ปรัชญาเศรษฐศาสตร์: โครงสร้างพื้นฐาน

กระทู้สนทนา
การจัดทำแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานเพื่อคนชนบทและเชื่อมความสัมพันธ์ในกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว
ยังได้จัดทำแผนแม่บททางยกระดับกรุงเทพและปริมณฑล ตั้งแต่ปี 2536 และ แผนแม่บท MRTปี 2537
โดยมอบนวัตกรรมป้องกันน้ำท่วม จึงได้รับมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อ 17 พฤษภาคม และ
27 กันยายน 2537 ที่สำคัญคือรถไฟใต้ดิน MRT
มาตราฐานโลก พร้อมสถานี Sot Power และค่าโดยสาร ถูกกว่า BTS

สืบเนื่องจากปัญหาระหว่าง MRT และ BTS
คุณพ่อสุขวิช รังสิดพล จึงเสนอให้นายกรัฐมนตรีชวนปฏิรูปราชการเมื่อปี 2537 และในที่สุดแผนแม่บทปฏิรูประบบราชการ จัดทำเสร็จเมื่อปี 2540 พร้อมๆ กับแผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ และทั้ง 2 แผนแม่บท
มีระยะเวลาดำเนินงานระหว่างปี 2540 - 2544

สุดท้ายนี้ ปรัชญาเศรษฐศาสตร์ : สุขวิชโนมิกส์
ซึ่งใช้จัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 ซึ่งมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ในปี 2020 ได้นำมา ซึ่งการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านต่างๆ อาทิ

1.ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจชุมชน : สินค้าหรือผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจชุมชน วิสาหกิจชุมชน และอุตสาหกรรมชุมชนถูกรีแบรนด์เป็น OTOP ในรัฐบาลประชานิยม ส่งผลให้สินค้า ด้อยคุณภาพซ้ำซ้อน
เงินทุนและเงินกู้เศรษฐกิจชุมชน ถูกรีแบรนด์เป็นกองทุนหมู่บ้านและธนาคารประชาชน ส่งผลให้คนไทยเป็นหนี้สูงสุดในอาเซียน 

2. แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 กำหนดให้รัฐบาลต้องสร้างระบบประกันสุขภาพ ให้ครอบคลุมคนไทย และประเทศไทย 100% โดยไม่เก็บคำใช้จ่าย (รัฐสวัสดิการ)
และรัฐธรรมนูญ 2540 ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ได้บรรจุสิทธิด้านการรักษาพยาบาลของคนไทยในมาตรา 52, 62 และ 82


3. รัฐบาลประชานิยม นำระบบซึ่งออกแบบเพื่อท้องถิ่นของแพทย์เพียงคนเดียวมาใช้ระดับชาติ โดยไม่มีการปรับปรุง เพื่อความนิยมทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงความสูญเสียของคนไทย ทั้งผู้ป่วย ญาติ และ บุคลากรทางการแพทย์ ระบบประกันสุขภาพของประเทศไทย ซึ่งถูกออกแบบสำหรับท้องถิ่นเล็กๆ จึงสร้าง ปัญหาต่อเนื่องในคนไทย ระบบสาธารณสุขไทย และประเทศไทยมาแล้ว 23ปี ตั้งแต่เริ่มใช้ในทุกมิติ เนื่องจากละเลยกระบวนการ ประชาชนมีส่วนร่วมของแผนพัฒนาฯ 8และรัฐธรรมนูญประชาชน 2540

4.แผนแม่บทการเคหะแห่งชาติ 2540-2544 ถูกรัฐบาลประชานิยมนำไปรีเบรนด์เป็น บ้านเอื้ออาทร

5.แผนแม่บทปฏิรูประบบราชการ 2540-2544 

6. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี 29 มีนาคม 2540
พักหนี้เกษตรกร ฯลฯ ซึ่งผู้นำรัฐบาลประชานิยมนำไป รีเบรนด์ จนกระทั่งเกิดความเสียหายและประเทศไทย ไม่ได้เป็นประเทศพัฒนาแล้วในปี 2020หรือ 2563 ตามเป้าหมายของแผนพัฒนาฯ 8


Sukavichinomics (สุขวิชโนมิกส์) : โครงสร้าง พื้นฐาน

สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinonics) : โครงสร้างพื้นฐาน ทั่วประเทศ

1) Sukavichinomics: The 1993 Mass Transit
Systems in 8 Regional Cities (สุขวิชโนมิกส์ : แผนแม่บาทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ ปี 2536) เชียงใหม่,
พิษณุโลก, ขอนแก่น, นครราชสีมา, สงขลา, ภูเก็ต,ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

2) Sukavichinomics: The 1994 High-Speed Trains
Mater Plan (สุขวิชโนมิกส์ : แผนแม่บทระบบรถไฟความเร็วสูง
3400 กิโลเมตร 6 เส้นทาง ปี 2537) เชียงใหม่, หนองคาย.
อุบลราชธานี, นครราชสีมา, อรัญประเทศ, มาบตาพุด.
ปาดังเบชาร์ และสุไหงโกลก

3) Sukavichinomics: The 1997 Asian Expressways Master Plan in Thailand. 28 February 1997
(สุขวิชโนมิกส์ : แผนแม่บททางพิเศษ 12 สาย 6731 กิโลเมตร
28 กุมภาพันธ์ ปี 2540)

4) Sukavichinomics: The 1997 National Highway
Master Plan, 13 Routes, 4,135 km 22 April 1997 
(แม่บททางหลวง 13สาย 4135 กิโลเมตร 22 เมษายน 2540)


สุขวิชโนมิกส์ : โครงสร้างพื้นฐานกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

สุชวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) : ทางยกระดับ ปี 2536 ของการทางพิเศษฯ
ขยายทางยกระดับจาก 27.1 เป็น 305 กิโลเมตร
แก้ไขปัญหาจราจรทางด่วนเฉลิมมหานคร (27.1 กิโลเมตร)
5.1 ยกเลิกทางลงวิทยุ (มีสัญญาณจราจร) เปลี่ยนเป็นเพลินจิต เหนือ - ใต้
5.2 สร้างสะพานต่างระดับคลองเตย - ดาวคะนองบริเวณตลาดปีนัง
5.3 ขยายทางลงพระราม4 ให้กว้างขึ้น

6. สุขวิชโนมิกส์(Sukavichinomics): MRT 2537 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 17 พฤษภาคม 2537
พื้นที่-ต้อง-สร้างระบบใต้ดิน คือ ส่วนกลาง 25 ตารางเมตรคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ 27 กันยายน 2537 แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (MTMP)
ระยะทาง 135 กิโลเลตร ขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร และระบบขนส่งมวลขนรองเพื่อเข้าผู่ระบบหลัก 11 สายระยะทาง 206 กิโลเมตร

สุขวิชโนมิกส์ (Sukavichinomics) : ผลงาน ซึ่งสำเร็จเป็นรูปธรรม

1) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8
จัดทำด้วยกระบวนทัศน์ใหม่ เริ่มใช้จริง 1 พฤศจิกายน 2539
หลังจากแปลงเป็นแผนยุทธศาสตร์ เป็นแผนปฏิบัติการ อ้างอิง การแปลงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 ไปสู่การปฏิบัติ
https://dl.parliament.go.th/handle/
20.500.13072/367183


แผนพัฒนาฯฉบับที่ 8 มีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ในปี 2020 หรือ 25 ปี หลังจากอภิวัฒน์การศึกษา 2538/1995


2) ความสำเร็จของการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 วันที่ 8พฤษภาคม 2540 คนไทย อายุ 3 - 17 ปี ทุกคนได้รับบริการการศึกษา
ก่อนอภิวัฒน์การศึกษา2538 แรงงานไทย 79.1 % จบชั้นประถมหรือต่ำกว่า มีคนไทย อายุ 3 - 17 ปี เพียง12.33 ล้านคนได้รับบริการการศึกษาหลังจากอภิวัฒน์การศึกษา รับเพิ่มได้ 4.35 ล้านคนจากครอบครัวเกษตรกรยากจน ในพื้นที่ทุรกันดาร ห่างไกล เสี่ยงภัย แห้งแล้ง เป็นเขา และเหตุผลอื่นๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการไม่สามารถจัดบริการการศึกษาชั้นประถมตามสิทธิ์คนไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ถึงปี 2538
หลักฐานอ้างอิง https://web.archive.org/web/20240701002852/http://old-book.ru.ac.th/e-book/e/EF308(47)/EF308(47)-1.pdf


3) ผู้ปกครองของคนไทย 16.68 ล้านคน ผู้ได้รับบริการการศึกษาดี มีคุณภาพ ใกล้บ้านรวมถึงคนพิการมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญประชาชน 2540

ด้วยสันติวิธีหลังจากมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 และ มีส่วนร่วมในการอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 จนสำเร็จเป็นรูปธรรม


สุขวิชโนมิกส์: รับคุนจนอายุ 3-17ปี 4.35ล้านคน เพิ่ม (เดิมมีเพียง 12.33 ล้านคนในระบบ เนื่องจากคนจน ไม่ได้เรียน ) ส่งผลให้ คนไทย ทุกคน อายุ 3-17 ปี ซึ่งมี 16.68 ล้านคน ได้รับบริการการศึกษาพื้นฐาน 12 ปี + อนุบาล 3ปี ที่มาของ รัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 43 และ 80 รัฐธรรมนูญไทยฉบับแรก มอบสิทธิการศึกษามากกว่า ชั้นประถมให้คนไทย พร้อมอาหารกลาง วัน, รถรับส่ง หรือค่าเดินทางอยู่ประจำได้อาหาร 3 มื้อ เครื่องแบบบครบชุดทุกชุด และ อุปกรณ์การเรียนครบครัน


4)แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 คือจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนพลังทางสังคมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างใหญ่ และนำไปสู่การสร้างแนวคิดพื้นฐานในการจัดทำรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 ระหว่าง26 ธันวาคม2539  เริ่มกระบวนการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ - 11 ตุลาคม2540 ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540

รางวัล จากนานาชาติ ของการอภิวัฒน์การศึกษาไทย2538

1) 1996 "During his trip to the Philippines, H.E. Mr. Sukavich Rangsitpol was conferred an Honorary Degree of Doctor of Education by the Philippine Normal University. His will to reform education and strong leadership in educational management were highly commended."
https://web.archive.org/web/20220904100222/https://www.seameo.org/vl/library/dlwelcome/photogallery/president/sukavich.htm


2) ปี 2540 UNESCO มอบรับรางวัลการจัดบริการการศึกษาเป็นเลิศ 
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000114483  


3) ปี 2541 UNESCO มอบ รางวัลการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการบริหารการศึกษา และ บริการการศึกษา 
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000141834


คือ หลักฐานยืนยัน ว่าการบริการการศึกษาของไทยยุคอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ดี มีคุณภาพและเป็นสาเหตุให้คนไทย ซึ่งมองเห็นอนาคตที่ดีของ ลูกหลาน และร่วมมือกันในการจัดทำรัฐธรรมนูญประชาชน 2540 อย่างสันติวิธี


สุขวิชโนมิกส์ : โครงการยังไม่เริ่ม เพราะประเทศไทยเริ่มใช้นโยบายประชานิยม ตั้งแต่ ปี 2544 แทนปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์ซึ่งใช้ในช่วงเวลา 2536 - 2543 


แผนแม่บทในปี 2536 จะวางรากฐานไว้อย่างชัดเจนและได้รับการสนับสนุนในเชิงนโยบายระดับต้นแบบ แต่โครงการหลัก ๆจำนวนมากกลับ หยุดชะงักหรือยังไม่เริ่มดำเนินการเช่น : แผนแม่บทระบบขนส่งมวลชน 8 เมืองใหญ่ ปี 2536
Sukavichinomics: The 1933 Mass Transit Systems in 8 Regional Cities
โครงการชุดคลอง 200,000 กม. (2536) The 1993
Sukavichinomics 200000 Kilometers Canel
The 1904 Bangkok Ocean Terminal (2537)
The 1994 Bangkok Smart Sports Cty (2537)
Thaland National Olympic Complex (ซะอำ, 2539)

เพราะการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองปี 2544
เปลี่ยนแนวทางการพัฒนาประเทศจากการลงทุนระยะข้าวในโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา สาธารณสุข และ ฯลฯ
หลักฐานอ้างอิง The Four Pillars of Sukavichinomics – Keynote Address by His Excellency Mr. Sukavich Rangsitpol at the SEAMEO Council Conference

ประเทศไทยใช้แนวทาง ประชานิยมระยะสั้น ตั้งแต่ปี 2544 จนกระทั่งปัจจุบัน 2568 ซึ่งมุ่งตอบสนองความพึงพอใจเฉพาะหน้าในระดับมหาชน แทนการวางรากฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยในระยะยาว ด้วยปรัชญาเศรษฐศาสตร์สุขวิชโนมิกส์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่