“เดโมเด็กซ์” สิ่งมีชีวิตแปดขาตัวน้อย ที่หากินและผสมพันธุ์อยู่บนใบหน้าของคุณ
🦠
#เดโมเด็กซ์
(Demodex) หรือที่เรียกกันว่า “เห็บมนุษย์” และ “ไรบนหน้า” (Face Mites) สิ่งมีชีวิตขนาดราวๆ 0.3 มิลลิเมตรในตระกูล “แมง” (Arachnid) ซึ่งมักพบได้บ่อยๆ ที่รอบดวงตาของมนุษย์
👁
เดโมเด็กซ์สามารถพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย มีอาหารหลักเป็นไขมันบนร่างกายของมนุษย์ และคาดกันว่าติดต่อจากพ่อแม่ไปสู่ลูกได้ด้วยวิธีการอะไรสักอย่าง เนื่องจากตอนที่มนุษย์เกิดมา เราจะไม่มีเจ้าเดโมเด็กซ์อยู่บนผิวหนัง
เจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ถูกพบครั้งแรกในขี้หูเมื่อปี 1842 โดยคุณ Frederick Henle และมีวงจรชีวิตที่สั้นมากๆ แค่ราวๆ 2-3 อาทิตย์ และจะวางไข่ครั้งละราวๆ 15-20 ฟอง ซึ่งด้วยอายุที่สั้นนี้เอง ทำให้ทั้งชีวิตพวกมันไม่จำเป็นต้องถ่ายอุจจาระเลย
ตามปกติแล้วเดโมเด็กซ์จะไม่สร้างผลกระทบที่ไม่ดีกับผิวหนังมนุษย์มากนัก ซึ่งก็นับว่าดีแล้ว เพราะเจ้าเดโมเด็กซ์มีอยู่บนคนจำนวนมากจนหากมันส่งกระทบที่ไม่ดีมากๆ จริงๆ โรงพยาบาลคงจะรับคนไข้กันไม่หวั่นไม่ไหว โดยเฉพาะที่ในปัจจุบันเรายังไม่มีวิธีจัดการเดโมเด็กซ์ที่หมดจดจริงๆ แล้วด้วย
แต่แม้จะบอกว่าเดโมเด็กซ์ไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนักก็ตาม เราก็มีงานวิจัยที่บอกว่าเดโมเด็กซ์มีผลกระทบต่อใบหน้าอย่างอาการผิวแดง ผมร่วง หรือสิวเรื้อรังอยู่บ้างเช่นกัน แม้ว่าวิจัยเหล่านี้จะยังเป็นที่ถกเถียงเรื่องความน่าเชื่อถืออยู่ก็ตาม
สำหรับนักวิจัยหลายๆ คนแล้ว พวกเขาอธิบายว่าเราควรจะคิดว่าเดโมเด็กซ์เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของระบบนิเวศบนใบหน้าเราไปเสียจะดีกว่า เพราะแม้เราจะตื่นกลัวเรื่องพวกมันขนาดไหน สุดท้ายแล้วเราก็หนีจากพวกมันไม่พ้นอยู่ดี
The Earth
“เดโมเด็กซ์” สิ่งมีชีวิตแปดขาตัวน้อย ที่หากินและผสมพันธุ์อยู่บนใบหน้าของคุณ 🦠
🦠
#เดโมเด็กซ์
(Demodex) หรือที่เรียกกันว่า “เห็บมนุษย์” และ “ไรบนหน้า” (Face Mites) สิ่งมีชีวิตขนาดราวๆ 0.3 มิลลิเมตรในตระกูล “แมง” (Arachnid) ซึ่งมักพบได้บ่อยๆ ที่รอบดวงตาของมนุษย์
👁
เดโมเด็กซ์สามารถพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย มีอาหารหลักเป็นไขมันบนร่างกายของมนุษย์ และคาดกันว่าติดต่อจากพ่อแม่ไปสู่ลูกได้ด้วยวิธีการอะไรสักอย่าง เนื่องจากตอนที่มนุษย์เกิดมา เราจะไม่มีเจ้าเดโมเด็กซ์อยู่บนผิวหนัง
เจ้าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ ถูกพบครั้งแรกในขี้หูเมื่อปี 1842 โดยคุณ Frederick Henle และมีวงจรชีวิตที่สั้นมากๆ แค่ราวๆ 2-3 อาทิตย์ และจะวางไข่ครั้งละราวๆ 15-20 ฟอง ซึ่งด้วยอายุที่สั้นนี้เอง ทำให้ทั้งชีวิตพวกมันไม่จำเป็นต้องถ่ายอุจจาระเลย
ตามปกติแล้วเดโมเด็กซ์จะไม่สร้างผลกระทบที่ไม่ดีกับผิวหนังมนุษย์มากนัก ซึ่งก็นับว่าดีแล้ว เพราะเจ้าเดโมเด็กซ์มีอยู่บนคนจำนวนมากจนหากมันส่งกระทบที่ไม่ดีมากๆ จริงๆ โรงพยาบาลคงจะรับคนไข้กันไม่หวั่นไม่ไหว โดยเฉพาะที่ในปัจจุบันเรายังไม่มีวิธีจัดการเดโมเด็กซ์ที่หมดจดจริงๆ แล้วด้วย
แต่แม้จะบอกว่าเดโมเด็กซ์ไม่มีผลกระทบกับมนุษย์มากนักก็ตาม เราก็มีงานวิจัยที่บอกว่าเดโมเด็กซ์มีผลกระทบต่อใบหน้าอย่างอาการผิวแดง ผมร่วง หรือสิวเรื้อรังอยู่บ้างเช่นกัน แม้ว่าวิจัยเหล่านี้จะยังเป็นที่ถกเถียงเรื่องความน่าเชื่อถืออยู่ก็ตาม
สำหรับนักวิจัยหลายๆ คนแล้ว พวกเขาอธิบายว่าเราควรจะคิดว่าเดโมเด็กซ์เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของระบบนิเวศบนใบหน้าเราไปเสียจะดีกว่า เพราะแม้เราจะตื่นกลัวเรื่องพวกมันขนาดไหน สุดท้ายแล้วเราก็หนีจากพวกมันไม่พ้นอยู่ดี
The Earth