[img]https://static.thairath.co.th/media/dFQROr7oWzulq5Fa6ri8588iGwfl4L0ahK7NOAAam1uT87AFiIiYXxOw8bBP2KE24hy.jpg[/img]
เปิดขั้นตอนสมัคร - อัปเดต แอปฯ "เป๋าตัง" แนะวิธีแก้ปัญหา หากใช้งานไม่ได้ ต้องทำอย่างไร เตรียมความพร้อมก่อนลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส"
ความคืบหน้า "โครงการคนละครึ่งพลัส" หลังจากล่าสุด วันที่ 6 ต.ค. 68 นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ว่า จะมีวาระแผนบูรณาการที่มอบหมายงานให้รองนายกรัฐมนตรีไปดูแลงานบูรณาการด้านต่างๆ และอาจจะดูเรื่องงบกลางที่จะนำไปใช้ในโครงการคนละครึ่งพลัสเข้า ครม.
ลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" เมื่อไร
15 ตุลาคม 2568 : เปิดลงทะเบียนร้านค้า
โดยเอาระบบเดิมมาใช้ ส่วนร้านที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบก็เปิดให้เข้าด้วย ประกอบด้วย ร้านอาหาร-เครื่องดื่มทั่วไป, ผู้ประกอบการบริการ นวดสปา ทำผม ทำเล็บ และ บริการขนส่งสาธารณะ อาทิ แท็กซี่ รถรับจ้าง ที่มีใบขับขี่รถสาธารณะ ผู้ประกอบการบริการขนส่งมวลชนสาธารณะ
20-26 ตุลาคม 2568 : เปิดลงทะเบียนสำหรับประชาชนทั่วไป
ประชาชน 20 ล้านสิทธิ ลงทะเบียนผ่าน "เป๋าตัง"
เป็นระบบมีอยู่แล้ว โดยต้องทำเร็ว ทำทันที ใครเคยลงทะเบียนแล้วก็มายืนยันสิทธิเพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว ใครยังไม่มีก็มาลงทะเบียน
29 ตุลาคม 2568 : เริ่มใช้จ่าย "คนละครึ่งพลัส"
เริ่มใช้จ่าย "คนละครึ่งพลัส" ได้ทันที จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
หากใช้ไม่ถึง 200 บาท สามารถสะสมได้
ช่องทางลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" ปี 2568
โดยก่อนหน้านี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เผยว่า สำหรับคนที่เคยได้รับสิทธิคนละครึ่งเฟส 5 มาก่อน แล้วต้องการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส สามารถเข้าไปที่แอปฯ เป๋าตัง เพื่อยืนยันตัวตน จะถือว่าเสร็จเรียบร้อย แต่ถ้าไม่ได้อยู่ในโครงการคนละครึ่งเฟส 5 มาก่อน ต้องไปลงทะเบียนใหม่ ซึ่งจะไปลงทะเบียนทางไหนก็ได้
แอปฯ "เป๋าตัง"
เว็บไซต์คนละครึ่ง
ธนาคารกรุงไทย
ทั้งนี้ เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะแจ้งว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน ได้สิทธิเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ทางกระทรวงการคลังเป็นผู้ทำเองทั้งหมด ซึ่งมีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว
ขั้นตอนสมัครแอปฯ "เป๋าตัง" เตรียมลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส"
วิธีติดตั้ง แอปฯ เป๋าตัง และการลงทะเบียน
1. เปิดแอปฯ App Store หรือ Google Play หรือ Play Store
สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ ระบบปฏิบัติการ iOS - คลิกที่นี่
สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ ระบบปฏิบัติการ Android - คลิกที่นี่
2. พิมพ์ค้นหา "เป๋าตัง" ในช่องค้นหา
3. เลือก "GET" หรือ เลือก "ติดตั้ง"
4. เมื่อติดตั้งเสร็จ เปิดแอปฯ เป๋าตัง
5. ให้ความยินยอมจัดการข้อมูลยืนยันตัวตน
6. เตรียมบัตรประชาชน
7. ถ่ายรูปหน้าบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตน
8. ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน และกรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อรับรหัส OTP
9. ใส่รหัส OTP 6 หลักที่ได้รับจากโทรศัพท์มือถือ
10. กรอกข้อมูล บัตรประชาชน
11. เลือกวิธียืนยันตัวตน ด้วยบัญชี Krungthai NEXT หรือ ยืนยันตัวตนด้วย การสแกนใบหน้า
"แอปฯ เป๋าตัง" ใช้งานไม่ได้ ต้องทำอย่างไร
สำหรับใครที่เตรียมลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" หรือ คนละครึ่ง 2568 แล้วประสบปัญหาเข้าแอปฯ "เป๋าตัง" ไม่ได้ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของธนาคาร ดังนี้
1. อัปเดต App ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
สำหรับผู้ใช้งาน Android แนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 10.0 ขึ้นไป
หากไม่สามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการ Android ให้เป็น 10.0 ขึ้นไปได้ แนะนำให้ติดต่อศูนย์บริการหรือผู้ผลิตอุปกรณ์โดยอาจต้องพิจารณาการอัปเกรด หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ที่รองรับ
2. วิธีการตรวจสอบระบบปฏิบัติการโทรศัพท์
1. ไปที่เมนู การตั้งค่า (Setting)
2. เลือก "เกี่ยวกับโทรศัพท์" (About phone)
3. เลือก "ข้อมูลซอฟต์แวร์" (Software Information)
4. ดูเวอร์ชัน Android (Android Version)
โดยก่อนหน้านี้ ทางธนาคารฯ ได้ระบุแล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 68 เป็นต้นไป "แอปฯ เป๋าตัง" และ "ถุงเงิน" เวอร์ชันต่ำกว่าที่ธนาคารฯ กำหนด จะไม่สามารถเข้าใช้งานได้ ผู้ใช้งานมือถือ Android จำเป็นต้องอัปเดตตัวเครื่องให้เป็นระบบปฏิบัติการ Android Version 10 ขึ้นไป เพื่อเหตุผลดังต่อไปนี้
1. เพิ่มศักยภาพระบบรักษาความปลอดภัยของตัวมือถือให้มากขึ้น ยิ่งเวอร์ชันสูง ยิ่งป้องกันความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์ได้ดีขึ้น ส่งผลให้การใช้งานแอปของธนาคารได้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
2. ทำให้มือถือรองรับการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ บนแอปฯ ของธนาคารได้ดีขึ้น ทั้ง Krungthai NEXT, เป๋าตัง และถุงเงิน
วิธีใช้สิทธิ "คนละครึ่ง" ทำอย่างไร
นายภราดร ปริศนานันทกุล ได้เปิดเผยไว้ว่า รัฐบาลจะเปิดให้มีการลงทะเบียนใหม่ ในโครงการคนละครึ่งพลัส ช่วงต้นเดือน ต.ค. แต่ผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ขณะที่ผู้ที่อยู่ในเฟสก่อนหน้าหรือไม่เคยเข้าร่วมต้องลงทะเบียนใหม่ โดยประชาชนจะสามารถเริ่มใช้เงินได้ปลายเดือนตุลาคม หากการลงทะเบียนเสร็จสิ้นเรียบร้อย โดยใช้แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" เช่นเดิม
อย่างไรก็ตาม "โครงการคนละครึ่ง" ที่ผ่านมา ได้กำหนดเงื่อนไขการใช้สิทธิไว้ ดังนี้
ผู้ที่ได้รับสิทธิจะต้องใช้จ่ายครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กำหนด
ใช้จ่ายได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น โดยต้องชำระเงินผ่าน แอปฯ "เป๋าตัง" และร้านค้าใช้ แอปฯ "ถุงเงิน"
สามารถใช้สิทธิ "คนละครึ่ง" ได้เวลา 06.00-23.00 น. ไม่สามารถใช้สิทธินอกเวลาดังกล่าวได้
ไม่หักสิทธิ หากใช้ไม่หมดในแต่ละวัน โดยระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิ และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 06.00 น. ของทุกวัน
ทั้งนี้ สำหรับ "คนละครึ่งพลัส" หรือ คนละครึ่ง 2568 มีการเพิ่มเงินเป็น 200 บาท ดังนั้นผู้มีสิทธิ์จะสามารถใช้จ่ายสูงสุดได้ไม่เกิน 200 บาท ต่อคนต่อวัน
"คนละครึ่ง 2568" เช็กคุณสมบัติผู้ร่วมโครงการ ใครลงทะเบียนได้บ้าง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เผยถึง "โครงการคนละครึ่งพลัส" ว่า หลักการ "คนละครึ่ง" คล้ายเดิม ประชาชนไปซื้อของ รัฐบาลออกให้ครึ่งหนึ่ง จากเดิมวันละ 150 บาท แต่คนละครึ่งพลัส เพิ่มเป็น 200 บาท คือ รัฐบาลสมทบ 200 บาท ประชาชนมี 200 บาท สำหรับสิทธิที่ต่างจากเดิม คือ ผู้ที่สามารถลงทะเบียนได้นั้น จะเริ่มตั้งแต่ผู้ที่มีอายุ 16 ปีบริบูรณ์
ดังนั้น "คนละครึ่ง 2568" ผู้ที่สามารถลงทะเบียนได้ จะมีคุณสมบัติดังนี้
อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (จากเดิมอายุ 18 ปี)
มีสัญชาติไทย
ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
อย่างไรก็ตาม โครงการคนละครึ่งพลัส หรือ คนละครึ่ง 2568 ยังต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากการประชุม ครม. หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป.
https://www.thairath.co.th/news/society/2887432
...
ขั้นตอนสมัคร "เป๋าตัง" แนะวิธีอัปเดตแอปฯ เตรียมลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส"