3 กลยุทธ แก้ปัญหาแก็งคอล หลอกเอาตังค์


Gemini:

กรณีแบบในกระทู้ Pantip ที่เกิดจากความโลภและขาดสติจนถูกหลอกให้โอนเงินนั้น เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจอย่างมากครับ การป้องกันต้องอาศัยหลายมาตรการทั้งจากตัวบุคคล, ภาคธนาคาร, และภาครัฐ ผมขอเสนอแนวคิดเพื่อช่วยป้องกันคนถูกหลอกในลักษณะนี้

โดยแบ่งเป็น 3 ด้านหลัก ดังนี้ครับ

​1. การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความตระหนักรู้ (Personal Resilience)
​นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด เพราะมิจฉาชีพเล่นงานกับ "ความรู้สึก" ของเหยื่อ ทั้งความโลภ ความกลัว และความกังวล

"กฎ 3 ไม่" ต้องจำให้ขึ้นใจ

ไม่โอน: ห้ามโอนเงิน "เพื่อค้ำประกัน" "เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์" "เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียม" หรือ "เพื่อปลดล็อก" โดยเด็ดขาด

ไม่ให้: ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว รหัส OTP, PIN, หรือรหัสผ่านใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าใครโทรมาแอบอ้าง

ไม่เชื่อ: ไม่เชื่อข้อเสนอที่ดูดีเกินจริง หรือการข่มขู่ที่ทำให้เรารีบทำธุรกรรมทันที (เช่น "บัญชีคุณกำลังโดนอายัด" "คุณมีสิทธิ์ได้รับเงินรางวัล")

ฝึก "สติและสงสัย": เมื่อเจอสถานการณ์ที่ทำให้ "ใจสั่น" "รีบ" หรือ "กลัว" ให้ระลึกไว้ทันทีว่า นั่นคือกับดักของมิจฉาชีพ และให้ใช้เทคนิค "วางสาย เช็กเบอร์ โทรกลับ" เสมอ

วางสายทันที และ อย่าโทรกลับ เบอร์ที่โทรมา
​หาเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานนั้น ๆ จากเว็บไซต์ทางการ หรือ สมุดบัญชี เท่านั้น แล้วโทรไปสอบถามด้วยตัวเอง


​2. มาตรการเชิงรุกจากสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (Financial & Governmental Measures)
​มาตรการเหล่านี้จะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือป้องกันได้ง่ายขึ้น

การแจ้งเตือนแบบ Pop-up/ข้อความชัดเจนก่อนโอนเงิน:
​ก่อนกดยืนยันการโอนเงินจำนวนมาก (เช่น เกิน 50,000 บาท) ควรมี Pop-up ขนาดใหญ่ พร้อมข้อความที่รุนแรงและชัดเจน เช่น "คุณกำลังโอนเงินจำนวนมากไปบัญชีบุคคลทั่วไป ท่านแน่ใจแล้วหรือไม่ว่าบัญชีนี้ไม่ใช่บัญชีมิจฉาชีพที่ให้ท่านโอนเพื่อปลดล็อก/ค้ำประกัน ธนาคารไม่มีนโยบายให้ลูกค้าโอนเงินเพื่อการค้ำประกัน"

ฐานข้อมูลบัญชีม้ากลาง:
​มีการแชร์ข้อมูล บัญชีม้า (บัญชีที่ใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวง) ระหว่างธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถ บล็อกการโอน ไปยังบัญชีเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว หรือแสดงคำเตือนที่ชัดเจนที่สุดเมื่อลูกค้ากำลังจะโอนไปบัญชีที่มีความเสี่ยง

การศึกษาที่เข้าถึงกลุ่มเปราะบาง:
​การทำสื่อรณรงค์ป้องกันที่หลากหลายและเข้าใจง่าย เน้นการเข้าถึงกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่ค่อยใช้เทคโนโลยี โดยใช้ช่องทางที่พวกเขาใช้จริง เช่น รายการวิทยุ, โทรทัศน์, หอกระจายข่าวในชุมชน


​3. การปรับปรุงระบบและเทคโนโลยี (System & Technology Improvements)
​การใช้เทคโนโลยีเพื่อยับยั้งการหลอกลวงตั้งแต่ต้นทาง

ระบบตรวจสอบพฤติกรรมการโอนที่ผิดปกติ (Fraud Detection):
​พัฒนาระบบ AI ให้ฉลาดขึ้นในการตรวจจับรูปแบบการโอนที่ "ผิดปกติวิสัย" ของผู้ใช้ เช่น ปกติไม่เคยโอนเงินจำนวนนี้ หรือไม่เคยโอนไปบัญชีนี้มาก่อน หากตรวจพบ ให้ ระงับการโอนชั่วคราว และโทรศัพท์ติดต่อลูกค้าโดยตรงจาก เบอร์คอลเซ็นเตอร์ทางการ เพื่อยืนยันว่าลูกค้ายืนยันการโอนด้วยตัวเองหรือไม่

มาตรการควบคุมซิมผีและเบอร์โทร:
​ควบคุมการลงทะเบียนซิมการ์ดให้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันการใช้ "เบอร์โทรศัพท์" ปลอมแปลงเป็นหน่วยงานต่าง ๆ ในการโทรหลอกลวง
​โดยสรุปแล้ว การป้องกันที่ดีที่สุดยังคงอยู่ที่ สติและความไม่ประมาท ของตัวผู้ใช้เองครับ การระลึกถึง "กฎ 3 ไม่" และการตั้งสติทุกครั้งที่มีคนเร่งเร้าให้ทำธุรกรรม จะเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดครับ

ยิ้ม

การฝึกมีสติตามแบบพระพุทธเจ้า
https://m.pantip.com/topic/37487612

อย่าเบียดเบียน อย่ามีเวรต่อกันเลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่