JJNY : จ่อยื่นฟ้องตุลาการศาลรธน.│‘กัน’ตอบรับ สร้าง‘บังเกอร์’│กังวล‘คนละครึ่งพลัส’จะโดนภาษีย้อนหลัง│ฮานอยอ่วม!น้ำท่วมสูง

ConforAll จ่อยื่นฟ้องตุลาการศาลรธน. วินิจฉัยเกินอำนาจตัวเอง ห้ามเลือกตั้งส.ส.ร.โดยตรง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5400926
.
.
ConforAll จ่อยื่นฟ้องตุลาการศาลรธน. วินิจฉัยเกินอำนาจตัวเอง ห้ามเลือกตั้งส.ส.ร.โดยตรง 
.
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 เครือข่ายภาคประชาชน ConforAll ประกาศยื่นฟ้องตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต่อคณะกรรมการป้องกัน และ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ จากกรณีวินิจฉัยห้ามเลือกตั้ง ส.ส.ร. โดยตรง
.
โดย ConforAll ระบุว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญออกคำวินิจฉัย เรื่องการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยใส่ข้อความตอนหนึ่งไว้ระบุว่า “รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง” ซึ่งเป็นข้อความที่ศาลรัฐธรรมนูญเขียนเพิ่มขึ้นมาเอง ทั้งที่ไม่ใช่ประเด็นที่ผู้ร้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และไม่ใช่ประเด็นที่เกิดปัญหาข้อพิพาทกันมาก่อน แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับเขียนข้อแนะนำนี้ออกมา โดยไม่แม้แต่จะเขียนคำวินิจฉัยเพื่ออธิบายหลักอ้างอิงทางวิชาการ หรือเหตุผลทางกฎหมายที่มาสู่ข้อเสนอแนะดังกล่าว
.
เครือข่าย ConforAll เห็นว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นการกระทำที่เกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ และสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อหลักการประชาธิปไตยอันมีอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และเป็นก้าวล่วงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อสร้างข้อจำกัดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภา
.
กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ หรือ เครือข่าย ConforAll นำโดย นายบารมี ชัยรัตน์ จึงดำเนินการยื่นข้อกล่าวหาต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 5 คนว่า ได้ใช้อำนาจเกินหน้าที่หรือไม่
.
พร้อมกันนี้ ยังขอชวนทุกคนที่ไม่เห็นด้วยว่ากับคำวินิจฉัยฉบับนี้ ร่วมกันยืนยันว่าส.ส.ร. ต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และศาลรัฐธรรมนูญต้องไม่ทำเกินหน้าที่ ไปร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการยื่นเรื่องครั้งนี้เพื่อตรวจสอบศาลรัฐธรรมนูญกันที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ ในเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม 2568
.

.
‘กัน จอมพลัง’ ตอบรับ ‘จดหมายน้อย’ สร้าง ‘บังเกอร์’ สุดแกร่งให้โรงเรียนตามคำขอเด็กๆ
.
"กัน จอมพลัง" พร้อมทีมงานลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านจานเลียว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตอบรับ "จดหมายน้อย" ที่ขอให้ "พี่กัน" ช่วยสร้างบังเกอร์ที่แข็งแรง สำหรับใช้เป็นพื้นที่หลบภัยหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
.
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่พร้อมทีมงานยัง โรงเรียนบ้านจานเลียว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อตอบรับจดหมายน้อยของเด็ก ๆ ที่อยากให้ “พี่กัน” ช่วยสร้าง “บังเกอร์” เพื่อไว้ใช้เป็นพื้นที่หลบภัยของครูและเด็ก ๆ ในโรงเรียนหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยโรงเรียนนี้ มีครู 14 คน นักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 รวม 131 คน
.
โดย นางบัวเครือ ออมชมภู ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านจานเลียว กล่าวว่า ขอขอบคุณคุณกัน จอมพลัง และมูลนิธิกันจอมพลังจากใจจริง ที่เห็นคุณค่าของจดหมายน้อย ๆ ของเด็ก ๆ และลงพื้นที่มาช่วยเหลือ ถือเป็นของขวัญล้ำค่าสำหรับโรงเรียนเล็ก ๆ ตามแนวชายแดน เพราะไม่ใช่แค่การสร้างสิ่งปลูกสร้าง แต่คือการสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัย และกำลังใจให้ทั้งครูและนักเรียน ที่ต้องเผชิญสถานการณ์และความไม่แน่นอน
.
ด้าน ด.ญ.ปรีญาภรณ์ บุญเย็น และ ด.ญ.สุภัสสรา สิทธิพรม นักเรียนชั้น ป.5 ผู้เขียนจดหมายถึง พี่กัน เล่าว่า ที่ตัดสินใจเขียนไป เพราะเคยประสบเหตุสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด ต้องรีบวิ่งเข้าที่ปลอดภัยพร้อมเพื่อน ๆ และครูทุกครั้ง จึงอยากมีบังเกอร์ที่แข็งแรง เพื่อปกป้องทุกคนในโรงเรียน
.
ขณะที่ กัน กล่าวว่า จะเร่งดำเนินการสร้างให้โดยเร็ว เพราะที่นี่มีพื้นที่เหมาะสม จะสร้างให้แข็งแรงและปลอดภัยที่สุด เหมือนที่เคยทำไว้ที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งรองรับคนได้กว่า 130 คน สำหรับเด็ก ๆ จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นแน่นอน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้ กัน ได้ไปมอบบล็อกบังเกอร์ขนาดใหญ่และยางรถยนต์ให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เพื่อนำไปใช้ก่อสร้างบังเกอร์ในพื้นที่ชายแดน เพื่อเสริมความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทย สำหรับเรื่องราวจาก “จดหมายน้อย” ฉบับนี้ได้กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เชื่อมโยงหัวใจของเด็กน้อย ครู และผู้ใหญ่ใจอาสา เข้าด้วยกัน เพื่อสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” ให้ลูกหลานชายแดนได้เรียนรู้อย่างมั่นใจ และเติบโตท่ามกลางความห่วงใยจากคนไทยทั้งประเทศ.
.

.
พ่อค้า-แม่ค้า กังวล ‘คนละครึ่งพลัส’ จะโดนภาษีย้อนหลัง
https://www.dailynews.co.th/news/5181321/
.
พ่อค้า-แม่ค้า กังวล "คนละครึ่งพลัส" จะโดนภาษีย้อนหลัง แต่ยอมรับช่วยกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มลูกค้าได้จริง
.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ต.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นพ่อค้า-แม่ค้า ต่อโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ในพื้นที่ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังรัฐบาลมีความชัดเจนในการดำเนินนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
.
นายอนันท์ ทองแม้น อายุ 26 ปี เจ้าของร้านคู่หูน้ำเต้าหู้ กล่าวว่า ร้านสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล เพราะจะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้กับทางร้านได้ เนื่องจากตนเองเคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ในฐานะประชาชนทั่วไปมาก่อน และมองว่าเป็นโครงการที่ดี ช่วยลดค่าใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมาก
.
ด้าน น.ส.ศิริมาตย์ ศิริเมืองราช อายุ 47 ปี เจ้าของร้านอยากตำชุมชนเคหะ กล่าวว่า โครงการคนละครึ่งรอบนี้ สนใจที่จะเข้าร่วมเพราะเคยเข้าร่วมรอบก่อนแล้วเห็นผล สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มยอดขาย ลูกค้าก็เพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่าในรอบก่อนมีประเด็นเรื่องการเก็บภาษีย้อนหลัง ทั้งที่ตอนแรกไม่ได้ระบุเงื่อนไขเรื่องการเก็บภาษีไว้ ดังนั้นหากรอบนี้ยืนยันว่าไม่มีการเก็บภาษี ก็ยิ่งทำให้น่าสนใจที่จะเข้าร่วมแน่นอน
.
ขณะที่ นางดวงพร ทรนง อายุ 59 ปี เจ้าของร้านแม่ดวงพร กล่าวว่า รอบนี้ไม่กล้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เพราะพ่อค้าแม่ค้าหลายคนบ่นว่าภาษีเยอะ ซึ่งเราเป็นร้านค้าที่ขายของได้กำไรเพียงแค่เล็กน้อย แต่ถ้าโครงการไม่คิดภาษีจริงๆ อย่างที่บอก ก็อยากจะเข้าร่วม แต่ก็ขอให้เป็นความจริงอย่าโกหก เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีกระตุ้นเศรษฐกิจลูกค้าก็เพิ่มขึ้น และถ้าจะนำโครงการนี้กลับมาใช้จริงก็อย่ามีเงื่อนไข ถ้าจะให้ก็ให้ไปเลย เพราะเศรษฐกิจแบบนี้พ่อค้าแม่ค้าจะตายอยู่แล้ว และอีกเรื่องที่อยากจะฝากนอกเหนือจากเรื่องปากท้องประชาชนแล้ว ก็คือเรื่องของยาเสพติด อยากให้จับให้จริงจังให้หมดไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่