดีกว่า" ขึ้นอยู่กับความต้องการและรุ่นที่เลือกเป็นหลัก เพราะทั้งสองแบรนด์มีรุ่นมาตรฐาน, รุ่น Inverter, และรุ่นที่มีฟังก์ชันพิเศษที่แตกต่างกันไป
ข้อเปรียบเทียบเบื้องต้น (อาจแตกต่างไปตามรุ่น):
คุณสมบัติ
Mitsubishi Electric Mr. Slim
Mitsubishi Heavy Duty
ความเงียบ
โดยทั่วไปทำได้ดี และมักถูกกล่าวถึงว่าเงียบกว่าเล็กน้อย
ทำได้ดีเช่นกัน อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ความทนทาน
ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและเป็นที่ยอมรับในวงการแอร์ว่าซ่อมง่าย
ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานเช่นกัน มักจะกล่าวถึงเรื่องความแข็งแรง (Heavy Duty)
คอยล์ร้อน
ในรุ่นมาตรฐานบางรุ่น อาจใช้คอยล์อลูมิเนียม หรืออลูมิเนียมผสม Zinc (ขึ้นอยู่กับรุ่น)
ในรุ่นมาตรฐานบางรุ่น มักใช้คอยล์ทองแดง (ซึ่งบางคนเชื่อว่าทนทานต่อการรั่วซึมได้ดีกว่า)
ฟังก์ชัน/ลูกเล่น
ในรุ่นมาตรฐาน ฟังก์ชันอาจจะพื้นฐานกว่า (เช่น ตั้งเวลา 12 ชม.)
ในรุ่นมาตรฐาน บางทีอาจมีลูกเล่นและฟังก์ชันมากกว่า (เช่น ตั้งเวลา 24 ชม., โหมด Hi Power เย็นเร็ว)
ราคา
โดยทั่วไปในรุ่นที่เทียบเท่ากัน ราคาอาจจะสูงกว่า Heavy Duty เล็กน้อย
โดยทั่วไปในรุ่นที่เทียบเท่ากัน ราคาอาจจะถูกกว่า Mr. Slim ประมาณ 1,000 บาท (โดยประมาณ)
เทคโนโลยีเด่น
มีเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น 3D Move Eye KIWAMI
มีเทคโนโลยี Jet Flow (กระจายลมได้ไกลแบบเครื่องบินเจ็ต)
ส่งออกไปยังชีต
สรุปโดยรวม:
ถ้าเน้นเรื่อง ความเงียบ และความเชื่อมั่นเรื่องการ ซ่อมบำรุงที่ง่าย และภาพลักษณ์ที่คุ้นเคย Mr. Slim มักเป็นตัวเลือกที่ดี
ถ้าเน้นเรื่อง ความทนทานสูง, เย็นเร็ว (จากเทคโนโลยี Jet Flow), และอาจจะได้ ฟังก์ชันที่หลากหลายกว่าในราคาที่คุ้มค่ากว่า Heavy Duty มักเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ
คำแนะนำที่ดีที่สุด:
ให้ เทียบเป็นรุ่นต่อรุ่น ที่อยู่ในงบประมาณและความต้องการใช้งานของคุณ (เช่น Inverter vs. Standard, BTU เท่ากัน) แล้วพิจารณาจากฟังก์ชันเสริม, ค่า SEER (ประสิทธิภาพการประหยัดไฟ), และการรับประกันของแต่ละรุ่นครับ
อันนี้ เป็นการหาข้อมูลได้จาก Gemini
ส่วนแอร์เดิมที่ใช้ เป็น แอร์ Mitsubishi Mr Slim ทุกเครื่อง แล้ว ดันมีเครื่องเล็กเสียค่ะ (12-13,000 บีทียู) ซึ่งเครื่องนี้ใช้มา 10 กว่าปี
เคยซ่อมคอยล์ร้อน 4,000บาท (โดนฟัน) เปลี่นนแคปรัน 990 , ล้างแอร์ ทุกๆ 6 เดือน ไม่เคยขาด อาการวันนี้ คือ คอมไม่ทำงาน
มีแต่ลมร้อนๆปล่อยออกมา
เลยคิดจะซื้อคเรื่องใหม่ค่ะ
ช่วยโหวตหน่อยนะคะ + พร้อมเหตุผลค่ะ (อ้อ Air ที่มี Inverter ดีจริงไหม) ส่วนตัวใช้ตู้เย็น Mitsubishi Invertor พังใน 7 ปี
เพราะที่บ้านไฟกระชาก ไฟดับ หม้อแปลงระเบิบ่อย (คิดเองว่าเป็นสาเหตุ)
ภาพจาก GOOGLE