เท่าที่สังเกตุมาโดยทั่วไปครอบครัวที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนจริงๆเขาจะไม่สนใจเรื่องหน้าตา รูปลักษณ์ลูกหลานว่าสวยหล่อไหมแต่จะสนใจว่าทำงานไร แล้วหาเงินเท่าไหร่
ส่วนครอบครัวคนไทยมักจะให้สำคัญและผู้ปกครองคอยชมบุตรหลานตนเองตลอดทั้งที่ความจริงอาจไม่ได้หล่อสวยขนาดนั้น
และพูดกันตรงๆประเทศเราก็ไม่ได้สวยหล่อขนาดนั้นจึงไม่รู้จะเหยียดกันเองไรนักหนา บางทีพวกเราคนไทยก็แตกต่างกันมากพอจับมาอยู่รวมกันก็ดูถูกหยามผิวพรรณที่ต่างกัน บางทีรู้สึกว่าเพื่อนบ้านเขาสามัคคีกันมากกว่าเพราะเขาหน้าตาคล้ายๆกันไม่ค่อยมาดูถูกกันเอง บางคนก็ชอบติคนนั้นคนนี้ว่าหน้าเหมือนหมูเหมือนไก่จมูกบานหน้าบาน มันคืออะไร?
นี่อาจเป็นสาเหตุทำให้วัยรุ่นบางคนมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับหน้าตาตนเองเมื่อไม่ได้รับคำชมหรือความสนใจเพราะตัวเองไม่เคยได้เรียนรู้ว่าคุณค่าเราไม่ใช่หน้าตา แล้วบวกกะยุคนี้สื่อโซเชียลเยอะ และบุคคลส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นนักแสดงหรืออาชีพที่ต้องใช้หน้าตา คือไม่เคยได้เรียนรู้ว่ามันไม่เป็นไรหรอกถึงหน้าตาฉันจะไม่โดดเด่น เพราะฉันมีคุณค่าอย่างอื่นแต่คนที่ไม่ได้มีmindset แบบนี้ คนที่ไม่คิดแบบนี้ทีแรกพอเริ่มรู้ว่าหน้าตาตนเองไม่ได้ดีแบบที่อยากให้เป็นหรือถูกปลูกฝังมาก็จะปรับตัวไม่ได้
มันกลายเป็นว่าคุณต้องเอาความพอใจของคุณไปผูกกับปฏิกิริยาคนอื่นที่มีต่อรูปลักษณ์ของเรา
อย่าลืมนะเราอยู่ในโลกทุนนิยมไม่ใช่เสน่ห์นิยม ผู้บริหารไม่หล่อไม่สวยก็สำเร็จได้
สุดท้ายสิ่งที่ครอบครัวควรให้บุตรหลานคือสิ่งที่คนอื่นให้ไม่ได้คือความเมตตาอุปถัมภ์อย่างไม่มีเงื่อนไขเพราะเขาสวยหล่อหาเงินเก่งเป็นคนดีในวันนี้อาจจะพิการเสียโฉมสมองเสื่อมประพฤติชั่วในวันหน้าก็ได้
ครอบครัวที่ชอบสนใจรูปลักษณ์หน้าตา และสาเหตุโรคขี้กังวลของวัยรุ่น
ส่วนครอบครัวคนไทยมักจะให้สำคัญและผู้ปกครองคอยชมบุตรหลานตนเองตลอดทั้งที่ความจริงอาจไม่ได้หล่อสวยขนาดนั้น
และพูดกันตรงๆประเทศเราก็ไม่ได้สวยหล่อขนาดนั้นจึงไม่รู้จะเหยียดกันเองไรนักหนา บางทีพวกเราคนไทยก็แตกต่างกันมากพอจับมาอยู่รวมกันก็ดูถูกหยามผิวพรรณที่ต่างกัน บางทีรู้สึกว่าเพื่อนบ้านเขาสามัคคีกันมากกว่าเพราะเขาหน้าตาคล้ายๆกันไม่ค่อยมาดูถูกกันเอง บางคนก็ชอบติคนนั้นคนนี้ว่าหน้าเหมือนหมูเหมือนไก่จมูกบานหน้าบาน มันคืออะไร?
นี่อาจเป็นสาเหตุทำให้วัยรุ่นบางคนมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับหน้าตาตนเองเมื่อไม่ได้รับคำชมหรือความสนใจเพราะตัวเองไม่เคยได้เรียนรู้ว่าคุณค่าเราไม่ใช่หน้าตา แล้วบวกกะยุคนี้สื่อโซเชียลเยอะ และบุคคลส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นนักแสดงหรืออาชีพที่ต้องใช้หน้าตา คือไม่เคยได้เรียนรู้ว่ามันไม่เป็นไรหรอกถึงหน้าตาฉันจะไม่โดดเด่น เพราะฉันมีคุณค่าอย่างอื่นแต่คนที่ไม่ได้มีmindset แบบนี้ คนที่ไม่คิดแบบนี้ทีแรกพอเริ่มรู้ว่าหน้าตาตนเองไม่ได้ดีแบบที่อยากให้เป็นหรือถูกปลูกฝังมาก็จะปรับตัวไม่ได้
มันกลายเป็นว่าคุณต้องเอาความพอใจของคุณไปผูกกับปฏิกิริยาคนอื่นที่มีต่อรูปลักษณ์ของเรา
อย่าลืมนะเราอยู่ในโลกทุนนิยมไม่ใช่เสน่ห์นิยม ผู้บริหารไม่หล่อไม่สวยก็สำเร็จได้
สุดท้ายสิ่งที่ครอบครัวควรให้บุตรหลานคือสิ่งที่คนอื่นให้ไม่ได้คือความเมตตาอุปถัมภ์อย่างไม่มีเงื่อนไขเพราะเขาสวยหล่อหาเงินเก่งเป็นคนดีในวันนี้อาจจะพิการเสียโฉมสมองเสื่อมประพฤติชั่วในวันหน้าก็ได้